หน้า: 1 2 3 4 5 6 [7] 8 9 10 11 12 13 14 ... 111
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กระจู๋สูญเสีย  (อ่าน 413786 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ขอแสดงความเสียใจด้วย เศร้า
แต่สุดยอดเลยค่ะ เจ๋ง
บันทึกการเข้า
ขุดครับ








แม่โทรมาเมื่อเช้า
บอกว่า คุณ (หมายถึงยาย บางบ้านเรียกแม่คุณแต่บ้านตูเรียกคุณ) กำลังจะไปแล้ว
ถ้าว่างก็ให้กลับบ้าน หรือไม่ว่างก็ไม่เป็นไร -- แม่ตูเป็นโรคเกรงใจลูก (จะบ้าเหรอแม่ ไม่กลับได้ไง)

เมื่อสัก 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ตูก็เพิ่งไปงานศพยายของสนุกเกอร์มา
การจากไปด้วยอายุขัยของคนแก่แล้วมีลูกหลานมากันเต็มบ้านนี่
อาจจะถือเป็นการตายที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งเท่าที่มนุษย์พอจะพึงมีละมั้ง

ตูนอนหลับต่อ
จริงๆ ก็หลับไม่ค่อยลงหรอก กำลังคิดเรื่องจะทิ้งงานกลับบ้าน
แต่ก็มีแวบนึงที่ฝันนะ ว่ากำลังอยู่ในงานศพของคุณอยู่

พอตอนสายๆ พ่อโทรมาจากสระบุรี (พ่อไปเดินสายทำงานที่นั่น)
บอกว่าคุณเสียแล้วนะ (เรื่องแบบนี้พ่อมักเป็นคนพูดครับ)
กำลังจะโทรบอกแม่ว่าเย็นนี้จะกลับบ้าน แม่โทรก็สวนมาพอดี
คราวนี้เสียงสั่นเครือ.. ไม่ต้องบอกว่าเรื่องอะไรนะ




คุณ เป็นญาติผู้ใหญ่ระดับ Grandparent คนสุดท้ายของตูละ
เมื่อเสียแกไป ตอนนี้รุ่นพ่อแม่ตูก็ก้าวเข้ามาสู่รุ่นตายายแทน

ต้นไม้ผลัดหนึ่งใบ ยังให้ใบอ่อนที่เพิ่งแตกมาไม่นานได้โตเต็มใบ
และทำให้กิ่งก้านสาขากว้างใหญ่กว่าเดิม

หลับให้สบายนะครับคุณ เดี๋ยวเย็นนี้แอนกลับบ้าน  ไหว้
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ


พึ่งผ่านมาเหมือนกันครับ ญาติระดับ Grand คนสุดท้าย  เศร้า

แสดงความเสียใจด้วยครับ
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
เสียใจด้วยนะคะ แอน  ไหว้
บันทึกการเข้า

นานๆ จะเข้ามาที
เสียใจด้วยค่ะ   เศร้า
บันทึกการเข้า
เสียใจด้วยครับ
บันทึกการเข้า

        AH_LuGDeK, AH_LuGDeK_R
เสียใจด้วยครับ
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
เสียใจด้วยค่ะพี่แอน
บันทึกการเข้า
ชีวิตมีเกิด แล้วต้อง มีดับ จ๊ะ

ทุกอย่างที่เคยคิดว่าเป็นของเราตัวเรา
สุดท้ายแล้ว
มันก็ไม่ใช่ของเราซักอย่าง
เหลือแต่
ชื่อ ที่ให้คนรุ่นหลังพูดถึง


//ถ้าพูดดีก็ดีไปนะคะ อันนี้เป็นที่ความสามารถแต่ละคน  เจ๋ง
บันทึกการเข้า

เพราะโลกกว้างไป หรือว่า ใจเราแคบเกิน
เสียใจกับแอนด้วยครับ  ไหว้

...

