กลางเดือนธันวาคมของทุกปีมีฝนดาวตกที่ได้ชื่อว่าน่าดูที่สุดกลุ่มหนึ่งนั่นคือฝนดาวตกคนคู่ (Geminid meteor shower) ที่ว่าน่าดูก็เพราะเป็นฤดูหนาวที่ส่วนใหญ่ท้องฟ้าโปร่ง ที่สำคัญคือมีจำนวนดาวตกให้เห็นในอัตราสูงเมื่อเทียบกับฝนดาวตกกลุ่มอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่เป็นคืนเดือนมืด ไม่มีแสงจันทร์รบกวน ที่ได้ชื่อว่าฝนดาวตกคนคู่เนื่องจากดาวตกดูเหมือนพุ่งออกมาจากกลุ่มดาวคนคู่ (แต่ไม่ได้หมายความว่าดาวตกเริ่มปรากฏขึ้นมาในกลุ่มดาวนี้เสมอไป) เริ่มเกิดตั้งแต่ราววันที่ 7 ธันวาคม ด้วยอัตราเพียงหนึ่งดวงต่อชั่วโมง จากนั้นจะเพิ่มขึ้นจนสูงสุดซึ่งโดยมากอยู่ในคืนวันที่ 13 และ/หรือ 14 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โลกโคจรฝ่าเข้าไปในธารสะเก็ดดาวส่วนที่มีสะเก็ดดาวหนาแน่นมากที่สุด อัตราการเกิดจะลดลงเรื่อย ๆ หลังจากนั้นและสิ้นสุดในวันที่ 17 ธันวาคม
ฝนดาวตกคนคู่ในปี 2550
องค์การอุกกาบาตสากล (International Meteor Organization - IMO) พยากรณ์ว่าฝนดาวตกคนคู่จะมีอัตราสูงสุดในวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม 2550 เวลา 23.45 น. ตามเวลาประเทศไทย (ให้ค่าความคลาดเคลื่อนไว้ที่ 2 ชั่วโมง 20 นาที) ทำให้ประเทศไทยสามารถมองเห็นดาวตกได้ในช่วงที่มีอัตราสูงสุดด้วยค่าประมาณ
100 ดวงต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เราสามารถมองเห็นดาวตกได้มาก
ตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม แต่คาดว่าจะต่ำกว่าคืนวันที่ 14 ธันวาคม อยู่ที่ราว 60 ดวงต่อชั่วโมงฝนดาวตกคนคู่
เริ่มเห็นได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น. เป็นต้นไปและปรากฏไปจนถึงเช้ามืด ส่วนใหญ่ดาวตกที่เกิดก่อนเที่ยงคืนจะมีความสว่างน้อยกว่าและเคลื่อนที่ช้ากว่าดาวตกที่เห็นหลังเที่ยงคืน โดยทั่วไปคาดหมายได้ว่าจะพบดาวตกเป็นจำนวนน้อยในชั่วโมงแรก ๆ (ราว 20 ดวงต่อชั่วโมง) แล้วจึงเพิ่มขึ้นตามมุมเงยของกลุ่มดาวคนคู่ซึ่งเป็นบริเวณที่จุดกระจายฝนดาวตกอยู่ น่าจะเห็นดาวตกได้มากที่สุดในช่วงที่กลุ่มดาวคนคู่อยู่สูงใกล้จุดเหนือศีรษะซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 0.00 - 4.00 น.
ดาวตกจากฝนดาวตกคนคู่ส่วนใหญ่มีสีขาวและเหลือง จุดกระจายฝนดาวตกอยู่ใกล้ดาวคาสเตอร์ในกลุ่มดาวคนคู่ (ปีนี้ดาวอังคารอยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ ห่างจากจุดกระจายฝนดาวตกไปทางทิศตะวันตกไม่ไกลนัก) สามารถพบดาวตกสว่างที่เรียกว่าลูกไฟได้ประมาณร้อยละ 5 ของดาวตกทั้งหมด ดาวตกจากฝนดาวตกคนคู่มีอัตราเร็วประมาณ 35 กิโลเมตรต่อวินาที เทียบได้กับครึ่งหนึ่งของฝนดาวตกสิงโต นอกจากดาวตกจากฝนดาวตกยังมีดาวตกทั่วไปเกิดขึ้นราว 5-10 ดวงต่อชั่วโมง และดาวตกที่ไม่ใช่สมาชิกของฝนดาวตกคนคู่อีกเล็กน้อยโดยสังเกตได้จากทิศทางการเคลื่อนที่ จำนวนดาวตกที่พบอาจน้อยกว่าที่คาดไว้ได้หากท้องฟ้าไม่มืดสนิทหรือมีเมฆบดบัง พ.ศ. 2551 ฝนดาวตกคนคู่จะมีแสงจันทร์รบกวน จากนั้นจะสังเกตได้ดีอีกครั้งในปี 2552
http://thaiastro.nectec.or.th/skyevnt/meteors/2007geminids.htmlยังไม่เคยเห็นฝนดาวตกเลยค่ะ อยากมีโอกาสเห็นซักครั้งนึง
ยิ่งชุดนี้ ทั้งวันและเวลาเยี่ยมมากๆสำหรับวี
แต่เชื่อว่าแถวบ้านวีก็ยังคงมองไม่เห็น
