หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 ... 13
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กรณีแสงศตวรรษ (แตกหน่อ)  (อ่าน 77440 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
เอ๊ะ ตกลงหนังเรื่องนี้ชื่อแสงศตวรรษใช่มั้ยคะ
ไม่ใช่แสงสหัสวรรษ งง
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
จ้ะ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ของแบบนี้ต้องดูแล้วใช้วิจรณญาณตัดสินกันเอาเอง
ไม่ใช่ให้คนเพียงไม่กี่คนมาตัดสินว่ามันไม่เหมาะสม แล้วก็ตัดทิ้งเหมือนเส้นผมตอนอกหัก 
จากนั้นก็บอกกับคนอื่นว่า  มันไม่เหมาะสม  อย่าไปดูมันเลยนะหลานๆ ไหว้

เขาเรียกอะไรนะ  ฟรีด้อม ออฟ สปีชซี่ส์ อะไรนี่แหละ  555
บันทึกการเข้า

ในหมู่คนตาบอด คนตาบอดข้างเดียวได้เป็นราชา
นี่เป็นการเหยียดหยามศิลปะ

พอเวลาจะพูด พูดออกแค่นี้
ทั้งที่คำมันอัดอั้นเต็มหัวใจไปหมด

คือบังเอิญเป็นกลุ่มคน"จำนวนหนึ่ง"ที่รอชมภาพยนต์เรื่องนี้
และก็ทุกเรื่องของพี่เจ้ยที่ผ่านมา รวมไปถึงหนังเทือกๆนี้อื่นๆ
ออกตัวไว้ เนื่องจากความคิดเห็นคงไม่อาจเป็นกลางได้ในกรณีนี้

กรุณาอย่าเหยียดหยามศิลปะไปมากกว่านี้เลย
บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM


http://blueology.exteen.com/ ไม่ได้อัพบล็อกมาสักชาติหนึ่ง เอาเสียหน่อย

พี่เจ้ย ,วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เป็นคนที่เราเคารพอย่างสูงยิ่ง
สำหรับการทำให้ สุนทรียศาสตร์ภาพยนต์ไทย กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
หลังจากที่ห่วงโซ่นี้มันหายไป เมื่อเราเริ่มดูถูกมัน
เมื่อเราเริ่มดูถูกคุณเชิด ทรงศรี เมื่อเราเริ่มดูถูกแผลเก่า
เมื่อเรายินยอมให้ฮอลลีวู้ดครอบครองวิญญาณของเรา

เลยมานั่งนึกว่า เราสามารถทำอะไรได้บ้างวะ
แค่ลงชื่อยังไม่สาแก่ใจ เขียนเป็นภาพเป็นอะไรที่พอทำได้ตอนนี้
(ดันมารู้เอาสี่ทุ่มของวันที่ 18 กลับจากสงกรานต์ ง่ะ)

เสียใจที่รู้ข่าวช้า มัวแต่ไปเที่ยวสงกรานต์
รูปนี้เลยรีบเขียนไปอยู่เหมือนกัน
ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้ไหม แต่ก็มาจากใจจริงนะเออ

ปล.ตอนนี้ พยายามนั่งนึกกลอนของท่านอังคาร ที่เขียนแช่งคนที่ไร้ศิลปะอยู่
เพื่อที่จะเสิร์ชหาข้อความที่เหลือในเน็ต แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก มีบทเดียวเด่นๆนั่นแหละครับ
ที่บอกว่า ชนใดไร้ศิลปะ นานาอารยะ ต่ำสถุล ใจดำมืดยิ่งกว่าหมึกดำอะไรนั่น
(มั่วๆนะครับ จำได้แค่ลางๆ) ใครทราบช่วยสงเคราะห์ที คันคะเยอมากๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 เม.ย. 2007, 04:21 น. โดย เก้อ » บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
โอ้โห ตอบโต้ด้วยศิลปะ (แจ๋ว แจ๋ว)

สวย สวย
ฝีมือเกือบเท่านานาละ (แจ๋ว แจ๋ว)
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ผมเคืองกองเซ็นเซอร์มานานแสนนานละ ไม่รู้จะเซ็นไปทำเพื่อ?

