หน้า: 1 ... 24 25 26 27 28 29 30 [31] 32 33 34 35 36 37 38 ... 84
 
ผู้เขียน หัวข้อ: FWD: งามๆ แบ่งกันอ่าน  (อ่าน 295943 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
คุ้นๆ เหมือนเป็นการ์ตูนของพี่โอตากิเลย  หมีโหดดดด
บันทึกการเข้า

ยิ้มน่ารัก น้องดำ
 กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า
นานมากแล้ว ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า
ผมเชื่อว่า  หนังสือเล่มนี้  ดีที่สุดในโลก  คุณจะอ่านหรือไม่  มันเรื่องของคุณ
......ขออนุญาตนำบทความบางท่อนจากหนังสือ   “หยุดความเลวที่ไล่ล่าคุณ”
ของ พ.อ.(พิเศษ) ทองคำ  ศรีโยธิน,   สมคิด ลวางกูร

.............................................................................................................................................


...ตัดเงินเดือน...
พอกราบคุณย่าเสร็จ ผมก็หันมาคุยกับอาจารย์
ถามว่า….อาจารย์กำลังทำอะไรครับ
อาจารย์ตอบว่าผมกำลังตัดรายจ่ายอยู่...คุณทองคำ
ผมต้องจ่าย..ค่าแม่ครัว..คนขับรถ  คนสวน
ค่าใช้จ่ายในบ้านและให้แม่อีกเดือนละ  300 บาท ตอนนี้ 
รายได้กับรายจ่ายมันไม่ค่อยสัมพันธ์กันต้องตัดรายจ่ายลงบ้าง

ผมก็ทำหน้าที่เป็น Advisor บอกว่า
เงินเดือนที่ให้แม่ 300 นี่ตัดได้นี่ครับ
อาจารย์หันหน้ามามองผม ...แล้วยิ้ม...
ทำไมล่ะ?
ผมบอกว่า อาหาร 3 มื้อ ..อาจารย์ก็จัดให้..เรียบร้อย
เสื้อผ้า..อาจารย์ก็ซื้อให้ใหม่..ปีละ 3 ชุด ..เรียบร้อย
เจ็บป่วย ไม่สบาย ..อาจารย์ก็พาหมอมาฉีดยาให้ เรียบร้อย
เพราะฉะนั้น เงินเดือน 300 นี่ ตัดได้ครับ   

ท่านบอกว่า 
“ตัดไม่ได้เด็ดขาด”...คุณทองคำ
300 บาทนี่ สำคัญที่สุด
สำคัญยังไง? 
เงิน 300 บาทนี่ เป็นเงินสำหรับ
เลี้ยงหัวใจแม่…
ผมฟังแล้ว...สะอึก
โอ...นี่เป็นเงินเลี้ยงหัวใจแม่
พวกเรา เคยได้ยินไหมครับ?
ผมนึกว่า ให้อาหาร...เสื้อผ้า.. เจ็บป่วยก็เอาหมอมารักษา
น่าจะพอแล้ว     
ท่านบอกว่า
อาหารกินแล้วก็ไปส้วม 
เสื้อผ้าเก่าแล้ว ก็เป็นผ้าขี้ริ้ว
หมอรักษา ก็รักษาอาการทางกาย
สิ่งต่างๆ ที่เราจัดให้ทั้งหมดนี้
เป็นอาหารกาย   
แต่ 300 บาทนี่
เป็นอาหารเลี้ยงหัวใจแม่   

หัวใจต้องการอาหารที่มาหล่อเลี้ยงให้..เอิบอิ่ม...เบิกบาน...เป็นสุข
คุณทองคำ ลองนึกดู
คนที่ไม่มีเงินอยู่ในตัวเลยนี่ เป็นยังไง? 
“หัวใจมันแฟบ”
หัวใจมันเหี่ยวเฉา ...เหมือนดอกไม้ยามเย็น
ใครที่เป็นข้าราชการจะรู้
พอเลยวันที่ 25 ไปแล้วนี่ มันเหี่ยว ๆ ยังไงชอบกล
ไม่มีเงินค่ารถไม่มีเงินค่าอาหาร ไม่มีเงินซื้อข้าวสาร
มันเหี่ยวไปจนถึงสิ้นเดือน

