หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 ... 37
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ (แตกหน่อ)  (อ่าน 218043 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ผมอยากเปิดท้ายขายเสื้อผ้าครับเฮีย
เบื่อเป็นลูกจ้างคนอื่นแล้ว รอปลดหนี้หมดก่อน
บันทึกการเข้า

nuugo.blogspot.com
instagram.com/nuugo
 ฮี่ๆ เห็นแต่ละคนฝันแล้ว  อืมมมมห์ ปลื้ม ๆ นะ
แต่ตูนเรียนด้านนี้มา กลับฝันไปอีกแนว ปัจจุบันก็กำลังพยายามสร้างหลักฐานให้มั่นคง
เพื่อจะได้สานฝันให้มันเป็นจริงขึ้นมา  อ๊าง~

ปัจจุบันนอกจากงานบริษัทที่ทำเป็นฝ่ายการตลาด ได้ติดต่อพบปะพูดคุยเรื่องธุรกิจมากมาย
ทำให้มีความคิดเรื่องนั้น เรื่องนี้ เข้ามาในหัว มีติดต่อธุรกิจนอกเวลา เป็น Project เล็ก ๆ
ซึ่งพึ่งจะเริ่มไ้ด้ไม่นาน กำลังรอลุ้นผลอยู่ว่าจะสำเร็จไหม ?

เวลาว่างวันหยุดบ้าง ตอนกลางคืนบ้าง ก็จะรับงาน Freelance ทำงานส่งผ่าน internet
เช่นพวก Flash Animation, Web Design ฯลฯ งานอะไรก็ได้รับหมด 555

พยายามทำทุกอย่างเพื่อสร้างหลักฐานให้กับตัวเองและครอบครัว
ตอนนี้ทำงานทุกอย่างที่สามารถหามาได้ อยากทำงานเก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ เพราะความฝันของ คือ

การออกไปอยู่นอกเมืองไกล ๆ อากาศดี ๆ
มีบ้านหลังเล็ก ๆ สักหลัง มีเงินเก็บพอกินพอใช้ เลี้ยงพ่อแม่ได้
ทำงานผ่าน Internet นั่งบริหารงาน + ทำงานอยู่ที่บ้านสวน
มีเงินพอกินพอใช้ อยู่อย่างพอเพียง ไม่อยากอยู่ในเมืองที่วุ่นวาย ไม่อยากต้องเดินเหน็ดเหนื่อย
เดินออกไปนอกบ้าน มีสวนผลไม้ ต้นไม้ พืชผักสวนครัวเล็ก ๆ ดอกไม้สวย ๆ หน้าบ้าน

 อ๊าง~ อ๊าง~ ความฝันอันสวยงาม  อ๊าง~ อ๊าง~
บันทึกการเข้า

แล้วแบบพวกhi5 พวกบล็อคพวกนี้ละครับเข้าข่ายNetwork Marketingไหมครับ
บันทึกการเข้า

ผมอยากเปิดท้ายขายเสื้อผ้าครับเฮีย
เบื่อเป็นลูกจ้างคนอื่นแล้ว รอปลดหนี้หมดก่อน

เอ้า
ไอ้ร้านที่เด็กเชียร์เบียร์สวยๆ นั่นไง
ผมนะโคตรอยากทำ

เคยลงทุนทำร้าน กะเพื่อน
แต่งร้านแบบโรงเรียนประถม
มีกระดานดำ ไปหาซื้อโต๊ะนักเรียนมา
มันขัดแย้งในใจ แต่ไม่เท่ากะเราไปอยู่ร้าน
แล้วเพื่อน กินแบบค่อยจ่าย
เราก็รักเพื่อนเอ้า ติดก่อนก็ติดก่อน
สุดท้ายไม่มีเงินมาหมุน  เจ๊งครับ
บันทึกการเข้า

โรงเรียนสอนศิลปะทอศิลป์
ความฝันของตูน ดีเยี่ยมแล้ว
สวนผลไม้นั้นผมตามดูเสมอๆ ไปดูในบล้อกด้วยนะ  เจ๋ง
บันทึกการเข้า

