ร่องรอยที่ว่า "น่า"จะเกิดจากเลือดออกใต้ชั้นผิวหนังชนิดที่เรียกว่า pethichiae ครับ
เลือดออกแบบนี้ แปลได้ว่า มีการรั่วออกมาจากเส้นเลือดขนาดเล็กระดับเส้นเลือดฝอย
ส่วนห้อเลือด เป็นการที่เส้นเลือดระดับกลางแตกและมีเลือดออกในชั้นผิวหนังหรือใต้ผิวหนัง อย่างนั้นอาจจะเรียกว่าecchymosis
ลองหารูปจากgoogleดูครับ
เวลาเรียน ทั้งสองแบบมีเหตุที่แตกต่างกัน ... แต่ในทางปฏิบัติ มันเจอได้ทั้งสองแบบ
โรคที่เจอได้ มีหลายโรคมากครับ โดยหลัก หมอจะตรวจโดยคำนึงถึงเหตุที่เกิดโรคคือ
เกร็ดเลือด - ถ้าไม่ดีหรือมีน้อยลงก็เกิดได้
สารช่วยการแข็งตัวของเลือด - ถ้าผิดปกติ เช่นกลุ่มฮีโมฟีเลีย ก็เกิดได้
เส้นเลือด - ถ้าอักเสบก็เกิดได้
แปลกไหมที่หมอตรวจแบบนั้น
ไม่แปลกครับ ลองดูกรอบข้างบนเทียบนะครับ
กดท้อง ตรวจดูว่าปวดไหม... โรค Henoch-Schonlein purpura (ต้องมีจุดสองจุดบนตัวoตัวที่สอง) เป็นโรคที่มีการอักเสบของหลอดเลือด เกิดจุดพรายเลือดแบบนี้ได้ และอาจมาพร้อมอาการปวดท้อง
ไข้เลือดออก เกร็ดเลือดต่ำลง เกิดจุดแบบนั้นได้ และปวดท้องน้อยด้านขวาได้ (เหมือนไส้ติ่ง)
ถามเรื่องประจำเดือน - ถ้ามีประจำเดือนในช่วงนี้ และมีเลือดออกมามากกว่าปกติ ก็ต้องระวังว่าจะเป็นโรคทางเกร็ดเลือดหรือสารประกอบของเลือด
ถามเรื่องคนที่บ้าน เพื่อคัดกรองเรื่อง ฮีโมฟีเลีย และ ไข้เลือดออก
ถามเรื่องความสูง - หาโรคทางพันธุกรรมบางอย่าง
....
แต่ทว่า
สงสัยลืมถามเรื่องการกระแทกครับ
ส่วนเรื่องกราฟิกดีไซน์ ไม่รู้ถามทำไม
ขาดวิตามินC ก็เกิดอะไรประมาณนี้ง่าย
ผมว่าเป็นหมอที่ละเอียดพอสมควรนะครับ (ถ้ามองในแง่ดี
) แต่บางจุดก็หลุดไปบ้าง
- ส่วนเรื่องโลหิตถูกสารอันเป็นพิษ อันนี้นึกไม่ออกว่าสารอะไร
- ค่ายา 660บาท (รักษาที่รพ.อะไรล่ะครับ) ผมก็ไม่รู้ว่ายาอะไร ลองเอาซองยามาให้ดูหน่อยสิครับ