หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าผู้ชายต้องผิดทำแท้ง  (อ่าน 23068 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้

หมายถึงมังกรยักษ์นะเหรอ  หมีโหดดดด

แล้วเห็นเพื่อแพทย์บอกว่ามีท่าที่ข่มขืนไม่ผิดนินา  งง

ชั่งมันเหอะ  กรี๊ดดดดด


หาวิธีเข้าพี่มัมดีกว่า  เกย์เม้ม




การกระกระทำที่ถือว่าเป็นการข่มขืน คือ  ต้องอยู่ในท่าเบสิก คือผู้หญิงนอนหงายและผู้ชายทิ่มพรวดเข้าไป (ถ้ามีท่าอื่นๆ ถือว่าเป็นการยินยอม โดยเฉพาะท่าผู้หญิงอยู่บน)
คดีนี้ถ้าหาทนายปากดีๆ ยังไงก็ดิ้นหลุด เพราะทนายปากดีจะถามให้ฝ่ายหญิงเล่าเหตุการณ์ ...แล้วต่อหน้าธารกำนัล บวกกับ ภาวะตึงเครียด แบบนั้น ใครจะไปกล้าเล่าละเอียดล่ะจริงมั้ย

แล้วถ้าตราบใดที่ไอ้หนูยังไม่จิ้มเข้าไป ก็ยังไม่เป็นการข่มขืนกระทำชำเรา
สมมติ เราจับฝ่ายหญิงแก้ผ้า เรายังไม่ได้ถอดเสื้อผ้า  แล้วตำรวจบุกเข้ามา...เราก็โดนแค่ข้อหาอนาจาร

บันทึกการเข้า

กินรอบวง

การกระกระทำที่ถือว่าเป็นการข่มขืน คือ  ต้องอยู่ในท่าเบสิก คือผู้หญิงนอนหงายและผู้ชายทิ่มพรวดเข้าไป (ถ้ามีท่าอื่นๆ ถือว่าเป็นการยินยอม โดยเฉพาะท่าผู้หญิงอยู่บน)
คดีนี้ถ้าหาทนายปากดีๆ ยังไงก็ดิ้นหลุด เพราะทนายปากดีจะถามให้ฝ่ายหญิงเล่าเหตุการณ์ ...แล้วต่อหน้าธารกำนัล บวกกับ ภาวะตึงเครียด แบบนั้น ใครจะไปกล้าเล่าละเอียดล่ะจริงมั้ย

แล้วถ้าตราบใดที่ไอ้หนูยังไม่จิ้มเข้าไป ก็ยังไม่เป็นการข่มขืนกระทำชำเรา
สมมติ เราจับฝ่ายหญิงแก้ผ้า เรายังไม่ได้ถอดเสื้อผ้า  แล้วตำรวจบุกเข้ามา...เราก็โดนแค่ข้อหาอนาจาร



กรณีนี้  ถ้าเจอผู้พิพากษาดีๆ  ทนายเข้าคุกเหมือนกันครับเพราะการสู้คดีในศาล  ไม่เหมือนละคร  หรือคำบอกเล่าจากปากต่อปาก  มันมีระเบียบวิธีเคร่งครัด  กระทำต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์  ทำงานภายในพระปรมาภิไธย  การมุ่งทำลายสภาพจิตใจ  บีบคั้นพยานศาลมีอำนาจระงับได้  และการพิจารณาคดีเรื่องข่มขืนต้องเป็นไปในทางลับ  ธารกำนัลก็มี  ก็คือศาล อัยการ ทนายครับ  แม้จะมีถึงสามฝ่าย  แถมเผลอๆมีแต่ผู้ชายก็ต้องทำใจ  เด็ดเดี่ยวเข้าไว้ครับ  จะเอาคนชั่วเข้าคุก  ใจมันต้องเด็ดพอกัน  อัยการจะได้ทำงานได้ง่ายขึ้นมาก  เชื่อว่าอัยการเก่งๆ  ก็สู้ทนายได้เหมือนกัน 

ทนายเลวๆที่เก่งจริงๆ  ต้องพูดนิ่มๆแต่เจ็บลึกๆ  สุภาพ  แต่ไม่อาจทำใจยอมตอบคำถามได้  เจอทนายระดับนี้  ศาลก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร  มากไปก็กลายเป็นไม่ยุติธรรม  ในศาลแต่ละคดีอาญา  มีคณะผู้พิพากษา 3 ท่าน  ฝ่ายอัยการที่อยู่ข้างผู้เสียหาย  น่าจะมีสักคนที่มีกึ๋นตามทนายทัน 

