หน้า: 1 2 [3] 4 5
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนปั่น  (อ่าน 18616 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
กลอนรวนเรวอนพี่เอช่วยแนะนำ
วรรคถ้อยคำทำอย่างไรจึงให้คล้อง
ให้อ่านแล้วมองเห็นเป้นทำนอง
ไม่ให้หมองลองคิดด้วยช่วยแนะที.... กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
ผมเองดูแววแล้ว
เรื่องกลอนจอดสนิท
ผมปั่นได้ไม่รอด
จบบทนี้ก็รู้

 เอือม
บันทึกการเข้า

รับงานถ่ายภาพ
www.rpash.com

กลอนรวนเรวอนพี่เอช่วยแนะนำ
วรรคถ้อยคำทำอย่างไรจึงให้คล้อง
ให้อ่านแล้วมองเห็นเป้นทำนอง
ไม่ให้หมองลองคิดด้วยช่วยแนะที.... กรี๊ดดดดด

สอนแต่งกลอนสอนไม่ง่ายเหมือนทำหนัง

ใช้พลังความคิดให้เป็นศรี

โปรดสังเกดคำท้ายบทให้ดีๆ

มันจะมีจุดสัมผัสจุดวัดใจ

มาบทสองอยากจะบอกเรื่องสัมผัส

เกี่ยวกระหวัดกอดรัดดูสดใส

อ่านแล้วพริ้ว เพราะในบาท สัมผัสใน

ใครใคร่ใช้ ให้ไพเราะ เก๊าะขอเชิญ

บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
อ่านแล้ว งง ตกลง อันไหนแน่    ยากดีแท้แม้จะมั่นกลั้นใจหมาย

สู้สุดฤทธิ์คิดจะทนจนตัวตาย       แม้ชีพวายก็ไม่กล่นบ่นสักคำ... ไหว้
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย


ขออนุญาติเป็นร้อยกรอง

คือ เก๊าะขอเชิญ

ต้องแต่งให้ลงสระเอิน ในบาทที่สองคำสุดท้าย

และไล่เรียงไปเรื่อยตามสีแดงที่เอทำให้ดู

วนยังงี้ไปเรื่อยๆ  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ร้อยแก้วไม่ใช่เหรอ ที่ว่ามา

งั้นโอเค ธรรมดา จะเริ่มฝึก

จะค่อยๆ แกะเกา เข้าลึกๆ

ไว้ดึกๆ มาปั่นต่อ ก่อคงดี
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
ร้อยแก้วไม่ใช่เหรอ ที่ว่ามา

งั้นโอเค ธรรมดา จะเริ่มฝึก

จะค่อยๆ แกะเกา เข้าลึกๆ

ไว้ดึกๆ มาปั่นต่อ ก่อคงดี

ต๊ายตาย พึ่งมารู้ ว่าจำผิด

เออเนอะ กลับมาคิด น่าบัดสี

อุตส่าห์ทำ ตัวเป็นผู้ เชี่ยวชาญกวี

ตกม้าที หลังเดาะ เจ็บจริงๆ  ฮิ้ววว

บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ขอบคุณครับสำหรับเอที่เอื้อเฟื้อ       

ช่วยแผ่เผื่อทุกข์ภัยไม่ทอดทิ้ง

เรื่องบทกลอนบทร่าย ทั่วทุกสิ่ง

จะไม่นิ่งหลุดหลวมความเป็นไทย

บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
ปั่นปั่นปั่น ปั่นปั่น ปั่นปั่นปั่น
ปั่นปั่นปั่น ปั๊นปั่น ปันปั่นปั๋น
ปั่นปันปั๋น ปันปัน ปันปั่นปัน
ปั๊นปั่นปั้น ปั่นป๊น ปั่นปันปัน

 หน้ามึน
บันทึกการเข้า
นั่น..เพิ่งนึกได้เมื่อบ่าย
ว่ามันคือ "ร่าย" ไม่ใช่กลอน
คือเอาอักษรมาเรียงต่อกัน
แล้วหั่นด้วยคำคล้องจอง
นะพี่น้อง ปล่อยไก่ด้วยคน  หมีโหดดดด
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
เป็นคนดีสวยสมชมว่าหมี
ดูทีวีเห็นพอลล่าหน้าเหมือนตัว
เปลี่ยนอีกช่องเจอกระแตนั่งกินทั่ว
หมีมองตัวดูดีกว่าน่ารักเอย  หมีโหดดดด
บันทึกการเข้า

ตามหารักแท้ค่ะ โฮกกก
แล้วป้าแสนเชย
ก็เลยเวลา
มาช้ากว่าคนอื่น ทุกที ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

รักแมวค่ะ
เห็นป้าปิ๊กเศร้าใจทนไม่ได้
เข้าสวมกอดป้าปิ๊กไว้ให้อุ่นนิ่ม
เดินไปหาสะดุดหินล้มหน้าทิ่ม
หมีเดินยิ้มทำท่าโนเนะเอย
บันทึกการเข้า

ตามหารักแท้ค่ะ โฮกกก
โอ้ว ลงสระเอย
พี่แอนเคยบอกว่าให้เล่นกลอนปั่น
แสดงว่าร่ายเท่านั้นไม่ใช่เหรอคะ
ถ้างั้นจะแต่งกลอนแปดก็ไม่ได้ดิ
เดี๋ยวจะมิใช่กลอนปั่นเอา นะจ๊ะ ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
ฉันสวยสุด ในเมือง แม่ย่าโม
มิสพะโล้ รางวัล ฉันเคยได้
เป็นนางเอก ละคร ของชาวไทย
ทุกคนไซร้ ติดตาม ดิฉันเอย

แล้วไม่เคย คิดจะบ่น ว่าท้อแท้
คอยเป็นแม่ ศรีเรือน เหมือนอย่างเคย
แต่ไม่มี ชายใด หลงรักเลย
ดั่งเชลย ที่ถูกทิ้ง มาแรมปี

มาวันหนึ่ง มีกบ กระโดดมา
ใจผวา ตัวอะไร ดำปิ้ดปี๋
เสียงมันร้อง โอ้บโอ้บ เสนาะดี
จึงเป่าปี่ ปู้ดปู้ด คล้อยตามกัน

พลันใดนั้น เจ้ากบ ผู้ขี้เหล่
ร้องโบ้เบ้ กลับกลาย เกษมสันต์
กะโดดมา ประกบจูบ ดิฉันพลัน
รูปร่างมัน เป็นเจ้าชาย แสนงดงาม

เรื่องของหนู มีเท่านี้ ที่จะกล่าว
ไว้สูจ้าว มาฟัง อีกภายหน้า
เรื่องมันยาว เล่าสามวัน ไม่จบนา
ไว้พรรณา อีกครั้ง กาลอื่นเอย

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!