โรงเรียนสอนศิลปะทอศิลป์
ร้านที่ทำ แค่เอามันครับ จริงๆ นะ
เราไม่รู้เรื่องธุรกิจกัน เราไม่มีเงินทุน มีแต่ร้านที่เขาทำไว้แล้ว
เราแค่มาดูต่อ แล้วก็หมุนเงินตามน้ำต่อไป

หน้าฝน ไม่ค่อยเวิร์ค คนหนี
เราจะอดทนจนถึงหน้าหนาวครับ วัดกันอีกทีตอนนั้น
ได้ก็ต่อ ไม่ได้ก็หยุด

ไปยิง บีบี ต่อ  ฮี่ๆ
บันทึกการเข้า

nuugo.blogspot.com
instagram.com/nuugo
งานในระบบ Network Marketing จริงๆมันมีหลายรูปแบบนะครับ

ระบบหลักการทำงานของมันก็คือ การหาคนเพิ่มขึ้นมาช่วยกันทำงานระบบเดียวกัน
เพื่อสร้างกลุ่มแรงในการทำงานเป็นขั้นเป็นลำดับ แล้วเหวี่ยงระบบให้ทำงานได้ใหญ่มากขึ้น แรงขึ้น
โดยผลตอบแทน ก็จะได้ตามขนาดของการทำงานของกลุ่มแรงที่เรามีส่วนร่วมอยู่ ทำให้ระบบมันเดินของมันต่อไป

ธุรกิจแบบนี้เลยมีอีกชื่อว่า Multi Layer Marketing หรือการทำตลาดหลายชั้น

ส่วนรายละเอียดของระบบก็มีแตกลงไปอีก ตามแต่ละที่จะคิดกันได้ ทั้ง Binary และ อื่นๆ
ซึ่งความยากง่ายของการได้ผลตอบแทน หรือ จำนวนที่ได้ ก็จะแปรผลกันไปตามแต่ละระบบ

เรื่องแชร์ลูกโซ่ ถามว่าเป็นระบบ Network Marketing มั๊ย จริงๆหลักการมันคล้ายๆกัน แต่ต่างกันครับ
เรื่องของแชร์ลูกโซ่ ส่วนใหญ่จะเป็นการที่ว่า เมื่อเราชักนำคนเข้ามาร่วมลงทุน เราจะเอาเงินจากคนที่มาสมัครใหม่ส่วนหนึ่งนั้น
จ่ายให้กับคนที่แนะนำมา เพื่อเป็นค่าตอบแทน ยิ่งพาคนมาสมัครมาก ก็จะได้เงินผลตอบแทนเยอะ เช่นนี้เป็นต้น
ดังนั้น ทำไมมันถึงผิดกฏหมาย ก็เพราะว่า ระบบนี้มันไม่สามารถหยุดได้ มันต้องชวนไปเรื่อยๆ เพื่อดันระบบให้มันไหลต่อไป
มีเงินหมุนจากคนใหม่ๆเรื่อยๆ มันไม่ใช่การบริการสินค้าแต่มันเป็นการบริหารจำนวนคน เลยผิดตรงนี้...

ถ้าสนใจเพิ่มเติม ลองหาหนังสือ ความจริงเกี่ยวกับธุรกิจ MLM อ่านดูครับ หน้าปกสีขาวๆ
บันทึกการเข้า

- R u Happy with ur Rock&Roll ? -
ความฝันของตูน ดีเยี่ยมแล้ว
สวนผลไม้นั้นผมตามดูเสมอๆ ไปดูในบล้อกด้วยนะ  เจ๋ง

ขอบคุณค่ะพี่โอ๋มากค่ะ ปลื้ม ปลื้ม ๆ แต่สวนนั้นเป็นของพ่อค่ะ
ยังรู้สึกว่าอยากทำแบบที่ทำขึ้นมา หามาด้วยตัวเราเอง น้ำพักน้ำแรงของเราเองนะ  อืมมมมห์

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง Network Marketing ด้วยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มิ.ย. 2008, 10:13 น. โดย ยัยแก้มป่อง » บันทึกการเข้า

มีเรื่อง เล่า การประชาสัมพันธ์ แบบคิดเองเออเองของผมอีก
คือ โรงเรียนผมไม่เคยมีตัวตนในอินเตอร์เน็ต
ครูผู้ร่วมกันทำก็ งงว่าอินเตอร์เน็ต มันจะช่วยโรงเรียนแบบไหน
ผม ก็เอาวะรู้นิดๆหน่อยๆ ก็บอกไปว่า ได้แต่บอกไปว่า
มีดีกว่าไม่มีแหละนา เชื่อผม สำคัญคือ ฟรี!