วันที่ 20 มกราคม 2550

ตุ้ย : ตั้ม ย่าเสียแล้วนะ กลับบ้ายด้วย กลับเมื่อไหร่โทรบอกเตี่ยด้วยนะ
ตั้ม :  งง  อะไรนะ
ตุ้ย : ย่าเสียแล้วเมื่อเช้าตรู่นี้เอง
ตั้ม : เออๆ  (ตอบน้องชายไปอย่าง งง งง แล้วก็วางหู)

ใช่ครับ ใช่ ท่านย่าที่ผมดิ้นรนพิมพ์ให้อ่านตั้งแต่หน้าแรกล่ะครับ ในที่สุด ท่านก็จากผมไป
ส่วนสาเหตุที่ท่านเสีย ผมไม่ทราบแน่ชัด แต่ก๋งบอกว่า ย่าเป็นแผลกดทับที่บั้นท้าย บอกเท่านั้นผมก็จำได้ทันทีว่ามันเป็นแผลถลอกครั้งก่อนที่เราเช็ดตัวท่านแล้วหนังกำหร้าถลอกเป็นรอบแดงๆ

ก๋งบอกว่า มัยลุกลามเป็นแผลใหญ่จนเห็นเนื้อชั้นในขาวๆ
อาการไม่ดีตั้งแต่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการแขนและมือกระตุกขึ้นลง และดิ้นเหมือนกับว่าท่านจะเจ็บ
แต่ตอนนี้ท่านก็ไปสบายแล้วล่ะครับ ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมดังที่จั่วหัว ไหว้

ตอนนี้ทำการทำพิธีตามคริสตศาสนาแล้ว (ฝัง) ลูกหลานมากันครบจนไล่ญาติพี่น้องกันได้
แต่มีเรื่องลี้ลับบางอย่างอยากเล่าให้ฟังกัน

ขอเรียบเรียงในใจแล้วจะเข้ามาเล่าให้ฟังต่อนะ

บันทึกการเข้า

ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววว
เสียใจด้วยเช่นกันครับ
วันเดียวกับยายผมเลย




---
นอกเรื่องครับ
วันที่สวดยายผมคืนแรก (คือวันที่เสีย) ที่หมู่บ้านก็มีงานศพอีกที่นึง
เพื่อนที่อยู่บ้านเดียวกัน พ่อเพื่อนของเพื่อนอีกทีก็เสีย
ยายของสนุกเกอร์ก็เสียเมื่ออาทิตย์ก่อน
ผมโทรไปลางาน(จ็อบ) เจ้าของที่ทำงานก็เพิ่งมีฐาติป่วยเข้า ร.พ.
เล่าให้ใครฟังก็มีแต่ญาติโกโหติกาป่วยเข้าโรงพยาบาลกันหมดเลย
เดือนนี้นี่ยังไงกันนะ


ป.ล.รออ่านเรื่องครับ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
เสียใจด้วยครับ
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
เสียใจด้วยจริงๆค่ะ
บันทึกการเข้า

อันโตนิโอกะเมโระ ~~
แด่ความงมงายของตู  ฮือๆ~

ย่าคนที่เสีย เป็นคนแก่ท่านที่สองในบ้านที่ได้จากลูกหลานไป
ตอนนี้ก็เลยเหลือก๋ง (แฟนย่าที่เสีย) กับยาย (แม่ของแม่)

ก่อนหน้าที่ย่าเสียประมาณ 2 เดือนได้มีโอกาสเจอน้องคนหนึ่ง
น้องคนนี้มความสามารถพิเศษคือ สามารถดูลายมือได้แม่นดังตาเห็น
ดังตาเห็นที่ว่าน่ะ ตูพิสูจน์มาแล้ว เพราะตอนแรกก็ไม่เชื่อ เพราะเมื่อ 2 ปีที่แล้วน้องคนนี้ได้เข้ามาทำงานที่ office พร้อมกับเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่ามันดูลายมือแม่นมากๆ แต่จะดูได้แค่วันละ 3 คน

