หน้า: 1 ... 36 37 38 39 40 41 42 [43] 44 45 46 47 48 49 50 ... 111
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กระจู๋สูญเสีย  (อ่าน 385580 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
เสียใจด้วยครับ
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
ณัฐ - ไหว้
โบว์ - กร๊าก
ปุก - กร๊ากกกกก!!!


ถึงปุก
ตูไม่ได้เสียใจเลยนะ กับเรื่องของน้องน่ะ
ที่รู้สึกจริงๆ ก็คือ
(แอบออนร้านเน็ต)

ขอบคุณทุกคนครับ กรี๊ดดดดด
จะบอกว่าจริงๆ ผมโล่งใจด้วยแหละที่น้องหายทรมานซะที
เพราะมะเร็งมันทำลายครอบครัวตูมาเยอะเหลือเกิน
หลังจากนี้จะได้ค่อยๆ เริ่มซ่อม-สร้างส่วนที่หายไปในระยะสองปีที่ผ่านมาให้ดีกว่านี้
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ไหว้

คำว่า "มะเร็งมันทำลายครอบครัว" นี่ หมายความว่าแบบนั้นจริงๆ เลยนะ
รายละเอียดมันเยอะ คงขอไม่เล่าละกันนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นนังส้มภาค 2 ไปฉิบ
ขอบคุณทุกคนครับ ขอบคุณอีกหลายๆ ทีครับ ไหว้









เหมียวเอ๊ย กร๊ากกกกก!!!
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
 (แจ๋ว แจ๋ว)  ฮาเหมียวใหญ่มากเลย


แม่น้ำเหมือนจะเป็นค่ะ
หมอนัดไปตรวจละเอียดอีกครั้ง
แม่ไม่ยอมไป แม่ไม่อยากรักษา


บอกว่าขอตายดีกว่า
ถ้่ารู้ว่าตัวเองเป็น
บันทึกการเข้า
แอบอ้าง
จะบอกว่าจริงๆ ผมโล่งใจด้วยแหละที่น้องหายทรมานซะที
เพราะมะเร็งมันทำลายครอบครัวตูมาเยอะเหลือเกิน

ความรู้สึกมันบอกไม่ถูกจริงๆ จะว่าโล่งใจที่พ่อผมตายมันก็ไม่อยากจะพูดอย่างนั้น
แต่มะเร็งมันทรมานจริงๆ ทั้งคนเป็นคนเฝ้า
ความจริงคนเราก็ต้องตายทุกคนน่ะแหละน่านะ
บันทึกการเข้า

ในหมู่คนตาบอด คนตาบอดข้างเดียวได้เป็นราชา
เสียใจด้วยนะคะ  ไหว้
บันทึกการเข้า

ความหลงใหลในภาพลวงตา ที่ได้มาใช่ความสุข
เคยเฝ้าย่าที่เป็นมะเร็งค่ะ พอดีตอนนั้นเรียนจบ เป็นคนเดียวในบ้านที่ยังไม่มีภาระอะไร
ระหว่างย่าทำเคมีบำบัด ไม่หางาน อยู่บ้านหลายเดือน จนทำเคมีบำบัดแล้วดีขึ้น แอ้ไปทำงานปีนึง
ย่าทรุดเลยลาออกมาอยู่เป็นเพื่อนได้อีก 1 เดือนก่อนย่าเสีย รู้สึกขัดแย้งในตัวเองมาก
ใจหนึ่งก็อยากมีอิสระ แต่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าอิสระของเราหมายถึงอะไร แต่แอ้เป็นคนเห็นแก่ตัวนะ
ไม่ได้อยากให้เขาพ้นทุกข์ แต่อยากให้เขาอยู่กับเรานานๆ ทุกข์เท่าไหร่ก็ไม่สน ตอนนั้นคิดอย่างนี้จริงๆ ยึดติดน่ะค่ะ
สุดท้ายเมื่อย่าเสียไปแล้ว รู้สึกดีที่เราทำเต็มที่แล้ว ไม่มีอะไรให้เสียใจอีก เราทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดแล้ว
บันทึกการเข้า

