เททที่ ๑ : กรี๊ดดดมาตามวาระอันสมควรแล้วครับ
สำหรับเททแห่งแรกที่ไป คือ เททโมเดิร์น
ส่วนที่เหลือ คือ เททบริเตน ก็คงจะไปเร็วๆนี้
ส่วนเททแซ็งต์อีฟส์ และเททลิเวอร์พูลนี่ ว่างจัดๆ
อาจจะได้ไปล่ะมั้งครับ มันไม่ค่อยไกล้สักเท่าไหร่
วันฟ้าไม่มีสี เหมือนวันทั่วๆไปที่นี่ ยากจะบอกว่าฟ้ามันอารมณ์ไหน
ฝนจะตกก็ไม่ตก แค่มันไม่มีสี ส่วนแดดไม่ออกนั่นแหงอยู่แล้ว
เดินทางโดยรถไฟไต้ดินตามเคย ไปโผล่ที่สถานีแบล็คแฟร์
เดินข้ามสะพานแบล็กแฟร์ ผ่านทิวทัศน์แม่น้ำเทมส์
ที่สีก็ไม่ได้ดูดีไปกว่าเจ้าพระยาเราเลย ดูโคลนๆกว่าอีกต่างหาก
ถ้าไม่เห็นกับตาไม่เชื่อจริงๆ
เดินลัดเลาะริมน้ำ อาคารบ้านเรือนไปเรื่อยๆ
พ้นทิวไม้ที่ปลูกไว้เป็นแนว สายตาก็ปะทะกับแท่งอิฐสี่เหลี่ยมพุ่งสูงขึ้น
ดูทะมึนอยู่ข้างหน้า โอ น่ากลัวจริงๆ
เททโมเดิร์น เอาแบบทางการ มันคือ
พิพิธภัณฑ์ศิลปะนานาชาติสมัยใหม่แห่งชาติ ของสหราชอาณาจักร
ส่วนชื่อเททนั้น มาจากชื่อของ เฮนรี่ เทท ผู้เป็นคนบริจาคและก่อตั้ง
เททแห่งแรกขึ้น คือ เททบริเตน ส่วนสถานที่แห่งนี้
อดีตเคยเป็นสถานีพลังงานแบ็งค์ไซด์ ก่อสร้างตั้งแต่ปี 1947
ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 2000 พร้อมกับ
อีกหลายต่อหลายโครงการที่สร้างขึ้นรับนโยบาย
ปรุงโฉมเมืองที่เก่าแก่อย่างลอนดอนสู่สหัสวรรตใหม่
ป้ายข้างหน้า แสดงงานที่กำลังจัดอยู่ในส่วนนิทรรศการหมุนเวียน
เป็นคอลเล็กชั่นวาดเส้นที่อยู่ในความครอบครองของธนาคาร ยูบีเอส
ธนาคารที่นี่เขาสะสมงานศิลปะด้วยนะครับ เพราะมูลค่ามัน
นับวันยิ่งสูงขึ้นยิ่งกว่าทรัพย์สินชนิดอื่นๆเสียอีก
เดินรี่เข้าไปข้างใน หลังจากนี้ เราก็เหมือนเข้าสู่แดนสนธยาแล้ว
เพราะไม่สามารถใช้กล้องได้ แต่ทั้งหมดหกชั่นกับอาคารกว้างใหญ่นี้
แทบทุกก้าวที่เดินดู ก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดด ดังก้องอยู่ในหัวตัวเอง
ย่อให้ฟังคร่าวๆ ว่าเจออะไรบ้าง
- แต่ละชั้น แต่ละส่วน จะมีแยกแยะประเภทของผลงาน
เช่น นิทรรศการหมุนเวียนเป็นงานวาดเส้นอย่างที่บอก
ส่วนอื่นๆก็อย่างเช่น ศิลปะน้อยนิยม(มินิมอลลิสม์), ป็อปอาร์ต
ศิลปะนามธรรม(แอ็บสแตร็ค), ศิลปะแสดงออกนิยม(เอ็กซเพรสชั่นนิสม์)
ศิลปะเหนือจริงนิยม(เซอร์เรียลลิสม์), คิวบิสม์ ฯลฯ
- ยกตัวอย่างศิลปะน้อยนิยม หรือมินิมอลิสม์
มีภาพนึงแคนวาสสีขาวสะอาดกว้างหลายเมตร
ไม่มีอะไรเลยนอกจากจุดประมาณนิ้วแต้มแค่สองจุด
แล้วจุดนั่นสีขาวด้วยนะเออ น้อยพอไหม
- ในห้องศิลปะแต่ละประเภท ณ ทางเข้า เขาจะตรึงสายตาเราไว้ด้วย
