นึกได้อีกเรื่องนึงครับ
เมื่อครั้งวัยละอ่อนอยู่ปี 1 ทุกคนในคณะต้องผ่านประสบการณ์ที่เรียกว่าเซอร์เวย์
(Survey of Thaiart) คือพาไปเที่ยวสุโขทัยโบราณสถานอะไรพวกนั้น 3 วัน
(จริงๆเค้าให้ไปเขียนรูปนั่นแหละ แต่ดันไม่ค่อยเขียนกัน) ป้าแป้งคงจะรู้จักเป็นอย่างดี
ตอนกลางคืน สถานที่ที่เค้าให้เราไปนอนมันจะเป็นวิหาร หรืออาคารนอนอะไรสักอย่าง
ในเขตวัดโบราณสถานสุโขทัย แล้วแน่นอน ของคู่กับการท่องเที่ยว ตจว.คือสุราแปลว่าเหล้า
อาจารย์ก็นั่งซดกันกับนักเรียน พอได้ที่ เลยมีการท้าทายกัน (ตามสูตร) ไปเซอร์เวย์ ออฟ ไทยโกสต์
แต่สุดท้าย รวบรวมได้แค่ 3 คน 1 คือผมนี่ล่ะ อีกคนเป็นศิษย์ธรรมกาย
(มันบอกว่ามันฝึกมา จึงไม่กลัว)อีกคนเป็นผู้หญิง ดูเหมือนมันจะไม่นับถืออะไร
เพราะดันอ่านหนังสือเยอะ (จบสตรีวิทย์ 4.00) และเมาด้วย
จึงถือไฟฉายกระบอกนึง เดินไปแถวสุสาน และเมรุ ไม่เหมือนเมรุเท่าไหร่ แค่ที่เผาศพเฉยๆ
ไอ้เพื่อนผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มอาการท้าทาย จริงๆน่าจะเรียกว่าทักทายมากกว่า
แต่ดันตะโกนทักทาย และพูดเหตุผลเรื่องผี วิญญานห่าเหวอะไรของมันไม่รู้ให้ผีฟัง (ถ้าเค้าฟังกันอยู่น่ะนะ)
ลองนึกดูนะครับ ไปกัน 3 คน ในป่าช้ามืดสนิท ตรงที่ยืนคือที่เผาศพ
ซึ่งอยู่ในบริเวณโบราณสถานเก่าแก่น่ะ แล้วดันมาตะโกนแบบนั้น ทีแรกผมก็หัวเราะครับ
สักพัก อะไรมาดลใจให้เพื่อนอีกคนมันพูดออกมาว่า"เฮ้ย"ไม่รู้ ผมเลยวิ่ง
พอคนนึงวิ่งอุปทานระบาดหมู่ก็วิ่งตามกันป่าราบ
แล้วก็มานั่งหัวเราะกัน เล่าให้เพื่อนฟัง แล้วไอ้ที่ตะโกนนั่นก็ไม่มีอะไรหรอก
ใบไม้ร่วงมันก็หลอนแล้ว
อันนี้น่าจะเป็นไรที่ไปทักทายโดยตรงครั้งเดียว แต่ไม่ยักกะเจออะไรนะครับ
ยกเว้นว่า ไอ้เพื่อนผู้หญิงคนนั้นวันต่อมา เค้าพาไปไหว้เจดีย์ช้างล้อมมันก็มาบ่นๆมึนๆ
อะไรไม่รู้ พูดไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ผีเข้าหรือเมาค้าง