มีเรื่องมาเล่าเป็นอุทาหรณ์
ญาติแฟนเสียชีวิตด้วยมะเร็ง
ฟังๆแล้วก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ คนไทยตายด้วยโรคมะเร็งเยอะ
แต่ประเด็นมันมีอยู่ว่า ...
ไปรพ. ด้วยอาการปวดท้อง (ญาติคิดว่าเป็นโรคกระเพราะ)
หมอตรวจพบว่าเป็นมะเร็งแต่ยังระบุไม่ได้ว่าส่วนไหน
ยังไม่ได้ทำการรักษาอะไรพิเศษ นอกจากฉีดยาแก้ปวด ให้ออกซิเจน เจาะน้ำออกจากช่องท้อง
อาการสุดท้าย ตัวซีดเหลือง ท้องบวม หายใจถี่ ช็อค แล้วจากไป
เค้าเสียชีวิตด้วยอายุเพียง 30 เศษๆ
พฤติกรรมของผู้ป่วย
ทานอาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารไม่สุก
สาเหตุที่แน่ชัดของโรคมะเร็ง ยังระบุแน่ชัดไม่ได้
จากพฤติกรรมการกิน หรืออะไรก็ไม่ทราบแน่ชัด
14 วันที่ผ่าน สามีของคนป่วยอยู่รพ. มากกว่าบ้าน
แต่สิบกว่าปีก่อนหน้านั้น อยู่ด้วยกันอย่างไม่ค่อยสันติสุขนัก
เวลาสุดท้ายแค่ 14 วัน ที่สามีทำดีที่สุด เพื่อภรรยาที่กำลังป่วยหนักนั้น
มันไม่อาจทำให้อะไรดีขึ้นได้ แต่มันคงเป็นอุทาหรณ์ให้คนรอบข้างเห็นว่า
จงทำให้ทุกวันที่อยู่ด้วยกันให้มีความสุข
เพราะเราไม่รู้ว่าชีวิตเราจะได้อยู่ด้วยกันไปอีกนานแค่ไหน
อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับการใช้ชีวิตของทุกคน
อยากรู้ว่าตกลงแล้วเป็นมะเร็งที่ไหนอะคะ กลัวอะ นิสัยการกินออกจะเป็นแนวนั้น
กำลังคิดจะไปตรวจสุขภาพเร็วๆ นี้ค่ะ
จริงๆ ก็อ่านกระจู๋นี้บ้าง นานๆ ที
เรื่องสูญเสีย ทุกคนย่อมมีประสบการณ์มาหมด แต่เรื่องที่สะเทือนใจที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา
เป็นความสูญเสียที่ไม่มากนักสำหรับเรา แต่สะเทือนใจจริงๆ ค่ะ
เมื่อประมาณสิบกว่าปีที่แล้ว พี่ชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) เสียชีวิตค่ะ
เราเป็นคนไปรับโทรศัพท์บ้านที่ดังตอนตีสองกว่า (ตอนนั้นโทรศัพท์มือถือยังไม่มีคนใช้เยอะเท่าทุกวันนี้ค่ะ เพจเจอร์ยังน้อยเลย)
ป้าเราโทรมาขอยืมเงินแม่เพื่อผ่าตัดพี่ชายเราที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุบนถนนพระรามสอง
เค้านั่งข้างคนขับรถค่ะ แล้วชนกับสิบล้อ (ถนนนี้อันตรายมากๆ เวลากลางคืน ระวังๆ กันหน่อยก็ดีนะคะ)
พอวางสายไป เราก็ได้แต่รอฟังข่าวจนหลับไป จนตอนเจ็ดโมงเช้า ก็รู้ข่าวจากน้องว่าพี่ชายเสียชีวิตแล้วค่ะ
เรื่องที่สะเทือนใจกับเหตุุการณ์นี้ มีอยู่สองส่วนค่ะ
หนึ่งคือ เรื่องชีวิตของพี่ชายคนนี้ พี่เพิ่งเรียนจบรับปริญญาไปก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตแค่หกเดือนเท่านั้นเอง พ่อของพี่เราร้องไห้เป็นปี
เพราะพี่ชายคนนี้จะชอบโดนเปรียบเทียบกับพี่อีกคนนึงที่เรียนเก่งกว่าเสมอ.. ทุกครั้งที่รวมญาติกัน คุณลุงจะพูดถึงพี่เราแล้วก็ร้องไห้ เศร้ามาก
สองคือ พี่ชายเรามีแฟนค่ะ กำลังมีโครงการว่าจะแต่งงานกัน วันที่พี่ชายเสีย แฟนเค้าไม่รู้เรื่องค่ะ ตอนเย็นที่เราไปงานศพวันแรก ไม่เห็นเขามา
ก็ยังถามคนอื่นๆ ว่าทำไมแฟนพี่เราไม่มา พอสวดอีกวันนึงถึงได้รู้เรื่องว่า วันที่พี่ชายเราเสีย เค้านัดเที่ยวกันค่ะ แล้วแฟนพี่เราเค้าก็ไปรอที่นัดทั้งวัน
โดยที่ไม่รู้ว่าแฟนตัวเองเสียชีวิตแล้ว (ตอนนั้นไม่มีทั้งโทรศัพท์มือถือ และเพจเจอร์ค่ะ) พอกลับมาบ้านตอนเย็นๆ ถึงได้ทราบข่าว แต่มางานศพวันแรกไม่ทันค่ะ
ทุกวันนี้ก็ยังนึกถึงพี่ชายคนนี้อยู่ทุกครั้งที่นัดรวมญาติกัน แม้จะไม่สะเทือนใจมากเท่าเมื่อเหตุการณ์เกิดแรกๆ แต่ก็ยังมีความเศร้าเหลืออยู่เสมอค่ะ