เซ็นเซอร์บุหรี่ แต่เห็นควัน... เด็กมันคงนึกว่าไอ้นั้นจุดธูปมั้ง???

เซ็นเซอร์ปืนจ่อหัว... ทั้งๆที่คนเหงื่อแตก ... เด็กมันคงเห็นว่านั้นกำลังแคะหูมั้ง???

เซ็นเซอร์สมทรงในเรื่องไอฟัก ... ทำอย่างกะเด็กส่วนใหญ่เสียตัง120บาท เพื่อไปดูฉาก ตั๊ก เปลือย??
(ไปซื้อแผ่นที่พันธ์ทิพย์ไม่ดีกว่าหรอ?)

ทุกอย่างนั้นทำไปเพื่อ???
ปกป้องเด็กจากภัยอันไม่สมควรดู?
กลัวความจริงในบางเรื่องที่รับไม่ได้ของผู้คนหัวโบราณจะถูกเปิดเผย?

นี่มันอะไรกัน.. เราเรียนกันมาตั้งแต่สมัยป.1ว่า เมืองไทยเป็นเมืองที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย
อำนาจอยู่ที่ประชาชน ไม่ใช่หรือ ??

เย็นไว้... รัฐธรรมนูญใกล้คลอดแล้ว (ผมหวังว่าคงไม่งี่เง่าดั่งเรื่องที่มันออกข่าวนะ)

ตกลง เราควรที่จะสอนเด็กว่า เมืองไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยหน้ากาก งั้นรึ?

" รัฐบาลกินภาษีของประชาชน (ทั้งๆที่ผมยังไม่ต้องจ่ายก้อเหอะ) เพราะฉะนั้น พวกเราประชาชนคนไทย ก็ต่้างเป็นหัวหน้าของเหล่ารัฐบาล เราต้องสู้ !! อย่าปล่อยให้รัฐบาลมาทำตัวเป็นเจ้านายเรา ทั้งๆที่เราให้เงินเดือนพวกเขา "

ปล. งงกันป่ะครับ ง่ะ
บันทึกการเข้า

... ความรักไม่จำกัดเพศ แต่มนุษย์เองนั้นแหล่ะที่กำหนดเพศให้มัน ...
เมื่อคืนผมดู รายการ คม ชัด ลึก
เขาคุยประเด็นนี้กัน เสียดาย ผกก ไม่มา
ผมดูประสาคนชอบเสพข่าว และยังไม่ได้ดูหนัง
ก็ยังบอกในประเด็นที่ควรตัดไม่ควรตัด ไม่ได้

แต่ ถ้าดูจำเพาะ สี่ฉากที่ว่า
ก็ไม่รู้ว่าทำไมมันต้องมี
และดูแค่นั้นก็ตัดเถอะครับ
(กรรมการอาจจะดูแค่นี้)

แต่ถ้าทั้งสี่ฉาก มันเกี่ยวร้อย
กับเรื่องทั้งเรื่อง จะไปตัดเขาก็กะไรอยู่

ในรายการ
มี บอกอ ไบโอสโคป บอกว่า
ฉากพระเล่นกีต้า กับฉากพระเล่นเครื่องร่อน
เป็นแค่ฉากผ่าน
ถ้าฉากผ่านจริงทำไมตัดไม่ได้ มันน่าตัดได้
ผมมองกรณีที่ว่า มันแค่ฉากผ่าน

แต่ผมอยากดูเต็มๆ อยู่

บันทึกการเข้า

   เท่าที่อ่านมา ทำให้ผมคิดไปถึงเรื่องการจัดเรทภาพยนตร์ ถ้าบ้านเราเมืองเราเอาจริงเอาจังในเรื่องเรทภาพยนตร์ ทำได้จริงๆก็คงไม่เกิดกรณีพิพาทกันแบบนี้บ่อยนัก

   ปัจจุบันที่ทำไม่ได้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าเพราะอะไร ขนาดหนังเรท R เด็ก ป.3 ป.4 หรือ อนุบาล ยังเข้าไปดูได้เลยครับ เราเข้มข้นกับการสกรีนเนื้อหากันมากไปหรือเปล่า แต่เราไม่สกรีนคนดู ทั้งๆที่อย่างหลังทำได้ง่ายกว่า และไม่เป็นการก่อให้เกิดการปิดกั้นเจตนารมณ์ของผู้กำกับหนังด้วยครับ