ดูมากกว่านั้นมันจะหมดพลัง

คร้ายยยย ใครจะเชื่อ โอ้วว อะไรจะแหกตากันขนาดนั้น แต่มีคนเข้าแถวต่อคิวจะดูลายมือกับน้องมันเยอะทีเดียว
และวันนึงก็มาถึง ได้มีโอกาสดูลายมือกับมัน
หลังจากดูเสร็จ สัญญากับตัวเองว่า จะไม่ดูกับมันอีกตลอดชีวิต
เพราะทั้งเรื่องอดีต ปัจจุบัน มันทายถูก 95% ใครจะเชื่อ

แต่เรื่องแบบนี้ ใครจะห้ามใครได้

หลังจากนั้น ถ้ามีโอกาสเจอมัน ทุกครั้งต้องวิ่งถลายื่นมือทั้ง 2 ข้างเข้าไปทันที
มันทายว่าตูจะพาเพื่อนๆ ไป และชะตาขาดกัน
มันให้ไปทำบุญเยอะๆ
มันทำนายก่อนหน้าที่จะไปเที่ยวเกาะอันดามันก่อนสึนามิมาเพียง 2 วัน
อาจจะเป็นเพราะฟลุคก็ได้ ที่ตูซึ่งจองตั๋ว ที่พัก และชวนเพื่อนไปด้วยกัน 5 คน

หลังจากนั้น มันก็ทายถูกหลายๆอย่าง อย่างที่ไม่อาจจะเล่าได้ที่นี่

เข้าเรื่อง
หลังจากที่ไปเยี่ยมย่ามาคราวก่อน ก็ไดมีโอกาสเจอมัน มันทักทันทีว่า
น้อง : พี่ตั้ม ที่บ้านมีเด็กเกิดใหม่รึเปล่าคะ
ตั้ม :  เปล่านะ (ในใจก็นึกไปถึงน้องชายที่อาจจะไปทำใครท้องแล้วเราไม่รู้)
น้อง : แต่มันจริงๆนะคะพี่ มีคนมาอยู่เพิ่มในบ้าน 1 คน

ตูก็เลยเล่าเรื่องย่าให้มันฟัง (แบบเดียวกับที่เล่าให้ฟังตั้งแต่หน้า 1 นั่นแหละ)
ทันทีที่เล่าจบ น้องมันก็หน้าเสีย และตูยังเล่าให้มันฟังเพิ่มว่า ทางญาติที่เป็นคนพุธ เคยพาย่าไปหาฟมอผี
หมอบอกว่า ผีปู่ย่าของย่า เข้าสิง สูไม่ไหว เพราะเป็นผีเขมร
บรรดาญาติที่พาไปเลยกลับไปถามพี่น้องย่าว่า ย่ามีเชื้อสายเขมรเหรอ เพราะเท่าที่รู้กัน ทราบแค่ว่าย่ามีเชื่อสายจีนแต้จิ๋ว ไทย และเสี้ยวลาว
คำตอบก็คือ "มีจริงๆ"หลังจากนั้น ญาติกลุ่มนั้นก็พาไปหาหมอผีอีกหลายที่ (ประมาณ 3 ที่)
ทุกที่ล้วนให้คำตอบเดียวกัน คือ "สู้ไม่ไหว" (หมอผีคนสุดท้ายได้คำตอบย้ำความเชื่อมั่นเป็นตีนย่าไปจนหงายหลัง)

