ขุดอย่างมัีนัยยะ (นัยยะแปลว่าอะไร
)
อย่าซื้อเวลาหาโศกนาฏกรรม - เปลว สีเงิน (
ที่มา)
ก็คงต้องรอให้เครื่องบินขึ้น-ลงแล้วพบอุบัติเหตุคาตา เพราะรันเวย์ หรือแท็กซี่เวย์ “หมดสภาพ” ซักลำก่อนนั่นแหละ ทางคมนาคมและทาง AOT ถึงจะตัดสินใจได้ว่า
จะเอาอย่างไรต่อไปกับการคมนาคมทางอากาศของไทย?
จะปิดสุวรรณภูมิบางส่วน เพื่อตรวจสอบ “รื้อ-ซ่อม” กันให้เป็นเรื่องเป็นราว
หรือ ว่าจะดันทุรังมันไปอย่างนี้ เจอแตกร้าว เป็นหลุมเป็นบ่อตรงไหน ก็ “ปะผุ” มันไปตรงนั้น ทำเหมือน กทม.ปะถนน “ขายผ้าเอาหน้ารอด” กันไปวันๆ
หรือว่า จะตัดสินใจเปิดใช้ “สนามบินดอนเมือง” ควบคู่กันไป โดยย้ายบางส่วนไปอยู่ที่ดอนเมือง?
ครับ..ทั้งปลายทั้งปวงก็ตามสไตล์ไทยๆ ปล่อยให้ปัญหามันชักลากเหตุการณ์ไปวันๆ จนกว่าวัวหายแล้วนั่นแหละค่อยมาว่ากัน จะเอางั้นก็เอา!
บอกตรงๆ ครับ ปัญหาสนามบินสุวรรณภูมิ มันกลายเป็น “ฝันร้าย” ที่หลอกหลอนคนไทยทุกคนทั้งขณะหลับตาและลืมตา
เมื่อเห็นความอัปยศแห่งโลก แทนคำว่าสนามบินทันสมัยของโลกแล้ว ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
เห็น ภาพใบหน้าเหลี่ยมๆ แสยะยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ของ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ลอยขึ้นมาควบคู่กับสภาพสนามบินที่ “เปิดปุ๊บ-พังปั๊บ” นี้ทันที!
ปัญหาอัปยศที่สนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมดขณะนี้ คือ
“ใบเสร็จ”!
“ใบ เสร็จ” ที่เป็นหลักฐาน “ชัดแจ้ง-คาตา” ใบแรก ที่รับรองการทุจริต-คอรัปชั่น และการโกงกิน “ครบเครื่อง-ทุกรูปแบบ” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคณะ
เท่า ที่ปัญหาเรื่องแท็กซี่เวย์ และรันเวย์แตกร้าว ทรุดตัว เป็นหลุมเป็นบ่อ เรียกว่ากระจายไปทั่วทั้งสนามบินนั้นถูกเผยแพร่สู่สาธารณชน มันก็หลายวันมาแล้ว
เห็นฝ่ายผู้บริหารสนามบินยกคณะเข้าไปดูที แล้วก็ออกมาให้สัมภาษณ์กันไปที
วันต่อมา เห็นฝ่ายคณะกรรมาธิการฯ ของสภาฯ ไปดูที แล้วก็ออกมาให้สัมภาษณ์อีกที
วันต่อมา เห็นฝ่ายบอร์ดท่าอากาศยานไทยยกคณะไปดูอีกที แล้วก็ออกมาให้สัมภาษณ์อีกที
วันต่อมา เห็นฝ่ายวิศวะฯ เข้าไปดูอีกที แล้วก็ออกมาให้สัมภาษณ์กันอีกที
นี่เมื่อวานนี้ เห็นไปกันพร้อมหน้า ตั้งแต่รัฐมนตรีคมนาคม ประธานบอร์ด AOT ผอ.AOT และ ผอ.การท่าฯ ดูแล้วก็ให้สัมภาษณ์กันไปอีกตามระเบียบ
สรุปผล ที่เวียนไปดูที่เกิดเหตุกันตามฐานานุรูปก็คือ..วนอยู่ที่เดิม!
รู้ว่ามันพัง แต่พังเพราะอะไร แล้วต้องแก้อย่างไร และต้องบริหารปัญหานั้นอย่างไร?
