ที่รู้สึกว่าอับอายสุดๆคือ
พนักงานในบริเวณทางออก C1
ซึ่งมีฝรั่งมังค่า ประมาณหลายร้อยลูก
ไปรอตรวจพาสปอร์ต และออกไปรับกระเป๋าอยู่
ความจริงข้าพเจ้าควรจะออกได้นานแล้ว แต่ลืมเขียน ตม.
เลยวิ่งแร่ดกลับมาเขียนใหม่ ประท้ับใจขั้นที่หนึ่ง...
แท่นเขียนตอม่อ ไม่มีปากกา...และไม่มีวี่แววของซากปากกา
ืคือถ้ามันหาย มันน่าจะมีแท่นเหมือนที่ดอนเมืองใช่ไหม? แต่นี่มันไม่มีอะไรเลย
มีแต่ใบโฆษณา คิงเพาเวอร์...
หลังจากเขียนเสร็จด้วยปากกาของชาวบ้าน
วิ่งกลับไปต่อแถว(อันนี้ดีหน่อย เพราะว่ามีแถวสำหรับพาสปอร์ตไทย)
แต่ก็นานมาก เพราะว่าคนญี่ปุ่นที่มีแฟนคนไทย และพาลูกมาอีกโขยงละสามคน
มาต่อแถวก่อนหน้ากระผม สามโขยง...เซ็งจอร์จ
แต่ของเด็ดมันอยู่ระหว่างรอนั่นแหล่ะ...ด้านขวามือเป็นแถวฝรั่ง
ที่เด็ดนี่ไม่ใช่ฝรั่ง แต่เป็นยัยซิ้มหนักงาน(ยังไม่แก่แต่ท่าทางซิ้มมากๆ....)
ที่อยู่ๆก็เกิดอาการโวยวาย เพราะไ้อ้ฝรั่งนั่น เขียนใบตอม่อไม่ครบ
(ขาดเลขที่นั่งในไฟล์...แต่ฝรั่งนี่มันไม่รู้)
แล้วมันก็ให้เขียนตรงนั้น แต่ไอ้ฝรั่งนี่ปรากฏว่าสื่อสารกันไม่รุ้เรื่อง
ด้วยทีนังซิ้มนี่มันพูดจาห่วยแตกมากๆ แบบว่า นัมเบอร์ๆ ยู ไฟล์ๆ
พูดแบบตะคอกๆ...อาไรของมรึงเนี่ย
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็รู้ว่าที่มันโมโหเพราะว่า ฝรั่งนั้น ((คือความจริงแนวๆอินโดไม่ฝรั่งเท่าไร))
พูดภาษาอังกฤษไม่ได้... เพราะว่าเพื่อนเขาที่รออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ววิ่งเข้ามา
เพื่อจะช่วยสื่อสารให้... แต่นังซิ้มนั่นบอกว่าวุ่นวายผิดกฏ แถมตะโกนเรียกยาม
แบบว่าเสียงดังโหวกเหวกมากๆ... สรุปยามมาลากตัวเพื่อนอินโดออกไป
แล้วเพื่อนอินโดก็อธิบายกับยามว่า คนนั้นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ (ก็เลยเข้าใจเรื่องราว...)
ยามก็บอกว่า ฉันก็เป็นแค่ยามต้องทำตามหน้าที่

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ผมหลุดไปรับกระเป๋าได้แล้ว ไอ้อินโดนั่นก็ออกตามมา
เพราะมีพนักงานคนข้างๆ รำคาญอีซิ้มนั่นเลยมาคุยให้...
(ถ้าไม่ได้สุดสวยคนนั้น สงสัยอินโดมันคงแก่ตายในสุวรรณภูมิ)
แล้วมันก็ด่าใหญ่เลย...แปลไม่ออก แต่เห็นมันระบายอารมณ์ใส่เพื่อนมัน...
รู้สึกเซ็งกะอีซิ้มมาก คือไม่ใช่ผมคนเดียว
แต่อีกหลายสิบคนที่อยู่ในบริเวณนั้น คิดดูว่า อายไหมเนี่ย
สถานบินระดับโลก บริการเหมือนรถเมลล์เขียว...
ช่วงท้ายๆก่อนพี่แกจะออกมาได้นี่ พี่อินโดแกโวยหนักจนแบบว่าคนมองกันสุดๆ
และอีซิ้มก็แผลงฤทธิ์ด่าเป็นภาษาไทยว่า "วุ้ย พูดไม่รู้เรื่อง บอกให้เขียนๆไฟล์"
มันก็คงจะรู้เรื่องหรอก ภาษาไทย ...

จบ...
มีอีกเรื่องที่รู้สึกว่าสถานบินนี้มันผักชีโรยหน้าจริงๆ คือเรื่องระบบขนกระเป๋า
มันติดขัดกันแบบว่าทุกหย่อมหญ้าจริงๆ
เครื่องขนเนี่ย มันจะเป็นสายพานที่เจาะพื้นขึ้นมาจากด้านล่างไฮโซมาก
แต่เนื่องจากคนออกมากันล่าช้า(เพราะยายซิ้มนั่น)
กระเป๋าเลยระบายไม่ทัน แล้วทำให้ระบบติดขัด
สายพานข้างล่างกระเป๋าเต็ม แต่ไอ้สายพานข้างล่างก็ส่งกระเป๋ามาเรื่อยๆ
มันก็เลยไม่ขยับ อีตอนแรกเราก็นึกว่าระบบหยุดอัตโนมัติ ที่ไหนได้...
พอกระเป๋าหายๆไปบ้างแล้ว มันก็ไม่ยอมเดินต่อ
มีพนักงานอยู่คนนึงมาช่วยพวกผมหากระเป๋านิสัยดีมากๆ
เขาต้องการจะระบายกระเป๋า เพราะว่ามันเต็ม
แล้วผมถามว่านี่มันโล่งแล้ว แต่กระเป๋าผมยังไม่ออกเลยทำไง
เขาบอกว่า "ไม่รู้ครับ..." จอร์ชไรวะ ไม่รู้ อะไรเนี่ยยยยยย
ผมเลยถามต่อว่า ทำไมมันหยุดล่ะครับ
เขาก็ตอบอีกว่า "มันติดครับเลยหยุด"
แล้ววิธีแก้ล่ะครับ "ผมก็อยากรู้ครับ"
แล้วพี่ตำแหน่งอะไรครับ "เจ้าหน้าที่ตรงนี้แหล่ะครับ"
และใครจะแก้ไขได้ครับ "พี่ก็ไม่รู้ครับ"
...
.....
.......ไรวะ
สักพักมีฝรั่งไปวีนกะเจ้าหน้าที่ฝั่งตรงข้าม
มันก็หายไปหนึ่งชาติ แล้วก็มีคนมาแก้เครื่อง ซึ่ง
ไอ้เ้จ้าหน้าที่มันก็เห็นอยู่แล้วว่า เครื่องมันค้าง เพราะมันยืนอยู่ตั้งชาตินึงแล้ว
มันยืนรอไรวะ แม่งงง...
พอได้กระเป๋าครบ รุ่นพี่ผมเขาจะต่อเครื่องไปอุดร
พี่พนักงานคนเดิมดีมากๆเลย รีบวิ่งไปพาไปส่งเลย
เพราะเขากลัวเราหลง และเขาบอกว่ากระเป๋าช้าเนี่ยแหล่ะ เดี๋ยวจะตกเครื่องบิน
ทำนองว่า เขาก็กลัวเป็นเรื่องเหมือนกัน แต่พูดจากดีมาก ประทับใจ

จบ...ขาเข้าครับ เซ็งมาก...