แม่อยู่กับเรา ก็จริง
แต่ถ้าแม่ ไม่มีเงินอยู่ในมือนี่
หัวใจท่านเหี่ยว...
พอถึงวันเงินเดือนออก 
ทุกคนหน้าบาน..เหมือนดอกไม้ยามเช้า
จิตใจสดชื่น...เบิกบาน...มีความสุข
รับเงินเดือนมาใหม่ๆ หน้าสดใส
สั่งกาแฟยังเสียงดังฟังชัด
ทุกสิ้นเดือน พอเงินเดือนออก
ผมเข้าไปกราบแม่
บอกแม่ว่า
วันนี้เงินเดือนออกครับ
ผมนำเงินมาบูชาพระคุณแม่ 300 บาทครับ
เอาเงิน 300 บาทใส่มือแม่
แม่ก็ให้ศีล ให้พร
ยกหมอนขึ้น เอาเงินวาง แล้ววางหมอนทับ
มีความสุข
เดือนละ 300
สามสี่เดือน ก็เป็นพันใช่ไหมครับ
แล้วเงินนี่สำคัญยังไง
เลี้ยงหัวใจแม่อย่างไร?

... คุณย่าให้...

     ท่านเล่าต่อว่าตอนนั้น
ท่านมีลูก 2 คน
เป็นผู้หญิงทั้งคู่กำลังท้องคนที่ 3
วันหนึ่ง ก็พาเมียไปโรงพยาบาล
แม่ถามว่า คลอดหรือยัง?
ยังครับแม่
วันต่อมาถามอีก คลอดหรือยัง
คลอดแล้วครับแม่

ผู้หญิงหรือผู้ชาย?
ผู้ชายครับ
โอ๊ย...แม่ดีใจจังเลย
ได้หลานไว้สืบสกุล
มานี่...มานี่..

ยกหมอนขึ้น..นับเงินส่งให้ 600 บาท
เอาเงิน 600 บาทนี่ไปซื้อทอง 6 สลึง
เอามารับขวัญหลานชาย
แต่ก่อนทองคำบาทละ 400
อาจารย์รีบไปซื้อทองมาให้
วันรุ่งขึ้น
แม่เขาอุ้มลูกขึ้นมาหาย่า
ย่ากอดหลานชาย...
สวมสายสร้อยให้เป่าหัวให้เสร็จ
พอเด็กคนนี้โต พูดได้
มีคนถามว่าสายสร้อยนี้ใครซื้อให้
คุณย่าซื้อให้
ชี้มือไปที่คนตาบอด
คนที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน
คือคุณย่า
ไม่ใช่พ่อแม่

เพราะเงิน 300 บาทนี่
เสกให้คนตาบอดขลัง
ถ้าคุณย่าไม่มีเงิน
จะรับขวัญหลานได้อย่างไร ?
เห็นไหมครับ ?
ไม่ใช่ว่า..  พอโตขึ้น..
มีคนถามว่า..
คนนี้เป็นใคร..
บอกว่า ...
ยายแก่ตาบอดนี่..   มาอาศัยพ่อแม่ฉันอยู่..
เห็นหรือยังคุณทองคำ
เงินเดือนๆ ละ 300 บาทนี่
ทำให้คนแก่ตาบอด  กลายเป็นเทพเจ้า
..สร้อยนี่   คุณย่าให้...

...เงินเดือนมีฤทธิ์...
วันดีคืนดีนะ  คุณทองคำ
แม่ครัว ล้างชามเสร็จ 
คุณย่าก็บอกให้มานวดขาให้
แม่ครัวหน้ามุ่ย ทำงานเหนื่อยจะตายยังต้องมานวดให้อีก
นั่งขยำ ๆ หน้าคว่ำ
พอนวดเสร็จคุณย่าหยิบเงินให้ 30 บาท
แม่ครัวยิ้มหน้าบาน
ยกมือไหว้ขอบคุณค่ะ
วันรุ่งขึ้น
พอล้างจานเสร็จรีบวิ่งมานั่งใกล้ๆ
วันนี้นวด...อีกไหมคะ..คุณย่า 
เห็นไหมเงินเดือน300 บาท 
ที่เราให้แม่เรานี่  มันมีฤทธิ์

มีคน.. มายกมือไหว้
มีคน  มาปรนนิบัติ
มีคน  มานวดให้
ถ้าไม่มีเงินเดือนๆ ละ300 บาทนี้
แม่เราจะมีฤทธิ์ได้อย่างไร


...บันไดไปสวรรค์...