ใครคิดอย่างไร เข้าใจว่าอย่างไร ได้ข้อมูลมาบ้างอย่างไร ก็ว่ากันไปตามเรื่องตามราว
เรียกว่าเล่น “มอญซ่อนผ้า ตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง” วนเป็นวัวพันหลัก ยึดอะไรเป็นแก่น-เป็นแกนไม่ได้!
ปัญหานี้ “ซื้อเวลาไม่ได้” จะต้องมี “กำหนดเวลาเป็นนาย”
และต้อง “ตัดสินใจ” บนข้อมูลทางวิชาการ และทางปฏิบัติการที่ “เด็ดขาด-ฉับพลัน” ว่า...
จากปัญหารันเวย์-แท็กซี่เวย์ แล้วเราจะเอาอย่างไรกับสนามบิน?
ซ่อมไป เปิดใช้สนามบิน “เสี่ยงดวง” กันไปอย่างนี้
หรือว่า “ปิดบางส่วน” แล้วไปเปิด “ดอนเมือง” ใช้ควบคู่กันไป?
ทุก อย่างยังอยู่ในสัญญามิใช่หรือ ฝ่ายก่อสร้าง ฝ่ายวิศวะ ฝ่ายที่ปรึกษา ฝ่ายเทคนิค ฝ่ายออกแบบ ตอนประมูลก็เห็นมีครบเครื่อง และเก่งๆ กันทั้งนั้น แล้วตอนนี้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันหมด ไปลากคอไอ้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายศรีสุข จันทรางศุ หรืออิตัลไทย บริษัทรับเหมา “คู่บุญทักษิณ” มาถามดูซิว่า.. ความฉิบหาย-ขายชาติอย่างนี้ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ตอน นี้ดูเหมือนว่า “หมาซักตัวก็ไม่มีตัวไหนเกี่ยว” ความจริงแล้ว คณะก่อการบ่อนทำลายชาติด้วยคอรัปชั่น ๓๐% นั่นน่ะยังอยู่กันครบ ไปลากคอ “ยกแก๊ง” มันมาเลย
ทั้งข้าราชการ ทั้งนักการเมือง ทั้งผู้รับเหมา ที่ลูบหน้าแล้วปะจมูกกันทั้งนั้นนั่นแหละ
เราต้องเสียเวลามารื้อค้นข้อมูล-หลักฐานเพื่อตรวจสอบอยู่ทำไม ก็เอาไอ้โจรนั่นแหละมาชี้
เพราะใครมันจะรู้ที่ซ่อน “ทรัพย์โจร” เท่ากับ “พวกโจร” เพราะมันรู้แหล่ง แล้วปล้นไปเองกะมือ!
การ ตัดสินใจทางใด-ทางหนึ่งของฝ่ายบริหาร คือฝ่ายรัฐบาลต่อกรณีนี้ มันจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้เอกสาร หลักฐาน ข้อมูล “ในทุกด้าน” ภายใต้เงื่อนไขเวลาหนึ่งเท่านั้น
ภายใต้เวลาหนึ่งนั้น รัฐบาล “ต้องตอบ” เบ็ดเสร็จ-เด็ดขาด จะเอาอย่างไรกับสุวรรณภูมิ?
การ ตัดสินใจก่อนมีเหตุการณ์ ยังไงๆ มันก็ดีกว่ามีเหตุการณ์ “ไม่พึงประสงค์” เกิดขึ้นแล้ว..ถึงค่อยมาตัดสินใจ! การสำรวจ การซ่อม การดำเนินคดี “คนผิด-คนโกง” นั่นมันเรื่องหนึ่ง
การบริหาร-จัดการ “สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง” เพื่อให้การคมนาคมทางอากาศอันเป็นสากลเป็นไปตามปกติ มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
และไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างใด-อย่างหนึ่งต่อปัญหานี้ ผมขอบอกว่า “มีเดิมพันสูง” ทั้งสิ้น!
อยู่ที่นี่ ยึดสุวรรณภูมิที่เดียวเป็นเรือนตาย
“ความเสี่ยง” ก็คือเดิมพันที่สูง!
ถ้าตัดสินขยับขยายบางส่วนไปดอนเมือง “เวลา” เพื่อการตระเตรียม มันเป็นเดิมพันของความมั่นใจ-อุ่นใจในทางเลือกมากกว่า
สุวรรณภูมิวันนี้-ขณะนี้ มันใหญ่แต่ชื่อ แต่ลานบินที่ใช้ได้ตอนนี้ ใหญ่กว่าลานจอดรถทัวร์ไม่เท่าไหร่หรอก เมื่อวานจึงเกิดปัญหามากมาย
เที่ยว บินกระจุกตัว ขึ้น-ลงไม่ได้ ต้องบินวนเข้าคิวกลางอากาศรอคิวลงจอด บางเที่ยวบินวนจนน้ำมันจะหมด ต้องไปร่อนลงที่อู่ตะเภารอสัญญาณขึ้นบินใหม่ เพื่อนำผู้โดยสารกลับมาลงที่สุวรรณภูมิ!
