สำหรับเรื่องพระขุดดินผิดวินัย
คนทั้งหลายพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรจึงได้
ขุดเองบ้าง ให้คนอื่นขุดบ้างซึ่งปฐพี? พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร ย่อมเบียดเบียนอินทรีย์
อย่างหนึ่ง ซึ่งมีชีวะ.
เพราะคนทั้งหลายสำคัญในปฐพีว่ามีชีวะ
คนอินเดียสมัยนั้นบางพวกถือกันว่า ดินมีชีวะเหมือนต้นไม้
การกระทำ
ของพวกเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่ง
ของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ...
ดังนั้นการที่พระไปขุดดินเข้าจึงทำให้กลุ่มคนบางพวกที่ถือคติเช่นนี้ติเตียนได้
ซึ่งอาจเป็นเหตุบานปลายถึงขั้นหมดความเลื่อมใสเสียเลย
การที่พระองค์ทรงบัญญัติห้ามก็เพื่อเหตุนี้ (มิให้ชาวบ้านบางส่วนในสมัยนั้นติเตียน)
แต่อย่าลืมว่า มูลการบัญญัติห้ามการพรากดินและชีวะ (ต้นไม้) เป็นอาบัติทั้งสิ้น เพราะมาจากชาวบ้านเขาติเตียน
การที่พระใช้โทรศัพท์และสูบบุหรี่ ขับรถ
เป็นที่ติเตียนของชาวบ้านในปัจจุบัน
ก็อาจเป็นเหตุบัญญัติพระวินัยในสมัยพุทธกาลได้เหมือนกัน
มูลเหตุการบัญญัติพระวินัยของพระนั้น
ส่วนหนึ่งจึงมาจาก "ความเหมาะสม" ในสายตาชาวบ้านเรานี่เอง
ซึ่ง "ความเหมาะสม" นี่ก็ตกอยู่ในกฎของสามัญญลักษณะ
"ความไม่เหมาะสม" บางอย่างในอดีต ก็อาจจะไม่ใช่ "ความไม่เหมาะสม" ในปัจจุบันก็ได้
พระพุทธเจ้าจึงตรัสทางแก้เมื่อก่อนที่พระองค์จะปรินิพพานว่า
ถ้าในอนาคตจะบัญญัติเพิ่มลดพระวินัยก็ให้ทำได้ตาม "ความเหมาะสม"
ดังนั้นพระวินัยจึงมิใช่ "สัจจะ" ของ "ธรรมะ" ที่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปได้
เพราะวินัยในบางบทหรือกฎหมายก็คือส่วนหนึ่งของคน
คนก็ตกอยู่ในกฎของอนิจจลักษณะ
แต่อย่าลืมบทวิเคราะห์ศัพท์และอรรถกถาและฎีการวมทั้งอนุฎีกาและอาจารยคัมภีร์อีกนะครับ
ว่าท่านอธิบายคำนี้ว่าอะไร บางครั้งการตีความตามพระไตรปิฎก
ด้วยความเข้าใจส่วนตัว อาจจะเข้าใจเจตนาของพระวินัยผิดไปก็ได้นะครับ