เลยคิดว่าจะมีเว็บโรงเรียน สักอัน(เว็บ)
ถามเมีย เมียบอกเดี๋ยวให้น้องชายที่เป็น วมต. ของเครือเนชั่นช่วยทำ
แต่ต่างคนต่างยุ่งอีรุงตุงนัง
ผมว่าแบบนั้นช้าไป เอามาทำเองชั่วคราวไปก่อน
ก็ งงๆ ว่าโลกออนไลน์มันมาไกล ผมจะทำไงดี
คิดขึ้นมาได้ก็แต่บล็อก เพราะมันสำเร็จรูป
หยิบๆ วางๆแปะๆ โปะๆ  คงพอได้
นั่งหาบล็อก ถามแอน(ยักษ์) แอนบอกเอาเวิลเพรส
ผมก็ไปสมัครตามแอนบอก มานั่งดู เวรกรรมยากไปสำหรับครูแบบผม
ก่อนนั้นผมไปสมัคร บล็อกสปอต ไว้ด้วยเลยทำไปก่อน
คิดว่าเดี่ญวค่อยศึกษาที่แอนแนะนำ

ก็เริ่มทำ ทีละนิดทีละน้อย
แต่สิ่งที่ตั้งใจมากคือ การบอกตัวตนให้คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายรู้
ว่ามีโรงเรียนสอนศิลปะเด็ก ชื่อ โรงเรียนสอนศิลปะพิชา อยู่ในโลกด้วย
และขอให้กูเกิล รู้จักสักหน่อย ก็เฮฮาแล้ว

ในบล็อก ผมทำไปตามที่โรงเรียนแห่งนึงควรจะมี
แต่สิ่งที่ผมอยากให้มีมากที่สุดคือ อยากมีบทสัมภาษณ์ผู้ปกครอง
เพราะสิ่งนี้คือ ความต่างจากเว็บอื่นๆ
และเป็นเรื่องดีมากสำหรับตัวเอง นอกจากจะได้ประชาสัมพันธ์
ไปในตัวแล้วก็ได้พูดคุยกับผู้ปกครอง เอื้อเฟื้อไปถึงผู้อ่านคนอื่นๆ
ผมคิด ตีมการสัมภาษณ์ไว้เรื่อยๆ เหมือนทำหนังสือเล่มนึง
ตอนนี้มีเปิดด้วยสัมภาษณ์ ผู้ปกครองทั่วไปเป็นครั้งแรก(เอาแม่สวย  คริคริ)
ครั้งที่สอง ก็เป็นการเลี้ยงลูกแฝด
ครั้งต่อไปว่าจะเอา ลูกวัยรุ่น เป็นประเด็น
ครั้งหน้าอาจจะเป็น เลี้ยงแบบโฮมสคูล
และในรายละเอียดการสัมภาษณ์ มีเรื่องราวมากมาย
เช่นชื่อโรงเรียนที่เด็กๆ เรียน เมเตฯ เซ็นฟรัง เซนต์คาเบียล อมาตยกุล แย้มสะอาด
หรือ บรรดาสาธิตฯ นี่คือการยืนยันระดับโรงเรียนได้เหมือนกัน


ต่อมา ผมเจอพี่กนก ผมขอและบอกว่า
จะเอารูปพี่กนกมาแปะในบล็อกโรงเรียนนะ
พี่เขาก็ ยินดีเต็มใจ และ งงว่าเขาจะช่วยอะไรโรงเรียนผมได้