เป็นครั้ง-เป็นคราวจาก ปัญหาฉุกเฉินเฉพาะหน้า ไม่มีใครว่า แต่นี่รู้ๆ กันอยู่มันเกิดจากปัญหาที่จะยืดเยื้อเรื้อรัง มันเสียหายกันไปทุกฝ่าย ทั้งผู้โดยสาร ทั้งสายการบิน ทั้งสนามบิน
และทั้ง..ชื่อเสียงประเทศไทย!
คนที่ไปสนามบินสุวรรณภูมิเขาเอามาพูดกันว่า..
“มันใช่สนามบินซะที่ไหนล่ะ มันเป็นห้างสรรพสินค้า “คิงส์เพาเวอร์” ที่บังเอิญมีลานจอดเครื่องบินด้วยเท่านั้นแหละ”
ท่านพลเรือเอกธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม ท่านพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร ประธานบอร์ด AOT ฟังแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างครับ?
นี่ละผลงานการนำชาติไทยก้าวสู่อินเตอร์ของ “ทักษิณ-สุริยะ” เค้าละ!
อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมากันดีนัก เห็นคุยว่าถ้าจะกลับเข้ามา ก็จะเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผยทาง “สนามบินสุวรรณภูมิ” นี่แหละ
ก็อยากให้กลับมาซะตอนนี้ พลเอกสพรั่งจะได้จับลากคอให้ไปดูรันเวย์ แล้วให้เขาตอบซิว่า
“นี่มันผลงานของใคร?”
ก่อน จะหมดบรรทัด ขอบอกถึงท่านที่สนใจหนังสือ “มงคล ๓๘” นิดนะครับว่า หมดเกลี้ยงแต่เช้าวานนี้แล้ว ต้องขออภัยท่านที่โทร.มาตอนบ่ายๆ ซึ่งต้องผิดหวัง
เอาไว้สักพักนะครับ จัดส่งชุดนี้หมดแล้ว ถ้ามีหนังสืออย่างอื่นผมจะแจ้งให้ทราบ นี่ก็มีท่านหนึ่งโทร.มาบอกว่าจะมอบหนังสือธรรมะดีๆ เพื่อให้ผมแจกจ่ายอีกประมาณ ๒๐๐ เล่ม
ก็ขอบคุณครับ แต่ขอเวลาให้คนรับโทรศัพท์เขาพักซักระยะ วันๆ รับโทรศัพท์เป็นร้อยสาย แถมต้องเขียนหน้าซอง ผนึกซอง ปะแสตมป์ ขนไปส่งไปรษณีย์
ขืนถี่ๆ แบบนี้ ใจที่บานของเขาอาจจะเปลี่ยนเป็นบูดขึ้นมาก็ได้ มันก็จะบาปกันไปซะเปล่าๆ!
ท่าน ที่ได้รับหนังสือแล้ว อย่าเอาไปทิ้ง-ไปขว้าง หรือวางไว้เฉยๆ โดยไม่อ่านเพื่อนำไปปฏิบัตินะครับ ความเป็นมงคลจะไม่เกิด ถ้าท่านไม่ทำเอง พุทธศาสนาเป็นศาสนาของคนทำ ไม่ใช่ศาสนาเพื่อการเซ่นบวงสรวงแล้วก็จะสมปรารถนาได้ ไม่มีอย่างนั้นนะครับ แม้กระทั่งพระพุทธเจ้าก็ทรงเป็นเพียง “ผู้บอก” ถ้าผู้ฟังไม่ทำ พระองค์ท่านก็ช่วยไม่ได้.
ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 26 มกราคม 2550
เอาล่ะครับ
ขุดประเด็นที่เคยคุยกันมาเมื่อครึ่งปีก่อนมาคุยกันอีกครั้ง
คราวนี้น่าจะสนุกครับเพราะอะไรๆ ค่อนข้างชัดเจนขึ้นจนเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้ว
(เดี๋ยวจะลองย้อนกลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่หน้าหนึ่ง)