วันหนึ่ง
พระมาเรี่ยไร จะสร้างโบสถ์
อาจารย์นิมนต์พระเข้ามาแล้วชี้มือ ...
บอกมรรคทายก..ว่า..
โน่นไปเรี่ยไรกับคุณย่าโน่น
มรรคทายกบรรยายว่าจะสร้างโบสถ์...กว้างเท่านั้น..ยาวเท่านี้
สูงเท่าไร...สวยงามยัง...ราคาเท่าไร...
คุณย่ายกหมอนขึ้น
นับเงินมา 500 พนมมืออธิษฐาน
ขอให้ศาสนาของพระองค์
ยืนยงไปอีก 5 พันปี นิพพานปัจโยโหตุ
ทำบุญ...สร้างโบสถ์ไว้เป็นมิ่งขวัญในพระศาสนา
ตกลงเงินเดือน ๆละ 300 ที่เราให้
เป็นบันไดพาแม่ไปสวรรค์

        “นี่ถ้าแม่ไม่มีเงินในมือ แม่จะได้ทำบุญไหม”

...คุณยายตากผ้า...
พอพระให้พรเสร็จ
ก็เดินผ่านไปบ้านถัดไป
ยายแก่บ้านโน้น  กำลังเก็บผ้าอยู่หลังบ้าน
มรรคทกยก  ตะโกนข้ามรั้ว
ทำบุญสร้างโบสถ์ไหม  คุณยาย
สร้างที่วัดนครนายก
นี่...หลวงพ่อมาด้วย  มาบอกบุญเองเลย
เดี๋ยวอีกสักครู่  วกกลับมาใหม่ได้ไหมล่ะ
ยายไม่มีเงินหรอก
ยายอาศัยลูกสาวเขาอยู่
เดี๋ยวเผื่อลูกสาวเขากลับมาทัน
จะขอเงินเขาทำบุญ
ยายแก่คนนี้ ไม่มีเงิน
เพราะลูก  เอามาเลี้ยงแปะๆ  แมะๆ  ไว้ข้างรั้วบ้าน
เอาไว้คอยเก็บผ้า

คงไม้ละโว้นะ  ปลื้ม

บันทึกการเข้า
อ่านช่วงแรกๆ"แล้ว  โห...ไรฟะ  ให้เดือนละสามร้อย"

แต่พอมาถึงบรรทัด  "ทองคำบาทละ 400"

 ง่ะ ง่ะ ง่ะ ง่ะ ง่ะ ง่ะ
บันทึกการเข้า

กินรอบวง


 เจ๋ง
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
อ่านไปงงไป  ง่ะ
บันทึกการเข้า
แอบอ้าง
พวก"อีโก้"สูงมาทางนี้ มีนิทานจะเล่าให้ฟัง

นานมาแล้ว มีตาแก่ผู้น่าสงสารอยู่คนนึง เมียและลูก

แกเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่แกก็ยังต้องมีภาระเลี้ยงหลานๆ

อีก สี่คนที่ชอบเอาแต่ใจตัวเอง วันๆ ไม่ทำ ไม่ช่วย อะไร

เลย ดีแต่ทะเลาะกันทุกวัน ว่าคนนั้นผิด คนนี้ผิด ที่ไม่ทำอย่างนั้น ไม่ทำอย่างงี้

จนมาวันนึงตาแก่ ป่วยหนักกำลังจะตาย ก็ยังอดห่วง

หลานไม่ได้ เพราะแกกลัวว่าหลานที่เอาแต่ใจตัวเอง

จะอยู่ในสังคม ในโลก ที่มีแต่คำว่า กูเก่ง ไม่ได้

ก่อนตายแกจึงเรียกหลานทั้งสี่ มานั่งล้อมวงที่โต๊ะสี่เหลี่ยม

แล้วให้หลานเอาผ้าผูกปิดตาไว้ทั้งสี่คน หลังจากนั้นแกก็ไปหยิบ

"ตะเกียง ทรงสี่เหลี่ยมมาหนึ่งอัน ซึ่งแต่ละด้าน มีสีต่างกัน"

มาตั้งไว้กลางโต๊ะที่เด็กทั้งสี่นั่งล้อมอยู่

แล้วให้หลานทั้งสี่ เปิดผ้าผูกตาออกพร้อมกัน จากนั้นตาแก่

ก็ถามหลานทั้งสี่คนว่า "เห็นตะเกียงสีอะไร"