 ไหว้ ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

เคยเฝ้าย่าที่เป็นมะเร็งค่ะ พอดีตอนนั้นเรียนจบ เป็นคนเดียวในบ้านที่ยังไม่มีภาระอะไร
ระหว่างย่าทำเคมีบำบัด ไม่หางาน อยู่บ้านหลายเดือน จนทำเคมีบำบัดแล้วดีขึ้น แอ้ไปทำงานปีนึง
ย่าทรุดเลยลาออกมาอยู่เป็นเพื่อนได้อีก 1 เดือนก่อนย่าเสีย รู้สึกขัดแย้งในตัวเองมาก
ใจหนึ่งก็อยากมีอิสระ แต่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าอิสระของเราหมายถึงอะไร แต่แอ้เป็นคนเห็นแก่ตัวนะ
ไม่ได้อยากให้เขาพ้นทุกข์ แต่อยากให้เขาอยู่กับเรานานๆ ทุกข์เท่าไหร่ก็ไม่สน ตอนนั้นคิดอย่างนี้จริงๆ ยึดติดน่ะค่ะ
สุดท้ายเมื่อย่าเสียไปแล้ว รู้สึกดีที่เราทำเต็มที่แล้ว ไม่มีอะไรให้เสียใจอีก เราทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดแล้ว

 ฮือๆ~ ฮือๆ~ ตอนส้ม (พี่สาวฟ้า) ตาย
ฟ้านั่งร้องไห้ทุกวัน ฟ้าไม่เคยนอนกับมันเลย ทุกครั้งที่ไปรพ ฟ้าจะรีบกลับ
ห่วงงาน หวงชั่วโมงการทำงานของตัวเอง

วันที่ส้มถามหา ว่า "เมื่อไหร่จะมานอนกับมัน"
ฟ้าก็โกหก "อืมๆ ว่างๆนะ วันหลังนะ" ทั้งที่ใจไม่เคยคิดอยากนอนที่รพ เลย

วันที่มันเสีย คืนนั้นฟ้าไปเที่ยวไปกินเหล้า  ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~
แม่โทรมาบอกว่าส้มเสียตอน ตี 5 ฟ้าก็ไม่รับโทรศัพท์

ทุกวันเสียใจมาก ได้แต่ทำบุญไปให้
ไม่รู้ว่าเค้ายังอยู่หรือเปล่า ได้แต่คิดถึง ได้แต่เห็นอันโน้นอันนี้ที่ส้มชอบแล้ว พูดกับตัวเองว่า
เสียดายเนอะ ส้มไม่อยู่แล้ว.. ถ้ามันอยู่จะซื้อไปให้
 
 
 
 
 เรื่องนี้สอนอะไรฟ้าเยอะ เีดี๋ยวนี้จะคิดถึงคนที่รักเราอยู่รอบตัวเราเยอะขึ้น
กลัวว่า วันเวลาจะพรากเค้าไป แล้วจะต้องมานั่งเสียใจทีหลังแบบเรื่องส้ม  ไหว้
บันทึกการเข้า

ความหลงใหลในภาพลวงตา ที่ได้มาใช่ความสุข
มะเร็ง
 เศร้า


เคยไปเยี่ยมเพื่อนคุณพ่อที่เป็นมะเร็งค่ะ
คุณอาคนนี้สนิทกับพวกเรามาก คือเห็นเรามาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ เลย
เพราะคบกับพ่อมา 20 ปีแล้ว

แต่คุณอาแกไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับบ้านเรา เพราะไม่อยากให้เราเป็นห่วง
ภรรยากับลูก ๆ คุณอาก็ปิดข่าวกันกริบ
กะว่ารีบรักษาให้หายดีแล้วค่อยบอก
แต่รักษาไป ๆ มา ๆ ที่นึกว่าหายแล้วมันกำเริบอีก ทรุดหนัก
ทีนี้พอเพื่อนหายไปพ่อก็ถามจนได้ความ.... แต่กว่าจะรู้เรื่องจริง ๆ ก็ตอนระยะสุดท้ายแล้ว
เพราะก่อนหน้านั้นถามถึงทีไรก็บ่ายเบี่ยง บอกว่างานยุ่งมั่ง ไปทำงานต่างประเทศมั่ง