ที่ต้องพูดว่าทนายเลวๆ  คือต้องมีเจตนาใช้คำถามค้านในแบบที่มุ่งทำร้ายจิตใจนะครับ  เพราะใช่ว่าทนายทุกคนที่รับทำคดีให้จำเลยจะเลวไปเสียหมด  ในเมื่อบางครั้ง  เขาก็ต้องทำหน้าที่ให้จำเลยผู้เป็นลูกความเขาได้รับโทษเท่าที่สมควรจะได้รับ  ใช่มั้ยครับ  (อ.ผมสอนมาอย่างนี้  และผมก็คิดว่าเป็นสิ่งที่เราต้องตั้งมั่นเมื่อต้องว่าความให้จำเลย  อย่าใช้ลูกเล่นจนเขารอด  แต่ใช้สมองให้เขารับโทษเท่าที่ควรรับ)  และประเทศไทย  ยังมีแพะรับบาปเยอะเหลือเกินครับ  จับมาผิดคนแล้วจะให้รับว่าเขาข่มขืนได้อย่างไร  หรือหญิงสมยอมด้วย  จะให้รับว่าข่มขืนได้อย่างไร  เรื่องนี้หากพูดอย่างเป็นกลางต้องเข้าใจถึงความเป็นไปได้ในฝ่ายจำเลยด้วย  มิเช่นนั้น  เจอของจริงแล้วเอาเรื่องตุ๊กตาที่ข้อเท็จจริงไม่ครบไปเทียบ  ก็เสร็จโจรไปเลย

ในอีกแง่หนึ่งก็พูดยากด้วย  ในเมื่อพยานไม่เล่า  อัยการจะเอาอะไรไปสู้  ผมว่าเรื่องนี้เข้าใจว่าควรมีมาตรการให้นักสังคมสงเคราะห์เข้าร่วมการพิจารณาคดีด้วย  ไม่แน่ใจว่าแก้วิ.อาญาที่ใช้ในศาล  ให้สอดคล้องกับกรณีที่ใช้ในชั้นสอบสวนหรือยัง

ว่าแต่  ทำไมคดีข่มขืนเยอะจัง  พวกนี้เหมือนที่อ.ที่สอนสิทธิมนุษยชนผมกล่าวไว้ว่า  คนที่ไม่ได้รับการสั่งสอน  เลี้ยงดูที่ถูกต้อง  ก็จะโตมาแบบสัตว์ป่า  ประเทศเรามีสัตว์ป่าร่างคนเยอะขึ้นทุกวันแล้วครับ

หน้าที่ของเราที่ทำได้ถ้ามีโอกาส  คือหามาตรการใดก็ได้อย่าให้สัตว์ป่าร่างคนมีมากขึ้น   และทำให้ตัวที่เป็นอยู่เชื่องลง  จนกลายเป็นผู้เป็นคนกับเขาได้สักที
บันทึกการเข้า

โล่ง
ก็ยอมรับนะว่าสังคมไทย (ไม่สิ หลายๆประเทศน่ะ) เอ่อ ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า
เอาง่ายๆ กฏหมายนั้นคนออกกฏเป็นผู้ชายมั้ยล่ะ 

---------------------------------------------------------

แหม่มขอชี้แจงความหมายที่แท้จริงหน่อยนะคะ (ถือว่าเป็นความรู้เสริม...ที่เราไม่เคยรู้เลย)

เราเข้าใจผิดกันมาตลอดในความหมายของสำนวนที่ว่า ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง
ว่า ผู้ชายนั้นเป็นผู้นำแล้วผู้หญิงเป็นผู้ตาม ...
ที่จริงแล้ว ช้างจะก้าวเท้าหลังก่อนเวลาเดิน (ไม่เชื่อก็ไปสังเกตตามสาระคดีดูก็ได้นะคะ)
ดังนั้น..ความจริงก็คือ ผู้หญิงเป็นผู้นำ (เท้าหลังของข้างก้าวเดินก่อน) ผู้ชายเป็นผู้ตามค่ะ

ที่มาจาก..หนังสือพิมพ์ข่าวสด และ รายการผู้หญิงถึงผู้หญิงค่ะ
บันทึกการเข้า
เรามักเข้าใจว่า ผู้หญิงไม่มีความผิด กระทำชำเรา...แต่จริงๆมีครับ