หลานคนแรกบอกเห็น "สีแดง"

คนที่สองบอกเห็น "สีเหลือง"

คนที่สามบอกเห็น "สีเขียว"

คนที่สี่บอกเห็น "สีน้ำเงิน"

แล้วทั้งสี่ก็เริ่มทะเลาะกันอีก ว่าสีที่ตัวเองเห็นนั้นถูกต้อง

จนตาแก่บอกว่าไม่มี ใครผิด ใครถูกหรอก หลานเอ๋ย

"เพราะตะเกียงมันมีสี่ด้าน" ถ้าใครอยากรู้ว่า ทำไมคนอื่นถึง

เห็นสีไม่เหมือนเรา "เราก็ต้องเดินไปดูในมุมของเค้า

เราก็จะเข้าใจว่าทำไมเค้าถึงบอกว่าเค้าเห็นสีนั้น"

"อย่ามองมุมของเรามุมเดียวแล้วตัดสิน"

เพราะคนเรามันต่างความคิดต่างมุมมอง


พอตาแก่พูดจบ แสงในตะเกียงก็ดับลงพร้อมกับชีวิตของแก
บันทึกการเข้า

Las Noches Rubicundior


เค้าไม่เคยอ่านนะ  ฮิ้ววว

แต่แนวความคิดนี้ มีแล้ว  เกย์แอบ

 กรี๊ดดดดด มีสาระๆ อะอะ +1
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ผมเชื่อว่า  หนังสือเล่มนี้  ดีที่สุดในโลก  คุณจะอ่านหรือไม่  มันเรื่องของคุณ
......ขออนุญาตนำบทความบางท่อนจากหนังสือ   “หยุดความเลวที่ไล่ล่าคุณ”
ของ พ.อ.(พิเศษ) ทองคำ  ศรีโยธิน,   สมคิด ลวางกูร

.............................................................................................................................................


...ตัดเงินเดือน...
พอกราบคุณย่าเสร็จ ผมก็หันมาคุยกับอาจารย์
ถามว่า….อาจารย์กำลังทำอะไรครับ
อาจารย์ตอบว่าผมกำลังตัดรายจ่ายอยู่...คุณทองคำ
ผมต้องจ่าย..ค่าแม่ครัว..คนขับรถ  คนสวน
ค่าใช้จ่ายในบ้านและให้แม่อีกเดือนละ  300 บาท ตอนนี้ 
รายได้กับรายจ่ายมันไม่ค่อยสัมพันธ์กันต้องตัดรายจ่ายลงบ้าง

ผมก็ทำหน้าที่เป็น Advisor บอกว่า
เงินเดือนที่ให้แม่ 300 นี่ตัดได้นี่ครับ
อาจารย์หันหน้ามามองผม ...แล้วยิ้ม...
ทำไมล่ะ?
ผมบอกว่า อาหาร 3 มื้อ ..อาจารย์ก็จัดให้..เรียบร้อย
เสื้อผ้า..อาจารย์ก็ซื้อให้ใหม่..ปีละ 3 ชุด ..เรียบร้อย
เจ็บป่วย ไม่สบาย ..อาจารย์ก็พาหมอมาฉีดยาให้ เรียบร้อย
เพราะฉะนั้น เงินเดือน 300 นี่ ตัดได้ครับ   

ท่านบอกว่า 
“ตัดไม่ได้เด็ดขาด”...คุณทองคำ
300 บาทนี่ สำคัญที่สุด
สำคัญยังไง? 
เงิน 300 บาทนี่ เป็นเงินสำหรับ
เลี้ยงหัวใจแม่…
ผมฟังแล้ว...สะอึก
โอ...นี่เป็นเงินเลี้ยงหัวใจแม่
พวกเรา เคยได้ยินไหมครับ?
ผมนึกว่า ให้อาหาร...เสื้อผ้า.. เจ็บป่วยก็เอาหมอมารักษา
น่าจะพอแล้ว     
ท่านบอกว่า
อาหารกินแล้วก็ไปส้วม 
เสื้อผ้าเก่าแล้ว ก็เป็นผ้าขี้ริ้ว
หมอรักษา ก็รักษาอาการทางกาย
สิ่งต่างๆ ที่เราจัดให้ทั้งหมดนี้
เป็นอาหารกาย   
แต่ 300 บาทนี่
เป็นอาหารเลี้ยงหัวใจแม่   