งานชั้นครู ของศิลปะประเภทนั้นๆ เช่น
- คิวบิสม์ เป็นของใครไปไม่ได้นอกจาก ปิกาสโซ่ (ซี้ดดด)
แล้วก็มีหลายรูปด้วยนะ แต่บางรูปก็กระจายไปในศิลปะชนิดอื่นๆ
- มีงาน สระดอกบัว ของ โคล็ด โมเน่ต์ ซึ่งฝั่งตรงกันข้ามประจันหน้ากันกับ
งานเทสี ของแจ็คสัน พอลล็อค ยืนตรงนี้อยู่สักครึ่งชั่วโมงได้มั้ง
- ภาพมาริลีน มอนโร สัญลักษณ์ของป็อปอาร์ตที่เราเคยเห็นกันจนเจนตา
ของแอนดี้วอร์ฮอลล์ แล้วอีกรูปเด่นๆของวอร์ฮอลล์ก็ ดับเบิ้ลเอลวิส
ไกล้กันก็มีการ์ตูนบ้านๆที่กลายเป็นศิลปะของ รอย ลิคเค่นสไตน์ด้วย
- ปรมาจารณ์ร่วมสมัยอย่าง มาร์แชล ดูช็องป์ ที่ผู้คนต่างหวัง
จะได้เข้าเฝ้าก็มีหลายงาน งานสำคัญที่สุดอย่าง น้ำพุ
(เดอะ เฟาเท่น) งานชิ้นนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ของศิลปะสมัยใหม่
มันทำลายทุกกฎเกณฑ์ของศิลปะทั้งปวงบนโลก ส่วนหน้าตาของ
เดอะน้ำพุที่ยิ่งใหญ่ เป็นยังงี้ครับ ชิ้นนี้เลย
- ปิแอร์ มองเดรียน มีงานที่นักเรียนออกแบบทุกคนต้องเคยเห็น
ตอนเรียนเรื่ององค์ประกอบและสี ภาพองค์ประกอบ สีน้ำเงิน เหลือง และขาว
เออ ชื่อทำนองนี้ล่ะ ในศิลปะคอนสตรัคทิวิสม์ หรือการเน้นโครงสร้าง
ที่เป็นส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหวทางศิลปะที่ก่อให้เกิดการออกแบบสมัยใหม่
ช่วงเดียวกับ สถาบันบาวเฮาส์ ซึ่งหลักการออกแบบเหล่านั้นก็ยังถือเป็นส่วนหนึ่ง
ของความรู้ในวิชาการออกแบบพื้นฐานทุกวันนี้อยู่
- ผมลืมใครเด็ดๆไปไหมครับเนี่ย อ้อ ดาลี่ไง ซัลวาดอร์ ดาลี่
แต่จำชื่องานไม่ได้ ไม่ใช่งานที่เรารู้จักกันดีนัก นอกนั้นก็เช่น
ฟรานซิส เบคอน, โจเซฟ บอยล์, จิอาโคเม็ตติ ฯลฯ และศิลปินยุคปัจจุบัน
ดังๆดาหน้ามาอีกเป็นพันชิ้น
- หนึ่งในสองประติมากรรมที่ดังที่สุดของโรแด็ง
อย่าง จูบ (The Kiss) ก็อยู่ที่นี่ แต่รู้สึกว่าตำแหน่งที่ตั้งไม่เด่นเลย
- มาร์ค ชากาลด้วย!!
ขออนุญาตลำเอียง เอามาแนะนำปิดท้าย
ไม่ใช่รูปนี้หรอกครับ แต่เห็นว่าอันนี้ดังเฉยๆ
แล้วหลายๆรูป ก็หามาแปะส่งๆให้พอนึกออกเฉยๆนะครับ
บางอันก็ไม่ใช่งานที่เขาโชว์หรอก
เวลาผมดูแฟนเพลงศิลปินเกาหลีบ้านเราร้องร่ำกรี้ดแทบเป็นแทบตาย
เวลาเจอนักร้องตัวจริง ก็สงสัยมันจะอะไรนักหนาของมันวะ
ตอนนี้ผมเข้าใจความรู้สึกสาวๆเหล่านั้นแล้วครับ
ยังมีต่ออีกนิดหน่อยครับ รอบๆเททริมแม่น้ำเทมส์
ยังมีอะไรให้เดินเล่นอีกนิดหน่อย ออกไปซื้อหลอดไฟก่อน
หลอดขาด พระอาทิตย์จะตกแล้ว พิมพ์ๆนี่ แทบมองไม่เห็นไรละ