   หนังบางเรื่องถูกตัดทอนฉากออกไปจนกลายเป็นหนังเฮ่ยแทนที่จะเป็นหนังฮา อีกทั้งการจัดเรทก็มีใช้กันเป็นสากลอยู่แล้วในหลายประเทศ แล้วคนดูหัวหมอจะได้เลิกใช้คำว่า อย่ามาดูถูกคนดู เสียที เพราะครั้งนี้เขาต้องเคารพกติกาสากล เรทไหนดูได้เรทไหนดูไม่ได้ แค่นั้นจบ
บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น


ภาพแต่ละภาพสื่อได้เป็นหมื่นคำ

บางที ผกก คงต้องการสื่อแค่ เก้าพันกว่าคำมั้งครับ เลยเป็นฉากผ่าน  ฮิ้ววว

แต่เรื่องเซ็นเซอร์เนี้ย เหมือนกับว่าผู้ปกครอง(หมายถึงพ่อ แม่ ปู่ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อานะครับ) ของไทยไม่สามารถสั่งสอนลูกหลานได้เลยหรือ ว่าอะไรดีไม่ดี ทีวีฉายอะไรมาก็ว่าตามนั้น

หรือเด็กไทยเราเชื่อคนง่าย เห็นทีวีก็เชื่อแล้ว

หรือเด็กไทยเราขาดวิจารณญานในการชม

หรือเป็นเรื่องของการสะกดจิต  งง เห็นภาพบ่อยๆ แล้วอยากทำตาม

หรือเป็นเรื่องของความจริงที่ไม่ควรเผยแพร่ออกไปให้คนนอกรู้

หรือ หรือ หรือ  งง
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
เมืองไทยไม่มีวัฒนธรรมเรื่องการจัดเรตครับ (ทุกคนดูได้ เท่าเทียม555)
ไม่เคยเซ็นเซอร์ฉากของความรุนแรง คำหยาบในหนังตลก

ถ้าจัดเรต
ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ก็อาจจะโดนเรต R
ยิ่งสุริโยทัยอาจจะถึงเรต X เพราะฆ่ากันเละเทะ

แต่คนไทยบ้าจี้ครับ
ส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้สมองในการคิดเรื่องพวกนี้
บ้าไง บ้าตามกัน 555

สุดท้ายก็บ้า ศีลธรรมแบบคนไทย (สังคมไทยเป็นสังคม มือถือสากปากถือศีลครับ)
คือต้องปิดกั้นทุกอย่างที่ ค่านิยมสังคม บอกว่าอนาจาร
เพื่อแสดงว่าตัวเองนั้นเป็นคนดี ... เป็นสังคมสะอาด... (แต่ที่จริงแล้วแม่งก็อยากดูด้วยกันทั้งนั้น)
คนไทยยอมรับไม่ได้ที่จะใช้เหตุผล และวิจารณญาณ ในการชมภาพเหล่านี้

หรือ ไม่ยอมใช้วิจารณญาณ ... ปล่อยให้หนังคลั่งชาติฆ่ากันเลือดสาดอยู่ได้ (อ้างศิลปะฆ่ากันได้ ทำไมจะเปลือยไม่ได้ฟะ)

จริงๆ แล้วก็อยู่เฉยๆ แหละครับ
นั่งสาปแช่งกองเซ็นเซอร์ และกระทรวงไดโนเสาร์ ทุกครั้งที่เห็นการเซ็นเซอร์งี่เง่า
ซักวันขอให้มันลำสักคำว่า "ศีลธรรม" ที่พ่นออกมาจนตาย 555 (โรคจิตละ)
บันทึกการเข้า
   อ่าน comment ของเต่าต้องใช้วิจารณญาณให้มากนะครับ ไม่งั้นจะถูกดึงเข้าสู่ด้านมืดได้  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น


comment ของเอเป็นเต่าด้านสว่างน่ะครับ  ฮี่...