พ่อเราเสียใจมาก ทำใจไม่ได้ ไม่อยากเห็น.... กลัวที่จะไปเจอ
ตอนแรกเลยไม่ออกปากเลยว่าจะไปเยี่ยม
บวกกับทางโน้นบอกว่าอย่ามา

แต่ที่บ้านเรา ทั้งคุณแม่ ทั้งน้องชายก็ไม่ยอมอ่ะ จะไปเยี่ยม เลยไปกันหมดทุกคน
(สรุปว่าเสียใจมาก กับกลัวที่จะเจอ ไม่อยากไปเหมือนกันหมด เลยต้องเกาะกลุ่มไป  หมีโหด~)

พอไปเจอนี่อยากร้องไห้มาก ๆ เพราะคุณอาเป็นมะเร็งหลอดลม พูดไม่ได้
เขียนกระดานก็เขียนลำบาก
พอเราไปอยู่กันใกล้ ๆ ก็อยากจะพูดกับเรา ก็พยายามพูด
แล้วก็เหนื่อย หอบ.... เพราะฝืนแรงตัวเองมาก

ความรู้สึกตอนนั้นมันปนกันหมด ทั้งเสียใจ เจ็บใจ (ที่ช่วยอะไรไม่ได้ ได้แต่ดู)
แล้วก็เจ็บปวด.... เราต้องคุยกับคุณอาด้วยท่าทางยิ้มแย้ม
บอกว่ารีบหายไว ๆ นะ แล้วไปเที่ยวกัน
ไปบ้านเรานะ จะช่วยแม่ทำของชอบให้อากิน
คือทุกคนก็รู้ว่าโกหก.... เจ้าตัวเขาเองก็โกหก อยากให้เราสบายใจ
อยากให้เราเห็นว่าเค้าเข้มแข็ง กำลังใจยังดีอยู่

นี่นั่งพิมพ์ไปก็น้ำตาไหลไป เพราะเราจำความเจ็บปวดตอนนั้นได้


ถึงมันจะผ่านมาสองสามปีแล้ว ตอนนี้ครอบครัวนั้นก็มีความสุขกันดี
ทุกคนทำใจได้แล้ว จดจำคุณอาไว้ในความทรงจำที่สวยงาม
นึกถึงวันเวลาที่มีความสุขร่วมกัน....
แต่ย้อนกลับไปยังวินาทีนั้นแล้วก็ยังเสียใจอยู่
คิดแต่ว่าทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับเขา

ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับพี่ณัฐและแอน (อีกครั้ง) ค่ะ
ในขณะเดียวกันก็ขอเชียร์ เป็นกำลังใจให้ในการดูแลคนที่ยังอยู่ด้วยนะคะ

แล้วก็ ขอแสดงความเสียใจย้อนหลังนะคะคุณฟ้า  ไหว้
ประสบการณ์นี้มีครั้งเดียวก็มากเกินพอจริง ๆ นั่นแหละ
ต้องอย่าให้มันเกิดขึ้นอีก  ฮือๆ~


บันทึกการเข้า
 ฮือๆ~ ขอแสดงความเสียใจกับทุกคนด้วยนะ
และขอแสดงความเสียใจกับคนที่จะเกิดเรื่องไม่ดีล่วงหน้าด้วย
เพราะไม่ถนัดเข้าจู๋นี้จริงๆ คลิ๊กผิดอีกแล้ว แล้วก็เผลออ่าน
ได้เศร้าก่อนนอน

ปล ต่อไปตูจะเรียกเหมียวใหญ่ว่าไอ้แมวผี  โวย
บันทึกการเข้า
ฮือๆ~ ขอแสดงความเสียใจกับทุกคนด้วยนะ
และขอแสดงความเสียใจกับคนที่จะเกิดเรื่องไม่ดีล่วงหน้าด้วย
เพราะไม่ถนัดเข้าจู๋นี้จริงๆ คลิ๊กผิดอีกแล้ว แล้วก็เผลออ่าน
ได้เศร้าก่อนนอน

ปล ต่อไปตูจะเรียกเหมียวใหญ่ว่าไอ้แมวผี  โวย

 กร๊าก  ฮี่ๆ  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า
กร๊าก ฮือๆ~ ตูปรับอารมณ์ไม่ถูก
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ

