เมื่อเสาร์ที่ผ่านมาผมไปที่ห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้าเพื่อซื้อของขวัญปีใหม่ให้คนในโรงพยาบาล เป็นปากกาลูกลื่นน้ำเงินไว้ให้พยาบาลเขียนชาร์ทผู้ป่วย โดยเลือกซื้อจากร้านในตัวเซ็นทรัล
ตอนเลือกปากกาลองพลิกดูราคาเพราะว่ามีงบจำกัด เห็นบางด้ามติดราคาไม่เท่ากันก็เลยลองสอบถามราคาจากพนักงานขาย พนักงานขายบอกว่าให้ยึดราคาที่ห่อเป็นหลักเพราะบางอันเปลี่ยนราคา ปากกาบางด้ามก็โดนเปลี่ยนที่ ผมถามว่าลองปากกาได้ไหม พนักงานบอกว่าแกะห่อออกมาลองได้แต่แกะแล้วให้แปะกลับด้วย
ผมก็เลยเลือกปากกามา40ด้าม มี7-8ลายรูปแบบต่างๆกัน ราคาของปากกาได้แก่ 20บาท 23บาท และ25บาทกะคำนวณราคาน่าจะอยู่ที่900กว่าบาท จากนั้นก็ซื้อของขวัญให้แฟนกับซื้อของเล็กๆน้อยๆ
ตอนจ่ายเงิน พนักงานใช้วิธีแยกสินค้าออกเป็นกองตามลาย แล้วก็คิดราคาของแต่ละแบบคูณจำนวนเข้าไป
ตอนจ่ายเงินแพงกว่าที่คิดไว้เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็รับใบเสร็จกลับมาบ้าน
กลับมาถึงเปิดห่อออกดู พบว่ามีปากกาอยู่แบบหนึ่งติดราคาผิด
จริงๆเป็นปากกาน้ำเงินลูกลื่นราคา23บาท... แต่มีห่อหนึ่งติดราคา53บาทเขียนว่าปากกาเจลสีดำ! พอไปดูใบเสร็จ ปรากฎว่าพนักงานขายคิดราคาสามแท่งนี้ในราคา53บาท.... ดังนั้นผมจ่ายเงินเกินไปในส่วนนี้ 90บาท
และเมื่อลองปากกาเจลปรากฎว่ามีอยู่แบบนึง เขียนไม่ติด ลองแช่น้ำร้อนลงเขียนดูเยอะๆแล้วก็ไม่ติด!!! ตกลงสูญเงินไปอีก 23x3แท่ง อีก69บาท
รวมทั้งสิ้นขาดทุนไป160บาท และต้องซื้อปากกามาเพิ่มใหม่อีกเพื่อให้ครบจำนวน
พอบอกแฟนไปว่าที่ร้านติดราคาผิดคิดเงินเกินแล้วยังมีปากกาเสียอีกตั้งสามด้าม
แฟนบ่นอุบเลยว่าโดนหลอกกินเงินไปตั้งเยอะ ทีหลังไม่ต้องไปซื้อแล้วถือว่าทำบุญไป
อ่านจบแล้วอ่านต่อข้างล่างนี้ครับพอแฟนบอกว่าโดนหลอก ผมเลยฉุกคิดขึ้นมา
- พนักงานก็ให้ผมลองได้ ผมเองก็ลองไปหลายแท่งแต่บังเอิญไม่เจอแท่งที่เสีย ถ้าผมลองทุกแท่งก็คงรู้ว่าแท่งไหนเสีย แท่งไหนไม่เสีย
- พนักงานให้ใบเสร็จ ซึ่งผมก็ดู ก่อนออกมาแต่ดูไม่ละเอียดเอง
- พนักงานบอกให้เช็คราคาที่ติดหลังซองปากกา แต่ผมเช็คไม่ละเอียดเอง พอเห็นราคาอันนึงก็คว้าแบบเดียวกันมาเลยโดยคิดไปเองว่าทุกอันคงราคาเดียวกัน
- ช่วงปีใหม่ คนซื้อของเยอะ คงไม่มีใครมานั่งพิมพ์ราคาสินค้าทั้ง40ชิ้นโดยที่มีคนรอต่อคิวจ่ายเงินอีก4-5คน เค้าใช้วิธีคูณจำนวนเข้าไปกันทั้งนั้น
ก็เลยบอกเหตุผลคัดค้านกับแฟนไป..... แฟนเลยอบรมกลับมาว่า ตกลงเป็นความผิดของผมเอง ทีหลังต้องระวังให้มากกว่านี้ เงินไม่ได้หากันง่ายๆ blah blah blah
ข้อคิดที่ได้ก็คือ
- ไปซื้อของต้องเช็คราคาดีๆ
- บางครั้งเวลาเราพูดอะไรออกไป คนที่ฟังเราเขาได้ข้อมูลทางเดียวจากเราไปตัดสินในตอนแรกอาจจะคิดแบบนึง แต่ถ้าเราบอกให้ครบไม่เข้าข้างตัวเองเลยเรื่องราวอาจจะเป็ฯอีกแบบนึงก็ได้
- คิดอะไรได้เงียบๆไว้ ไม่ต้องบอกหมด ไม่งั้นอาจโดนดุสองรอบ