หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าจะบวชอย่าทำอย่างนี้เลยนะ  (อ่าน 25121 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ไม่เกี่ยวกับเจตนาหรือไม่เจตนาครับ
แตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงนี่ก็ผิดแล้วครับ
อีกอย่างสิว ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง ไม่น่าจะต้องรักษาให้หายขาด
การทำแบบนั้นคือต้องการให้รูปสวย ซึ่งก็ผิดอีก

ส่วนมากพระที่ทำแบบนั้นจะเป็นพระหนุ่มที่บวชเรียนนะครับ
ไม่ได้บวชเพื่อให้พ่อแม่เกาะชายผ้าเหลืองหรอก ได้วุฒิแล้วก็สึก เท่านั้น
บันทึกการเข้า

กำลังโหลดข้อมูล .....
การหันมามองตัวเองก่อนที่จะไปตำหนิคนอื่นเป็นเรื่องที่ดีและสมควรทำ ครับ   แต่บางครั้งมันก็เป็นเหมือนหน้าที่ ที่เราต้องช่วยกันสอดส่องดูแล....
ถ้าเรามัวแต่รอผู้ที่บริษุทธิ์จริงๆมาคอยสั่งสอนมาคอยบอกมาคอยเตือนสิ่งเหล่านี้นับวันก็จะยิ่ง ส่งผลที่ไม่ดีแน่ต่อพุทธบริษัท หรือศาสนาที่เราเคารพ...

คนอยุ่ข้างบนโยนหินลงมาง่ายกว่าก็จริง แต่ผมเห็นว่า คนที่อยู่ข้างล่างก็น่าจะเขว้งหินขึ้นไปบ้าง อาจจะยากหน่อยแต่ บางครั้งมันก็จำเป็น......
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย


เรื่องอย่างนี้พูดยากครับ  ฮิ้ววว

ทำยังยากกว่าเลย
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ทำ...ไม่ยากครับ ฮิ้ววว













 หื่น
บันทึกการเข้า

...
นี่พูดเรื่องอะไรกันเนี่ย  ง่ะ
บันทึกการเข้า
เรื่องพระดูดสิว
บันทึกการเข้า

กำลังโหลดข้อมูล .....
ถ้าคนบีบเป็นผู้ชายก็ไม่ผิดใช่ไหม  งง
บันทึกการเข้า


 ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ผิด  ลันล้า

บันทึกการเข้า

กำลังโหลดข้อมูล .....
ก็ สงสัยอยู่ว่า
ที่ผิดเพราะคนบีบเป็นผู้หญิง หรือ ผิดตั้งแต่บีบสิวแล้ว   ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า
บีบไม่บีบไม่เกี่ยวกับพระวินัยหรอก
พระวินัยปิฎกไม่เคยมีกฎข้อนี้
แต่มันไม่สมควร...เป็นโลกวัชชะ ชาวบ้านติเตียน

และมันไม่สมควรยิ่งที่ไปนอนให้ผู้หญิงจับเนื้อต้องตัวต่างหาก
เพราะข้อนี้มันผิด พรบ.ว่าด้วยการกระทำอันเป็นอาบัติสังฆาทิเสส ตามพระวินัยบัญญัติด้วย



 แป่ว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พ.ค. 2007, 14:39 น. โดย tmd » บันทึกการเข้า

...
เล่นเน็ต ดูซ๊ดี หาเลือกซื้อมือถือ ก็ไม่เกี่ยวเพราะสมัยก่อน
ไม่มีของพวกนี้  ฮี่... เลยไม่มีกฏ
บันทึกการเข้า

กำลังโหลดข้อมูล .....
ผมเคยพูดเรื่องพวกนี้ไว้ในนี้นานแล้ว...

พระวินัยคือตรรกะเดิม ๆ ที่ใช้รักษาความบริสุทธิ์ของพระมาได้กว่า 2500 ปี

แต่ที่สำคัญคือชาวบ้านนั่นแหละครับที่จะช่วยกันตัดสินว่า
พระทำถูกหรือผิดพระวินัยหรือไม่

ถ้าพุทธบริษัทไม่เข้าใจและไม่สนใจการประพฤติตัวของพระสงฆ์
เหมือนคติที่ว่า "ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์"

อย่างงี้สังฆบริษัทที่บริสุทธิ์
ไม่มีวันที่จะอยู่ได้นานหรอกครับ

เพราะพระทำอะไรไม่ดีชาวบ้านก็ไม่ตำหนิติเตียน
พระที่ "หน้าด้าน" (อลัชชี)
ก็ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในผ้าเหลืองได้อย่างสบายใจ

ต้นเหตุ ของการบัญญัติพระวินัยของพระสงฆ์ เกิดขึ้นเพราะชาวบ้านนั่นเอง
ที่เห็นพระทำอะไรที่ดู "ไม่เหมาะสม" ในสายตาชาวบ้าน
เขาก็มาฟ้องพระพุทธเจ้า ๆ ก็จึงบัญญัติพระวินัยห้ามพระทำอย่างนั้นขึ้น ๆ มา

พระพุทธเจ้าไม่เคยวางเฉยกับเรื่องการประพฤติตัวของพระสงฆ์ครับ
เพราะมันกระทบถีงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนโดยรวมเลยทีเดียว

ญาติโยมก็เช่นกัน...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พ.ค. 2007, 15:53 น. โดย tmd » บันทึกการเข้า

...


อ๋อ เหมือนช่วงเข้าพรรษาที่เพราะพระออกธุดงค์แล้วไปเหยียบพืชผล ชาวบ้านใช่มั้ยครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ขอถามหน่อยครับ เมื่อก่อนเคยเจอพระรูปนึงชอบนั่งรถไฟเข้า กทม. ไปบิณฑบาตรขอของบริจาค แต่ไม่ได้เอาเข้าวัด แต่เอาไปให้ญาติตัวเองขาย (ตอนนี้ไม่เห็นละ) ผิดวินัยมากมั้ยครับ  งง
บันทึกการเข้า

วาว วาว เสียงรถไฟแล่นไปฤทัยครื้นเครง
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!