วานซืน มาม่าซังที่ร้านตายกระทันหันด้วยโรคหัวใจ ขอไม่เล่าแบบอารมณ์สูญเสีย

เจ้จอย เป็นกระเทยควายหัวโปกที่นิสัยน่ารักมาก เจ้จอยสวย (เฉพาะกลางคืน) ดีทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเดียว ... เฉลยที่ตัวนวล

ทุกครั้งเวลาเมา ของเจ้จอยจะขึ้น จนเป็นที่โจษจันเรื่องใหญ่คับร้าน กันเลยทีเดียว (บ้านส้มทำโฮสคลับ ผู้ชายนั่งดริ๊งค่ะ)

เจ้จอย เป็นขาโหดประจำร้าน เมื่อตอนวันเกิดเจ้จอย เจ้แกแต่งตัว เกล้าผมแบบสาวญี่ปุ่น สวยสง่าน่ารัก...

แต่แล้วก็มีใครไม่รู้ว่าก่อความวุ่นวายในร้าน เจ้จอยก็ตามไปต่อยประตูรถซะ หูช้างห้อย..หยิบสปาร์ต้าจะไปฟันกันเลยทีเดียว

เจ้จอยเป็นขาฮา เป็นกระเทยแอ๊บสวยอยู่ดีๆ เวลาเมา พี่แกก็ไปยืนฉี่กลางถนนหลวงกับเด็กที่ร้าน  ง่ะ

อายุแค่ 26 เอง ไม่น่าไปก่อนวัยอันควรเลย .. โดยเพื่อนเจ้เล่าว่า ไปเที่ยวกินเหล้ากัน

เเล้วเจ้จอยบอกหายใจไม่ออก ปวดหัวใจช่วยพาไปโรงพยาบาลหน่อย ซึ่งเจ้จอบเล่นบ่อย เพื่อนเลยไม่เชื่อ

จึงแบกไปไว้ที่โรงแรม เช้ามาพอเพื่อนไปปลุก...ก็ปลุกไม่ตื่นซะแล้ว


อีเจ้ .. มันติดยา

ก็เล่นยาไปเรื่อย เลยโดนไล่ออกจากร้าน ถ้าเลิกไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับมา

คราวนี้ อีเจ้ขอกลับมาอีกครั้ง และคาดว่าคงจะเล่นทิ้งทวน เลยนัดกับเพื่อนไปอัพกันซะ

เจ้จอยมันชักแล้ว ร้องขอให้พาไปโรงพยาบาล แน่นอนว่า ใครจะพาไป พาไปก็ซวยสิ ก็เล่นยาวงเดียวกัน จะซวยกันยกหมู่

เจ้จอยก็เอารองเท้ามากัด เพื่อไม่ให้กัดโดนลิ้น .. และก็ขาดใจตายตรงนั้น

เพื่อนในวง ก็หอบเอาร่างที่สิ้นใจของเจ้จอยไปไว้ที่โรงแรม .. จนมีเพื่อนอีกกลุ่มมาเคาะประตูนั่นแหละ

ถามว่ารู้ได้ไง .. วันเผา คือวันนี้ มีคนในวงยานั่นเอาพวงมาลัยมาคนละพวงมาขอขมาพ่อแม่เจ้จอย และศพเจ้จอย และมาร้องไห้สารภาพกับแม่ตู


ตอนแรกตูนึกว่าต้องมาที่จู๋นี้ เพราะพ่อตูซะอีก ดีที่ว่าไม่ตายไปโรงพยาบาลทัน  หน้ามึน











บันทึกการเข้า

หนังเย็บมือ Homemade www.facebook.com/oxhour
 ไหว้ ขอให้ไปสุขคตินะคะ ไปที่ที่สงบ มีความสุขจริงๆ  ไหว้
บันทึกการเข้า

ความหลงใหลในภาพลวงตา ที่ได้มาใช่ความสุข
หมดทุกข์หมดโศก  ไหว้
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 36 37 38 39 40 41 42 [43] 44 45 46 47 48 49 50 ... 111
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!