ผู้หญิงมีความผิด กระทำชำเราได้

เช่น  นส.ก  จ้างให้นาย ข.ไปข่มขืน นส.ค

แบบนี้ นส.ก มีความผิด กระทำชำเรา ในฐานะเป็นผู้จ้างวาน เป็นผู้สนับสนุน ยุยง ส่งเสริม มีโทษเท่าฝ่ายชายครับ

แต่ถ้าฝ่าหญิงเป็นผู้กระทำเอง เช่น นส.ก ไปข่มขืนนาย ข

แบบนี้ นส.ก ไม่มีความผิด



กลับมาเรื่องทำแท้ง...ผู้ชายจะผิดมั้ย
พิมพ์ไว้เยอะลบดีกว่า ไว้เรียบเรียงดีๆแล้วจะมาสนทนากันใหม่ เริ่มง่วงๆ ภาษาไม่สละสลวย  เดี๋ยวผมจะดูว่าเป็นคนเลวไปซะ  ง่ะ

สรุปใจความละกันว่าผิดทั้งคู่ครับ
บันทึกการเข้า

กินรอบวง
เพราะสังคมเราอ่อนแอหรือเปล่า เคยมีเพื่อนผู้หญิงท้องตอน ม.2 กับรุ่นพี่ ม.5 ต่างโรงเรียนกัน ถามว่าใครผิด มันก็ผิดหาร 2 นั่นแหละ ถ้าผู้ชายไม่เป็นไอ้คนฉกฉวยโอกาส และผู้หญิงไม่ทำตัวล่อแหลม เรื่องพวกนี้คงไม่เกิดขึ้นก่อนวัยอันควร

-ขึ้นรถไฟฟ้า มีแม่ลูก คู่หนึ่งขึ้นมา มีผู้ชายลุกขึ้นให้นั่ง ไม่มีเสียงขอบคุณ หรือท่าทางที่จะขอบใจ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จากทั้งแม่และเด็ก

-เทียบกับอีกคู่หนึ่ง ลูกยกมือไหว้ โดยที่แม่ไม่ทันต้องบอกกล่าวเลย และแม่ยังขอบคุณตาม

ที่ยกมาเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สังคมจะดีได้ ต้องเริ่มจากสำนึกของจุดเล็ก ๆ ของสังคม นั่นคือครอบครัว พ่อแม่ต้องคอยดูแล สั่งสอนให้ลูกรู้จักผิดชอบชั่วดี

ต่อให้ออกกฎหมายดีหรือรัดกุมแค่ไหน ผมก็เชื่อว่าปัญหามันไม่มีทางหมดไป ถ้าจิตสำนึกของคนในสังคมไม่ได้ปลูกฝังเรื่องดี ๆ หรือมีแต่ตัวอย่างเลว ๆ ให้ดูอยู่ทุกวัน ซึ่งก็คงประมาณเดียวกับกระจู๋ ถุงยางในโรงเรียน
บันทึกการเข้า

[ว่างให้เช่า]
   น่าจะดูกันที่เจตนาเป็นหลักนะ ถ้าหญิงและชายสมรู้ร่วมคิดและเต็มใจให้หญิงไปทำแท้งก็ให้เอาผิดฝ่ายชาย

ด้วย แต่ในกรณีที่ฝ่ายชายมิได้รับรู้มาก่อนเป็นการตัดสินใจของฝ่ายหญิงเอง แบบนี้จะมาเอาโทษฝ่ายชายก็ไม่

ถูกต้องเท่าใดนัก ถ้าจะให้ชีวิตคู่สมบูรณ์แบบก็ควรจะมีลูกเมื่อพร้อมแล้วจริงๆ
บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น
เจตนา

คนไทยเป็น ศรีธนญชัยเยอะนะครับ  เกย์ออก
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
เจตนา

คนไทยเป็น ศรีธนญชัยเยอะนะครับ  เกย์ออก
ศรีธนญชัยก็หนีกฎแห่งกรรมไปไม่พ้นครับ ถึงจะหลบหลีกความผิดทางโลกไปได้ แต่ผิดในใจลบออกไปไม่ได้ง่ายๆหรอกครับ
บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น


มันก็ยังมีพวกไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีกนั้นแหละครับ  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย

มันก็ยังมีพวกไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีกนั้นแหละครับ  ฮิ้ววว
เหมือนที่เห็นกันอยู่ในละครหลังข่าวใช่ไหมครับ  ฮี่...
บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น
"ถ้าผู้ชายต้องผิดทำแท้ง" แล้วตูจะทำแท้งได้ไง  งง
บันทึกการเข้า

[ว่างให้เช่า]
เหมือนที่เห็นกันอยู่ในละครหลังข่าวใช่ไหมครับ  ฮี่...

