เมื่อวานดูถึงลูกถึงคน ว่าด้วยเรื่องครูสองคนที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนลูกศิษย์สองคนในห้องพยาบาล
มีคำถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องจับกุมครูต่อหน้าเด็กนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่
มีตำรวจท่านหนึ่งมาออกรายการ ถึงลูกถึงคน ได้ชี้แจงว่า
ถ้าใครก็ตาม ได้มาเห็นการซักพยานและหลักฐานตรงหน้า ย่อมทนไม่ได้อย่างแน่นอน ต้องจับทันที
จากนั้นก็บอกอีกว่า การจับต้องทำอย่างเร็วที่สุด
------------
ผมไม่รู้หรอกครับว่าจริงๆต้องทำกันอย่างไร จับเร็วที่สุดนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่มาตรฐานนี้ถูกใช้ในทุกกรณีหรือเปล่า เวลาเจอพวกผู้มีอิทธิพลหรือมีหน้ามีตาทางสังคมทำอย่างนี้กันทุกคนหรือไม่
------------
ถ้าใครได้อ่านเรื่อง โรงเรียนนักสืบQ จะเห็นว่า อาจารย์ดันกล่าวไว้ประโยคหนึ่งว่า
" นักสืบ จะต้องไม่เคลื่อนไหวด้วยเรื่องส่วนตัว"
[/color]
ของหมอเอง เวลาทำงาน ต้องแยกเรื่องอารมณ์กับมาตรฐานการรักษาออกจากกัน หรือถ้ารู้ตัวว่าแยกไม่ได้ ก็ต้องให้คนอื่นทำแทน
------------
OFF RECORD ครับ ตอนเรียนหนังสืออยู่ อาจารย์เคยยกตัวอย่างนิทานเรื่องหนึ่ง .... มีสารวัตรมือปราบคนนึง เป็นคนที่ดีมากใจบุญสุนทาน เป็นที่รักของคนในชุมชน... วันนึงพลบค่ำ แกเดินมาหาหมอที่รพ. แล้วบอกหมอว่าให้ไปข้างนอกกันสองคนหน่อย พอขับรถไปด้วยกัน เข้าไปในป่า สารวัตรก็บอกว่า ตรงนั้นมีศพนอนตายอยู่1ศพ เป็นมือปืนในพื้นที่ ตำรวจมีหลักฐาน แต่ยังไม่พอที่จะเอาผิด แกก็เลยเก็บมือปืนซะ ... ตอนนี้อยากให้หมอเขียนใบชันสูตรศพแต่เจ้าพ่อที่เป็นนายของมือปืน จะเอาใบนี้ไปแจ้งตาย ดังนั้นเขียนอย่างไรก็ได้ แต่ห้ามเขียนว่าถูกยิง.... แต่ให้เขียนว่าตายตามธรรมชาติ...... หมอทำท่าจะขอใบไปเขียนที่รพ. แต่สารวัตรก็พูดว่าหมอมีลูกมีเมียแล้ว คงไม่อยากให้ลูกกับเมียเป็นหม้ายนะ ว่าแล้วสารวัตรก็เอาปืนขึ้นมาถือไว้ในมือและยื่นใบชันสูตรให้หมอ.....อาจารย์เล่าว่าเป็นนิทานที่เกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน หลังจากนั้นหมอคนนั้นต้องย้ายออกจากพื้นที่ เพราะเจอผู้มีอิทธิพลหมายหัว .....