คิดแบบเต่าแหละ  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
เราคงทำได้กันแค่นั่งสาปแช่งงั้นรึ?

งั้นต่อไปน้องฮิปโป เปลี่ยนจากบทขอบคุณ รู้คุณข้าว ปลา อาหาร หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ

น้องฮิปโปจะเปลี่ยนเป็นบทสาปแช่ง ... ทั้ง 3 มื้อเลย

เย้ ๆ ๆ ๆ ๆ  ลันล้า
บันทึกการเข้า

... ความรักไม่จำกัดเพศ แต่มนุษย์เองนั้นแหล่ะที่กำหนดเพศให้มัน ...
ขอแสดงความเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับหลายๆท่าน
เรื่องเซ็นเซ่อสำหรับโทรทัศน์ หลายๆส่วน ผมเห็นด้วย
ในหลายๆประเด็น การทำให้บางเรื่องปรากฏสู่สายตาเด็กๆจนชาชินตา
มันส่งผลจริงๆให้เด็กเห็นมันเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องนี้เป็นวิทยาศาสตร์
มิฉะนั้นโฆษณาตัวหนึ่ง คงไม่เสียเงินเป็นสิบๆล้านเพื่อิสะกดจิตคนดูจริงไหมครับ

เช่น อาจมีไอ้บ้าแว่นหัวเกรียนในเมกาสักคนคิดขึ้นมาว่า
การจะยิงใครไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไรเลย (งั้นยิงหลายๆคนมันเลยดีกว่า)
ไม่ต้องบอกนะครับว่า มันขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู, ครอบครัวอะไรแบบนั้น
เพราะเราไม่มีทางบอกได้ว่า เด็กอายุตั้งแต่ 0-15 ปีทุกคน คิดดี ทำดี
ได้รับการเลี้ยงดูในครอบครัวที่ดีทุกคน


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ต้องดูเป็นกรณีอย่างว่านั่นแหละ
ถ้ามันเกินกว่าเหตุก็คงต้องร่วมด้วยช่วยกันยำ


สรุปเรื่องเซ็นเซ่อเรื่องความรุนแรงหลากหลายชนิดในสื่อ ผมเห็นด้วย
ประเทศที่เจริญแล้วประเทศไหนก็มีกัน แต่สิ่งที่ควรกังขาคือ
วิจารณญาณของผู้เซ็นเซ่อมากกว่า ในประเทศอื่นๆที่มันไม่เป็นปัญหา
เพราะวิจารณญาณของผู้ทำหน้าที่เหล่านี้ ได้รับการยอมรับ
แต่ของเรากลายเป็นว่า เอาไอ้บ้าห้าร้อยอคติมืดบอดต่อศิลปะมาทำหน้าที่
ทำให้เรายังเห็นนางร้ายกรี้ดๆในจอหลังข่าวภาคค่ำอยู่ทุกวัน
(ว่าแต่ถ้าไปแบนนางร้ายเขา แม่ค้าจะประท้วงเหมือนพี่เจ้ยไหมครับเนี่ย)


สำหรับการเซ็นเซ่อในโรงภาพยนต์ โรงภาพยนต์ไทยทุกหนทุกแห่งทั่วราชอาณาจักร
ทุกเพศทุกวัยสามารถเข้ามาดูได้ มันจึงแทบไม่ต่างกับการดูโทรทัศน์
จึงมีเหตุผลเดียวกันที่จะเซ็นเซ่อ แต่หนังนั้นย่อมต่างกับการดูรายการโทรทัศน์
การจะใช้มาตรฐานเดียวกันแบบนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องถูกต้อง
แต่ติดปัญหาที่ว่า โรงหนังไทย คนทุกเพศทุกวัยเข้าไปดูได้นี่สิ