ซึ่งในความจริงนี่คือการประชาสัมพันธ์ชั้นยอด
เพราะ บุคลิกพี่กนก เมื่อผู้ปกครองมองแล้วคิดว่า
จริงใจ รักครอบครัว ไม่มีพิษมีภัย เชื่อถือได้
ผู้ปกครองบอกผม(หลายคนเลยว่า) ตัดสินใจฟันธง
สมัครเรียนหลังจากพิจารณารายละเอียดแบบอื่นแล้ว
แต่ยังไม่ปักใจ พอเจอพี่กนก ก็ปักใจเรียนเลย คริคริ

เรื่องราวเหล่านี้เจอใครผมก็เล่า
ใครถามผมก็บอก อะไรไม่ดีผู้รู้กว่าก็สั่งสอน
อะไรดีผมก็ได้ทวนตัวเองไปด้วย ว่านี่ดีนะจำไว้
อย่าลืม และสำคัญผมสนุกสนานมากมายทีเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มิ.ย. 2008, 10:33 น. โดย El Rajun » บันทึกการเข้า

โรงเรียนสอนศิลปะทอศิลป์
ความฝันผมยังไม่จบลง ที่ร้านเหล้าสองร้าน
ผมชอบเพลงของ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ มากๆ
มีอยู่เพลงนึงชื่อ จ. รอคอย
ในเนื้อเพลงมีท่อนฮุคร้องว่า

...ต้มยำอกหัก
ผัดผักแอบรัก
คล่องอคยิ่งนักแกงจืดหน้าบูด
ผักบุ้งไฟสวาท
ผัดเผ็ดรักคุด...

เมื่อฟังหนแรก ยังเรียนอยู่เลย
ก็คิดเลยว่า อยากเปิดร้านข้าวต้มกุ๊ย
เอาชื่อเมนูแบบนี้เลย แล้วคิดชื่อใหม่อีก
ถ้าเป็นไปได้ จะขอชื่อร้านจากน้าหมู มาเลย
คิดฝันถึง ผัดเผ็ดรักคุด อ๊ะโห มันคงจะน่ากิน
 :หิว:

เปิดทั่วไป
กลุ่มเป้าหมายคือคนทำงาน ฝากท้องไว้กับร้านข้าวริมทาง
ราคาไม่แพง คุยกับรายได้แล้วไม่สาหัสสำหรับคนทาน

แหม๊...เล่าความฝัน มันส์พะยะคะ
บันทึกการเข้า

โรงเรียนสอนศิลปะทอศิลป์
 อ๊าง~ อยากจะบอกว่า บางเรื่องที่ได้เรียนมา บางทีมันก็เลือน ๆ ไปบ้างเหมือนกัน
แต่อ่านการทำงานของพี่โอ๋แล้ว บางเรื่องมันผุดขึ้นมามากมาย
อยากจะมาถ่ายทอดให้ฟัง วันนี้ขอเคลียร์งานก่อนนะคะ
บันทึกการเข้า

อ๊าง~ อยากจะบอกว่า บางเรื่องที่ได้เรียนมา บางทีมันก็เลือน ๆ ไปบ้างเหมือนกัน
แต่อ่านการทำงานของพี่โอ๋แล้ว บางเรื่องมันผุดขึ้นมามากมาย
อยากจะมาถ่ายทอดให้ฟัง วันนี้ขอเคลียร์งานก่อนนะคะ

อย่าลืมนะครับ
ผมอยากเรียนรู้เยอะๆ
 เจ๋ง
บันทึกการเข้า

โรงเรียนสอนศิลปะทอศิลป์
มาแชร์ประสบการณ์และขอความรู้ค่ะ
ทุกวันนี้ ฟ้าเปิดร้านขายเสื้อผ้า ตอนแรก (ปีที่แล้ว) ฟ้ามีร้านเดียวคือ Dress up
ร้านเล็ก อยู่ที่ตลาดหน้ามอชอ ค่าเช่า 4500 (รวมค่าน้ำค่าไฟ ค่าขยะ ค่ายาม แล้วก็ 5000)
เฝ้ากันเองกับเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วน (ตอนนั้นทำงานประจำเลิกเย็นมาก็เฝ้าเอง)
ขายดีมาก เราตั้งเป้าไว้ วันละ 3000 บาท (เวลาที่เปิดร้านคือ 6 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม)
..
เดือนแรก เดือนที่สอง (เดือนมิถุนายน-กรกฏาคม) เราขายได้ แสนกว่าบาท หมุนของกันสนุกมาก
ลง กทม กันเดือนนึง สามครั้ง
ตอนนั้น ร้านฟ้าจะต่างจากร้านอื่นแถวๆ นั้น ของจะดีกว่าราคาอยู่ที่ 500-900 บาท
คนที่มาซื้อจะเป็นคนทำงาน หรือนศ ที่กำลังจะเรียนจบ ผู้ใหญ่บ้าง
ลูกค้าประจำเยอะ  ยิ้มน่ารัก ชีวิตดีมีความสุขมาก

