อ่านเรื่องนี้แล้วเกิดอยากขอร่วมแสดงความคิดเห็นบ้าง ไหนๆ ก็เลยสมัครสมาชิกซะเลย ก็มันไม่เสียอะไรนิหว่า..
ผมว่าคนที่ถูกเรียกว่าเกรียน ถึงแม้ว่าเค้าอาจจะทำตัว งี่เง่า ไร้เหตุผล อวดดี ขี้โม้ แสดงความโง่ ฯลฯ
จริงๆ ก็ตาม คนเหล่านั้นก็คงไม่พอใจที่ตัวเองถูกเรียกว่า เกรียน เพราะมันเหมือนเป็นคำแบ่งแยก
โดยชัดเจน ว่าแกเป็นคนคนละระดับกับฉันนะ (ไม่รู้ คิดว่าน่าจะรู้สึกแบบนั้น เพราะไม่เคยถูกเรียกแ
ละไม่เคยเรียกใคร)
เหมือนกับที่ คนผิวสีเชื้อสายแอฟริกันไม่ชอบเมื่อถูกเรียกว่า นิโกร หรือว่าเวลาเราไปเรียกคนภาค
อีสานในกรุงเทพว่า เสี่ยว ซึ่งจริงๆ ได้ยินมาว่าคำว่า เสี่ยว จริงๆ แปลว่า เพื่อนรัก แต่พอเปลี่ยนสถานะ
ทางภาษาในอีกสังคมหนึ่ง ความรู้สึกของผู้ถูกเรียกมันก็เปลี่ยนไป
คนเราให้ความสนใจกับลักษณะทางสังคมของภาษาพอๆ กันกับความหมายของภาษาเลยนะครับ ลอง
ดูคำว่า ยามกับพนักงานรักษาความปลอดภัย กุ๊กกับเชฟ ตุ๊ดกับสาวประเภทสอง เป็นต้น คำมีความหมาย
เดียวกันหรือใกล้เคียงกันแท้ๆ แต่ความรู้สึกของผู้ถูกเรียกนั้นเป็นคนละเรื่อง(คงไม่ต้องบอกว่าคำไหน
ดีกว่า) และในที่นี้ไม่เกี่ยวข้องกับระดับทางภาษาด้วย...
พอเข้าใจอยู่ว่าเป็นคำที่นิยามได้ครบ แล้วก็สนุกปาก แต่ก่อนหน้านี้เราไม่มีคำว่า เกรียน เราก็พอจะ
จำกัดความคนจำพวกนี้ได้ด้วยคำที่ไม่แบ่งแยกขนาดนี้ ฉะนั้นผมว่าถ้าเราเห็นคนทำอะไรแบบเด็กอวด
เก่ง คุยโต ไม่รับผิด เราอย่าไปทำให้เด็กเกิดความต่อต้านด้วยคำว่า เกรียน เลยดีกว่ามั๊งครับ ผมว่า
ถ้าเราไม่เรียกเด็กพวกนั้นด้วยคำว่า เกรียน เค้าอาจจะฟังที่เราพูดมากกว่านี้ก็เป็นได้ เค้าคงไม่ฟังหรอก
เพราะแค่เรียกเค้าก็ดูถูกเค้าซะแล้ว
บางทีเด็กหัวขบถเหล่านี้แหละที่อาจจะโตขึ้นมาเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่ามากกว่าเด็กหัวอ่อนที่ใคร
พูดอะไรก็เชื่อๆ ไปซะหมด(ไม่ได้ว่าว่าคนแบบนี้ไม่ดีนะครับ) เพราะเด็กเหล่านี้มักจะตั้งคำถามอยู่
ตลอดเวลา ถึงมันจะดูเป็นคำถามโง่ๆ ก็ตามที แต่อย่างน้อยการตั้งคำถามถึงจะดูโง่ๆ มันก็ยังดีแต่
การรอคอยคำตอบไม่ใชหรือครับ?
ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของใครจะเป็นผู้ให้คำตอบกับคำถามได้ดีเท่านั้นเอง
เหมือนเด็กชี้ก้อนเมฆบนฟ้าแล้วถามพ่อว่า "พ่อๆ เมฆนั่นเป็นรูปอะไร รูปปลารึเปล่า?"
พ่อ1 ตอบว่า "รูปอะไรกัน ไหน ไม่เห็นมีเลย มองก้อนเมฆอยู่ได้ ว่างก็ไปอ่านหนังสือเรียนซิจ๊ะลูก"
พ่อ2 ตอบว่า "ไหนๆ ปลายังไงลูก ส่วนไหนคือปลา ไหนชี้หางให้พ่อดูซิ ไหนหัวเอ่ย? เอ.. พ่อว่าน่าจะ
เป็นนกมากกว่านะ นั่นไงปีก เห็นมั๊ย?"
พ่อทั้งสองคนไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก แต่เด็กได้อะไรกลับมา?
เด็กที่ฟังพ่อ1 ได้ความรับผิดชอบกลับมา ส่วนเด็กคนที่ฟังพ่อ2 นั้นได้จินตนาการ..
อาจจะเป็นเพราะผมเคยเถียงคำไม่ตกฟากแบบเด็กเหล่านี้มาก่อน (ถ้าเป็นสมัยนี้ผมคงถูกเรียกว่า
เกรียน) ผมเลยเข้าข้างพวกเค้าก็เป็นได้
ผมอาจจะเชื่อในสามัญสำนึกของคนมากเกินไป แต่ผมเชื่อว่าเด็ก "เกรียน" ทุกคนสามารถเป็นคน
ที่ยอดเยี่ยมได้ ถ้าเราให้คำตอบกับคำถามไร้สาระของเค้าได้ดีพอ...
ปล. หาตั้งนานว่าปุ่มตอบกระทู้ หรือ Reply อยู่ตรงไหน ก็ว่ามันน่าจะอยู่แถวล่างๆ หาไม่เจอ ...
อ่อ ต้องปุ่ม "ตอบกระจู๋" นี่เองเหรอ

ปล2. พิมพ์ซะยาวเฟื้อย ขอโทษทีครับ พอดีนั่งอ่านมา 38 หน้ากระทู้ เลยคิดอะไรเยอะไปหน่อย

ปล3. ยินดีที่ได้รู้จักสาวกฟอรั่มทุกท่านนะครับ รับน้องผมด้วยการหักจิตพิสัยได้ตามสบายครับ เพราะ
ตอนเรียนมัธยมปกติผมก็จิตพิสัย 0 ตลอดศกอยู่แล้ว ลองติดลบดูซะบ้างเผื่อจะได้ความรู้สึก
ใหม่ๆ