เพราะงั้น การจัดเรทกำหนดอายุจึงเป็นทางออก


เรื่องจัดเรท ผมว่าเต่ามองคลาดเคลื่อนไป
จริงๆการจัดเรทนี่ ไม่เห็นว่ามันเกี่ยวกับวัฒนธรรมอะไรเลยนะ
เกี่ยวกับเงินนี่แหละ อย่างเดียวเลย มีการเคลื่อนไหวในแวดวงมานับสิบปี
แต่มันทำไม่ได้มาตั้งนานนมเนี่ย เพราะเงินตัวเดียว เจ้าของโรง
ผู้ประกอบธุรกิจหนังส่วนใหญ่ไม่ยอมกันไง แม้แต่ผู้ผลิตหนังเองส่วนมากยัง
ไม่ยอมด้วยเลย เพราะฐานคนดูหลักของหนัง มันอายุ ต่ำกว่า 17ลงมาทั้งนั้น
(วัยมัธยมนั่นแหละ)แล้วนอกจากนั้น คนดูก็ยังไม่เห็นความจำเป็น
บางคนกลัวไม่ได้ดูเสียอีก


เจ้าของโรง คนทำหนัง กลัวไม่ได้ตัง กลัวไม่มีคนดู คนดูกลัวไม่ได้ดู
สุดท้ายการจัดเรทเลยเป็นเพียงเสียงแผ่วๆลอยหายไปกับลม


คราวนี้ เขาจึงพยายามผลักดันกันให้ถึงฝั่งฝันเสียที
เพราะคนที่มาก่อการ เช่น สำนักไบโอสโคป  คือกลุ่มที่พยายามผลักดันเรื่องนี้
มานับสิบปีแล้ว ไม่มีโอกาสอะไรดีกว่าครั้งนี้อีกแล้ว นี่คือการดับเครื่องชนแล้วนะครับ
สำหรับบางคน เขาเห็นว่า ภาพยนต์คือศิลปะแขนงที่ 7 ผู้กำกับคือศิลปิน
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะทนมองเห็นแสงศตวรรษถูกคนต่ำสถุลแบบนั้นหั่นส่วนหนึ่ง
ของงาน เหมือนมีคนมาสั่งทำเบลอนมในภาพเขียนของปิกัสโซ่
ดังนั้นแสงศตวรรษจึงควรเป็นเรื่องสุดท้าย


สำหรับคนที่มีมุมมองว่า ภาพยนต์คือความบันเทิงเพียงเท่านั้น
มันอาจดูเป็นเรื่องง่าย ตัดแค่สองสามฉาก ในมุมผู้สร้างเองก็เถอะ
ตัวภาพยนต์เองที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเหตุผลทางการตลาด
(ก็หมายถึงหนังส่วนมากนั่นแหละ) การจะตัดสักสองสามฉาก
ก็ดูจะไม่เป็นไรนักหนาอีกเหมือนกัน แลกกับ"เงิน"ที่จะได้ เมื่อเข้าฉาย
แต่แสงศตวรรษไม่ยอมแลก

(ส่วนหนังเหล่านั้นคงไม่ถูกตัดหรอก
ถ้าไม่หนักหนาอะไร เสี่ยสั่งผ่านฉลุยอยู่แล้ว)


คิดว่าหลายๆคนคงเคยเศร้าใจ อึดอัด อัดอั้นว่า ประเทศนี้จะดักดาน
แบบนี้ไปอีกนานสักเท่าไหร่ และอาจคิดว่ามันก็คงเป็นอย่างนี้ต่อไปนั่นแหละ
ช่วยอะไรไม่ได้หรอก แต่ผมว่า คราวนี้เสียงของเราทุกคนช่วยได้


มันอาจดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่กี่ครั้งแล้วครับ ที่เรานั่งพิมพ์ด่าเซ็นเซ่อ
แล้วเราก็กดดูเวบโป๊ต่อ แล้วมันก็จางหายไปกับลม กี่ครั้งแล้วที่คนสร้างศิลปะ
ต้องทนดูลูกถูกตัดแขนขา เราเป็นแค่คนนึงที่โพสด่าแล้วก็ทำใจว่า
ได้แค่ด่านั่นแหละ แล้วก็ต้องมานั่งพิมพ์ด่ากันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ดักดานอยู่อย่างนี้ บางทีอาจจะถึงรุ่งลูกรุ่นหลานเรา


ทุกคนหยุดความดักดานนี้ได้เดี๋ยวนี้เลยครับ แค่ช่วยกันตะโกน
มันต้องไม่จบลงอย่างทุกครั้ง ผมเชื่อแบบนั้น
บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 ... 13
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!