พอเข้่าเดือนที่ สาม สี่ ห้า (สิงหาคม-กันยายน-ตุลาคม)  ฝนตก ยอดตก เกือบครึ่งนะ คือขายได้ 6-7-8 หมื่น
ประกอบกับคือเริ่มมีคนในตลาดตามแบบ คือเค้าหาของได้แบบเราไม่เหมือนหรอก ผ้า+การตัดเย็บ
แต่แบบคล้ายๆ ผ้าด้อยกว่า ขายถูกกว่า อย่างฟ้าขาย 680 เค้าขาย 280 แบบคล้าย ผ้าสีคล้ายๆ ถึงจะคนละเนื้อ มันก็คล้าย
 
ลูกค้าเริ่มแบบ มี feedback ที่ต่างไป
คือของถูกใครๆ ก็ชอบ.. ของฟ้าแพง แต่ดีกว่า ใช่ลูกค้าส่วนนึงยังอยู่
แต่มันก็หายไปเยอะ ตอนนี้ฟ้าเริ่มเครียด แต่ก็คุยกับเพื่อนว่าจะเอายังไง
เพื่อนเสนอทางออก เค้า down เราก็ลอง down ราคาลงบ้าง ลดเกรดสินค้า
เราเริ่มโดนการตลาดแถวนั้นกลืน ความเป็น dress up ของเรา ฟ้าเอาของขายง่ายมา
ขายอยู่ 250-350-450 ก็โอเค เงินหมุนขึ้น แต่ไม่ได้คล่อง บางเดือนได้ 4-5 หมื่น หมุนค่าเช่า ลงของ เป็นค่าใช้จ่าย
เราสองคน (ฟ้า+ฟาง) แทบไม่ได้อะไร..

เราเลยวางแผน+ ตัดสินใจเปิดร้านใหม่อีกร้านนึง (ทั้งๆที่ตอนนั้นงานประจำยุ่งสุดขีด ฟ้าทำทัวร์ หน้า hi ของเชียงใหม่ด้วย)
ลุยร้าน goldglory ตัดสินใจอะไรทุกอย่างในเวลาเดือนครึ่ง ร้าน gold สำเร็จออกมา
ฟ้าลงของทีเป็นแสน อืม.. มันต้องไปได้ ร้าน Dress up เลยกลายเป็นร้านขายของถูก
คุณภาพก็กลืนไป คล้ายๆ กับทุกร้าน  ฮือๆ~
 
 
เราจ้างเด็กเฝ้าคนนึง
 
 
เดี๋ยวมาต่อ  ลันล้า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มิ.ย. 2008, 11:52 น. โดย ด.ญ. ฟ้ารุ่ง » บันทึกการเข้า

ความหลงใหลในภาพลวงตา ที่ได้มาใช่ความสุข


โคตรเจ๋ง อยากขายของมั่ง
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
มีเรื่อง เล่า การประชาสัมพันธ์ แบบคิดเองเออเองของผมอีก
คือ โรงเรียนผมไม่เคยมีตัวตนในอินเตอร์เน็ต
ครูผู้ร่วมกันทำก็ งงว่าอินเตอร์เน็ต มันจะช่วยโรงเรียนแบบไหน
ผม ก็เอาวะรู้นิดๆหน่อยๆ ก็บอกไปว่า ได้แต่บอกไปว่า
มีดีกว่าไม่มีแหละนา เชื่อผม สำคัญคือ ฟรี!


ขอบคุณครับ ด้วยแนวคิดนี้แหละที่ทำให้ผมมีเงินซื้อข้าวกิน ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 ... 37
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!