หัวใจต้องการอาหารที่มาหล่อเลี้ยงให้..เอิบอิ่ม...เบิกบาน...เป็นสุข
คุณทองคำ ลองนึกดู
คนที่ไม่มีเงินอยู่ในตัวเลยนี่ เป็นยังไง? 
“หัวใจมันแฟบ”
หัวใจมันเหี่ยวเฉา ...เหมือนดอกไม้ยามเย็น
ใครที่เป็นข้าราชการจะรู้
พอเลยวันที่ 25 ไปแล้วนี่ มันเหี่ยว ๆ ยังไงชอบกล
ไม่มีเงินค่ารถไม่มีเงินค่าอาหาร ไม่มีเงินซื้อข้าวสาร
มันเหี่ยวไปจนถึงสิ้นเดือน

แม่อยู่กับเรา ก็จริง
แต่ถ้าแม่ ไม่มีเงินอยู่ในมือนี่
หัวใจท่านเหี่ยว...
พอถึงวันเงินเดือนออก 
ทุกคนหน้าบาน..เหมือนดอกไม้ยามเช้า
จิตใจสดชื่น...เบิกบาน...มีความสุข
รับเงินเดือนมาใหม่ๆ หน้าสดใส
สั่งกาแฟยังเสียงดังฟังชัด
ทุกสิ้นเดือน พอเงินเดือนออก
ผมเข้าไปกราบแม่
บอกแม่ว่า
วันนี้เงินเดือนออกครับ
ผมนำเงินมาบูชาพระคุณแม่ 300 บาทครับ
เอาเงิน 300 บาทใส่มือแม่
แม่ก็ให้ศีล ให้พร
ยกหมอนขึ้น เอาเงินวาง แล้ววางหมอนทับ
มีความสุข
เดือนละ 300
สามสี่เดือน ก็เป็นพันใช่ไหมครับ
แล้วเงินนี่สำคัญยังไง
เลี้ยงหัวใจแม่อย่างไร?

... คุณย่าให้...

     ท่านเล่าต่อว่าตอนนั้น
ท่านมีลูก 2 คน
เป็นผู้หญิงทั้งคู่กำลังท้องคนที่ 3
วันหนึ่ง ก็พาเมียไปโรงพยาบาล
แม่ถามว่า คลอดหรือยัง?
ยังครับแม่
วันต่อมาถามอีก คลอดหรือยัง
คลอดแล้วครับแม่

ผู้หญิงหรือผู้ชาย?
ผู้ชายครับ
โอ๊ย...แม่ดีใจจังเลย
ได้หลานไว้สืบสกุล
มานี่...มานี่..

ยกหมอนขึ้น..นับเงินส่งให้ 600 บาท
เอาเงิน 600 บาทนี่ไปซื้อทอง 6 สลึง
เอามารับขวัญหลานชาย
แต่ก่อนทองคำบาทละ 400
อาจารย์รีบไปซื้อทองมาให้
วันรุ่งขึ้น
แม่เขาอุ้มลูกขึ้นมาหาย่า
ย่ากอดหลานชาย...
สวมสายสร้อยให้เป่าหัวให้เสร็จ
พอเด็กคนนี้โต พูดได้
มีคนถามว่าสายสร้อยนี้ใครซื้อให้
คุณย่าซื้อให้
ชี้มือไปที่คนตาบอด
คนที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน
คือคุณย่า
ไม่ใช่พ่อแม่

เพราะเงิน 300 บาทนี่
เสกให้คนตาบอดขลัง
ถ้าคุณย่าไม่มีเงิน
จะรับขวัญหลานได้อย่างไร ?
เห็นไหมครับ ?
ไม่ใช่ว่า..  พอโตขึ้น..
มีคนถามว่า..
คนนี้เป็นใคร..
บอกว่า ...
ยายแก่ตาบอดนี่..   มาอาศัยพ่อแม่ฉันอยู่..
เห็นหรือยังคุณทองคำ
เงินเดือนๆ ละ 300 บาทนี่
ทำให้คนแก่ตาบอด  กลายเป็นเทพเจ้า
..สร้อยนี่   คุณย่าให้...