ตั้ม : หมายความว่าย่าพี่ที่เห็นเนี่ย ข้างในไม่ใช่ย่าเหรอ (น้ำเสียงตกใจ)
น้อง : ค่ะ หนูว่าใช่แน่ๆแลยค่ะ (น้ำเสียงมันมั่นใจมากๆ)
ตั้ม : มันจะเป็นไปได้เหรอวะ
น้อง : พี่ไม่เชื่อเหรอคะ งั้นที่ลองทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ย่า (วิญญาณย่า) และวิญญาณที่สิงอยู่ตอนนี้สิ ถ้าย่าพี่เสีย แสดงว่าในร่างนั่นน่ะ ไม่ใช่คุณย่าหรอกค่ะ
ตั้ม : (คิดในใจว่า ใครจะกล้าลองวะ)
น้อง : นี่หนูพูดมากไปแล้วนะคะเนี่ย (น้องมันกำลังกลัวของเข้าตัว)

หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ น้องคนนั้นก็ขับรถชน และคุณย่าของน้องก็เข้าโรงพยาบาล
ตูเห็นว่า ถ้าลองไปก็ไม่มีจะปัญหาอะไรนะ  ก็เลยไปทำบุญที่วัดพระบาทน้ำพุ พร้อมด้วยอุทิศส่วนบุญไปตามที่น้องมันแนะนำ

3 วันต่อมาย่าก็เสีย

ในเที่ยงวันแรกที่ย่าเสีย พี่ชายคนโตของย่าก็เข้ามาที่บ้าน ผมเรียกเค้าว่าก๋ง
ก๋งคนนี้อายุ 87 ปี ขี่มอเตอร์ไซด์มาเอง และสามารถเดินขึ้นบันไดบ้านเองได้ (เก่งมาก)
มาจุดธูปเป็นคนแรก พร้อมกับเดินเข้าไปที่โลงเย็น แล้วก็คุยอะไรบางอย่างกับย่า
แล้วก้เดินออกมาพร้อมกับถามหลานๆ ถึงกำหนดการในงาน

ในคืนวันสวดศพให้ย่าวันที่ 3 ก๋งซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของย่าท่านนั้นก็เสีย (22 มกราคม 2550)
ทุกคนในหมู่บ้านเล่าลือกันว่า

แกชวนกันไปอยู่ด้วยกัน

เรื่องราวเริ่มงมงายและพั่นเฟือนขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการที่ตูเดินขึ้นไปหน้าศพย่าแล้วจุดธูป ยกมือพนมขึ้น คิดในใจว่า
"ถ้าย่าเอาก๋ง (แฟนย่า อายุ 83 ปีแต่แข็งแรงมาก สามารถดึงข้อได้ 10 ทีติดกันแบบขึ้นสุด ลงสุด) ไปอยู่ด้วยอีกคน ตูจะโกรธย่ามาก และจะไม่ไปฝังด้วย"
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งวันฝังศพย่าได้ผ่านพ้นไป

เย็นวันนั้น ก๋งร้องให้ด้วยความรักย่า พร้อมกับบ่นว่าอยากตายๆๆๆๆๆ
จังหวะนั้นเอง ก๋งมีอาการชัก หายใจไม่ออก มือเกร็งขึ้นมาทั้ง 2 ข้าง
ลูกๆด้วยอารมณ์เตลิดกันทั้งบ้าน เพราะเพิ่งเก็บของสำหรับจัดงานย่าเสร็จ ต้องแบกพ่อตัวเองขึ้นบ่าเพื่อจะพาไปโรงพยาบาล

ทุกคนร้องให้ และใจหาย รับไม่ได้กับการสุญเสียครั้งที่สองที่กำลังจะเกิดขึ้น
อยู่งานศพย่ามา 3 วัน น้ำตาต่อมแตกในวินาทีนี้เอง

และแล้วก๋งก็สำรอกน้ำลายที่ติดอยู่ที่หลอดลมออกมา
เพราะแกนอนร้องให้ และอาการก็ดีขึ้นตามลำดับ

คิดยังไงกับเรื่องนี้กันครับ (ผมคิดว่ามันมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญนะ อี๋~)
บันทึกการเข้า

ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววว
(เหงื่อแตกพลั่ก)
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
หน้า: 1 2 3 4 5 6 [7] 8 9 10 11 12 13 14 ... 111
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!