ชีวิตจริงยิ่งกว่าในละครอีกนะครับ  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
กระทืบครับ ทำแล้วไม่รับ
ดันให้เมียไปทำแท้ง

ส่วนถ้าเอากันทั้งสองคน
แล้วดันทะลึ่งท้อง แต่คิดทำแท้ง
ผมเป็นพ่อเป็นแม่ จับได้ ส่งตำรวจ

ดัดเสียให้เข็ด
1 ชีวิตในท้อง จะมาทำแท้งกันง่ายๆ
บันทึกการเข้า

nuugo.blogspot.com
instagram.com/nuugo
อ่านแล้วปวดหัว

....
จริงๆปัจจัยที่ทำให้ฝ่ายผู้หญิงไปทำแท้งมันมีมากกว่าแค่ผู้ชายเป็นฝ่ายผิดครับ
ความกดดันจากสังคมรอบข้างมันมีเยอะกว่า

รุ่นพี่โรงเรียนผม ตอนอายุ15ไปทำเด็กโรงเรียนสตรีชื่อดังท้อง สมัยนั้นไม่มีทางออกอื่น เขาก็เลยไม่ทำแท้ง พ่อกับแม่และพ่อแม่แฟนไล่ออกจากบ้าน ก็ออกกันไปสองคน ผู้ชายไปขับวินมอเตอร์ไซค์ (ตอนนี้คงจะกลับบ้านเรียนต่อไปแล้วล่ะ)

นั่นคือสังคมกดดันจนเขาทั้งคู่ไม่มีทางออก ก็เลยต้องออกจากบ้าน (ไม่ใช่ไม่มีทางออกแล้วไปทำแท้ง)

จะเห็นว่าทางออกมันมีหลายทางสำหรับบางกรณี

แต่ในบางกรณี มีลูก5คนแล้ว ท้องคนที่6 จะให้ทำยังไงล่ะ.... ก็ต้องไปทำแท้ง
เพราะถ้าเด็กเกิดมา มันก็ไม่มีจะกิน
บางกรณี ผู้ชายผู้หญิงสมยอมกันไปมีอะไรกัน แล้วก็ไปกันคนละทาง... กรณีแบบนี้ไปทำแท้งแล้วจะไปหาผู้ชายที่ไหนมา
บางกรณี ก็สมยอมกัน แต่อายุยังน้อยกันทั้งคู่ สังคมไม่ยอมรับ เก็บเด็กไว้ก็ลำบากกันทั้งคู่
สังคมไทยก็ไม่ยอมรับการที่คนมีถุงยางในครอบครองเท่าไหร่.... เรียกว่า

ตราบใดที่เราไม่มีมาตรการช่วยเหลือมารดาที่ท้องตั้งแต่อายุน้อยหรือไม่พร้อม
ตราบใดที่สังคมไทยยังมีทัศนคติที่ไม่ดีและเลือกปฏิบัติ
ตราบใดที่ยังมีคนมือถือสากปากถือศีล เห็นถุงยางแล้วประณาม เห็นคนท้องก่อนแล้วด่าลูกเดียว
ก็ทำแท้งมันไปเถอะครับ เป็นความรับผิดชอบร่วมของสังคม ไม่ใช่แค่ของคู่นั้นๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 ธ.ค. 2006, 14:38 น. โดย หมอแมว » บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
จริงครับ เรื่องพวกนี้มันเปราะบาง ถ้าตัดเรื่องที่ว่าทำไมไม่รู้จักป้องกัน ถ้าเกิดไปอยู่ในสถานะการนั้น
ก็คิดหนักเหมือนกันนะ ถึงตอนนี้ปากจะบอกว่า ยังไงก็ไม่ให้ทำแท้งก็เถอะ แต่มันมีปัจจัยอื่นๆ
อีกหลายอย่าง พื้นฐานเลยคือความกลัว กลัวมันทุกอย่าง กลัวพ่อแม่ กลัวไม่มีปัญญาเลี้ยง กลัวยังไม่พร้อม ยังไม่อยากมีลูก กลัวคนรอบข้าง กลัวคนนินทา
คงจะยากนะที่พ่อแม่จะรับได้เหมือนในโฆษณา ในชีวิตจริงส่วนใหญ่คงจะเป็นเหมือนที่หมอแมวว่า
ล่ะครับ แถมเดี๋ยวนี้มันยังมีทางเลือกอีกเยอะ ดังนั้น กันไว้ดีกว่าแก้ครับ เพราะรักสนุกมันจะทุกข์ถนัดครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!