...เงินเดือนมีฤทธิ์...
วันดีคืนดีนะ  คุณทองคำ
แม่ครัว ล้างชามเสร็จ 
คุณย่าก็บอกให้มานวดขาให้
แม่ครัวหน้ามุ่ย ทำงานเหนื่อยจะตายยังต้องมานวดให้อีก
นั่งขยำ ๆ หน้าคว่ำ
พอนวดเสร็จคุณย่าหยิบเงินให้ 30 บาท
แม่ครัวยิ้มหน้าบาน
ยกมือไหว้ขอบคุณค่ะ
วันรุ่งขึ้น
พอล้างจานเสร็จรีบวิ่งมานั่งใกล้ๆ
วันนี้นวด...อีกไหมคะ..คุณย่า 
เห็นไหมเงินเดือน300 บาท 
ที่เราให้แม่เรานี่  มันมีฤทธิ์

มีคน.. มายกมือไหว้
มีคน  มาปรนนิบัติ
มีคน  มานวดให้
ถ้าไม่มีเงินเดือนๆ ละ300 บาทนี้
แม่เราจะมีฤทธิ์ได้อย่างไร


...บันไดไปสวรรค์...


วันหนึ่ง
พระมาเรี่ยไร จะสร้างโบสถ์
อาจารย์นิมนต์พระเข้ามาแล้วชี้มือ ...
บอกมรรคทายก..ว่า..
โน่นไปเรี่ยไรกับคุณย่าโน่น
มรรคทายกบรรยายว่าจะสร้างโบสถ์...กว้างเท่านั้น..ยาวเท่านี้
สูงเท่าไร...สวยงามยัง...ราคาเท่าไร...
คุณย่ายกหมอนขึ้น
นับเงินมา 500 พนมมืออธิษฐาน
ขอให้ศาสนาของพระองค์
ยืนยงไปอีก 5 พันปี นิพพานปัจโยโหตุ
ทำบุญ...สร้างโบสถ์ไว้เป็นมิ่งขวัญในพระศาสนา
ตกลงเงินเดือน ๆละ 300 ที่เราให้
เป็นบันไดพาแม่ไปสวรรค์

        “นี่ถ้าแม่ไม่มีเงินในมือ แม่จะได้ทำบุญไหม”

...คุณยายตากผ้า...
พอพระให้พรเสร็จ
ก็เดินผ่านไปบ้านถัดไป
ยายแก่บ้านโน้น  กำลังเก็บผ้าอยู่หลังบ้าน
มรรคทกยก  ตะโกนข้ามรั้ว
ทำบุญสร้างโบสถ์ไหม  คุณยาย
สร้างที่วัดนครนายก
นี่...หลวงพ่อมาด้วย  มาบอกบุญเองเลย
เดี๋ยวอีกสักครู่  วกกลับมาใหม่ได้ไหมล่ะ
ยายไม่มีเงินหรอก
ยายอาศัยลูกสาวเขาอยู่
เดี๋ยวเผื่อลูกสาวเขากลับมาทัน
จะขอเงินเขาทำบุญ
ยายแก่คนนี้ ไม่มีเงิน
เพราะลูก  เอามาเลี้ยงแปะๆ  แมะๆ  ไว้ข้างรั้วบ้าน
เอาไว้คอยเก็บผ้า

คงไม้ละโว้นะ  ปลื้ม




อ่านแล้วชอบค่ะ เจ๋ง
ต่อไปเราทำงานหาเงินได้
ก้ออยากให้พ่อแม่เหมือนกัน
บันทึกการเข้า

i lOvE RihAnNa!!


ชอบอันนี้นะ
ดูมีสาระ ให้ข้อคิดดี ปลื้ม
บันทึกการเข้า
แอบอ้าง
ชายชราทั้งสาม
ผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากบ้านของเธอ
และได้เห็นชายชราที่มีเคราสีขาว 3 คน
นั่งอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านของเธอ
เธอไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร เธอพูดกับเขาว่า
"ฉันไม่คิดว่าฉันรู้จักพวกคุณ
แต่ท่าทางคุณต้องหิวแน่เลย
โปรดเข้ามาในบ้านและทานอะไรซักหน่อยเถอะ"
"สามีของเธออยู่ในบ้านไหม" เขาถาม
"ไม่" เธอตอบ "เขาออกไปข้างนอก"
"ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็เข้าไปข้างในไม่ได้ดอก" เขาตอบ
ในตอนเย็น เมื่อสามีเธอกับมาบ้าน
เธอเล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
"ไปบอกพวกเขาซิ ฉันกลับมาบ้านแล้ว
และเชิญเข้ามาในบ้านเถิด"
เธอก็ออกไปและเชิญพวกชายชรานั้นให้เข้ามาในบ้าน
"เราเข้าไปในบ้านพร้อมกันไม่ได้หรอก" เขาตอบ
"ทำไมล่ะ" เธอถาม
ชายชราคนหนึ่งอธิบายว่า "เขาชื่อ ความมั่งคั่ง"
เขาพูดและชี้ไปยังเพื่อนของเขา
และชี้ไปยังอีกคนหนึ่งว่า
"เขาคือ ความสำเร็จ และฉันคือ ความรัก"
เขากล่าวต่อไปว่า
"บัดนี้ จงเข้าไปข้างในและปรึกษากับสามีของเธอว่า
คนไหนในพวกเราที่คุณต้องการจะให้เข้าไปในบ้านของคุณ"
เธอกลับเข้ามาข้างในและบอกกับสามีของเธอ
สามีของเธอรู้สึกดีใจมาก
"วิเศษจริงๆ " เขากล่าว
"เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะเชิญ ความมั่งคั่ง
เมื่อเขาอยู่กับเรา บ้านของเราจะเต็มไปด้วยความมั่งคั่ง"
ฝ่ายภรรยาไม่เห็นด้วย
"ที่รัก ทำไมเราไม่เชิญ ความสำเร็จ ล่ะ"
ขณะนั้นลูกสะใภ้ได้ยินทั้งสองกำลังปรึกษา
จากมุมหนึ่งของบ้าน เธอก็เข้ามาและแนะนำว่า
"จะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าเราเลือก ความรัก
บ้านของเราจะเต็มไปด้วยความรักไง"
"เราฟังสิ่งที่ลูกสะใภ้แนะนำเถอะ"
สามีกล่าวกับภรรยา
"ออกไปข้างนอกและเชิญความรัก
เข้ามาเป็นแขกของเราเถอะ"
ภรรยาออกไปและถามชายชราทั้ง 3 ว่า
"ใครคือความรัก โปรดเข้ามา
และเป็นแขกของเราเถอะ"
ความรักลุกขึ้นและเดินไปยังบ้าน
ชายชราอีก 2 คนก็ลุกขึ้นและตามเขาไป
ด้วยความประหลาดใจ
ภรรยาถาม ความมั่งคั่ง และความสำเร็จว่า
"ฉันเชิญเพียงความรัก ทำไมคุณถึงเข้ามาด้วยล่ะ"
ชายชราตอบพร้อมกันว่า
"ถ้าคุณเชิญความมั่งคั่ง หรือ ความสำเร็จ
คนใดคนหนึ่ง อีกสองคนก็จะอยู่ข้างนอก
แต่เมื่อคุณเชิญความรัก ที่ใดที่เขาไป
เราจะไปกับเขา ที่ใดมีความรัก
ที่นั่นก็จะมีความมั่งคั่งและความสำเร็จ"

คุ้นๆ ละโว้ยังหวา เหลือบ
บันทึกการเข้า

อร๊าย  อย่างงี้ต้องหาสามีก่อน  จะได้เชิญความรักเข้าบ้าน  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า
บวกครูนิด กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด

คิดถึงคุณยายจัง ปลื้ม
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
แอบอ้าง
เรียน คุณภูกระดึง  อึ้งเจริญสุกานต์  ที่นับถือ
          สถานีอนามัยบ้านต้นผึ้งใหม่พัฒนา
ตำบลต้นผึ้งขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสามัคคีสร้างสุขภาพตำบลต้นผึ้ง
เพื่อสมทบทุนซื้อที่ดินและอุปกรณ์การแพทย์มอบให้สถานีอนามัยบ้านต้นผึ้งใหม่พัฒนา
 ตำบลต้นผึ้ง ในวันที่  14  มกราคม 2550 เวลา 06.00 - 10.00 น.ณ
สถานีอนามัยบ้านต้นผึ้งใหม่พัฒนา  ตำบลต้นผึ้ง
          ขอขอบพระคุณล่วงหน้าในการร่วมทำบุญในครั้งนี้

                                                           นับถือ
                                                    สุดสาคร  สังกฤษ

 (เหงื่อแตกพลั่ก)
บันทึกการเข้า

        AH_LuGDeK, AH_LuGDeK_R
หน้า: 1 ... 24 25 26 27 28 29 30 [31] 32 33 34 35 36 37 38 ... 84
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!