ขอแอบอ้างเอาความเห็นที่คิดว่าดีมีประโยชน์มาแปะไว้ ณ ที่นี้ค่ะ
ไม่อยากให้ความเห็นดีๆ ที่มีผู้เพียรพยายามสร้างมันสูญไปเปล่าๆ ปลี้ๆ
อยากให้อ่านด้วยความรู้สึกที่เป็นกลางนะครับ
ถึงผมจะยืนอยู่ฝั่งผู้ผลิตก็จริง แต่ผมก็รักในความเป็นธรรมเหมือนกัน
คือก่อนอื่นเราต้องเข้าใจคำว่า ลิขสิทธิ์ก่อนนะครับ
คือลิขสิทธิ์เป็นของเจ้าของสิทธิ์ครับ
เค้าจะกำหนดยังไงก็ได้ เป็นสิทธิ์ของเค้า แต่ถ้าเราไม่พอใจในเงื่อนไขที่เค้าตั้งไว้
เราก็ไม่ต้องใช้ ไม่ต้องซื้อของเค้า เท่านั้นจบครับ
แต่ไม่ใช่ว่า เราจะใช้ของเค้า แล้วให้เค้าตั้งเงื่อนไขในแบบที่เราพอใจ
พอจะนึกออกมั๊ยครับ คือ สิทธิ์มันเป็นของเค้า เค้าจะให้เราใช้สิทธิ์แค่ไหนก็ได้
เป็นสิทธิ์ของเค้าครับ เช่นเพลงในซีดีของแท้ เค้าระบุว่าใช้เพื่อความบันเทิงในที่พัก
อาศัยเท่านั้น แต่เรานำมาเปิดในสถานบันเทิงเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ อันนี้ผิดครับ
คือไม่ใช่ว่าเราซื้อมาถูกต้อง แล้วจะทำยังไงก็ได้นะครับ
สังเกตุประเด็นดีๆนะครับ เค้าไม่ได้ขายสิทธิ์ขาดให้กับเรา เค้าเพียงขายสิทธิ์ในการใช้ให้เราเฉยๆ
ฉะนั้นเค้าขายสิทธิ์ในการใช้ ว่าเราใช้ได้แค่ไหน เราก็มีสิทธิ์ในการใช้ได้เท่านั้นครับ
ถ้าเราต้องการใช้มากขึ้น ก็ต้องติดต่อเจ้าของสิทธิ์เพื่อจะได้รับสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นครับ
กลับกันในกรณีที่ผมรับจ้างทำฟอนต์ให้กับ บริษัทโฆษณา บริษัทนึง
เค้าจ้างผมทำและผมขายขาดให้กับเค้า
เค้าจะเอาฟอนต์ที่ซื้อมาไปทำอะไรก็ได้ เช่นดัดแปลง แก้ไข ขายต่อ ทำซ้ำ
แจกจ่าย ได้สารพัดครับ เพราะเป็นสิทธิ์ของเค้า เค้าซื้อขาดไปแล้ว
ฉะนั้นการซื้อขาด กับการซื้อสิทธิ์การใช้งาน จึงเป็นคนละกรณีกันครับ
และในกรณีที่เราซื้อฟอนต์มาใช้นั้น เป็นกรณีของการซื้อสิทธิ์การใช้งานครับ
ไม่ได้ซื้อขาดหรือจ้างผลิต เพราะฉะนั้นสิทธิ์ยังอยู่ที่เจ้าของครับ
อีกตัวอย่างนึง ที่เพื่อนสมาชิกยกมา
เรื่องการซื้อรถเก๋งมาใช้ ถูกครับ คือเราซื้อมาแล้วจะทำไงก็ได้ครับเพราะซื้อมาอย่างถูกต้อง
เช่น ซื้อรถเก๋ง แล้วเอามาบรรทุกแบบปิคอัพ สามารถทำได้ เพราะอะไรครับ
ก็เพราะคุณซื้อขาดมาแล้ว แต่ถ้าเกิดปัญหากับรถเช่น ช่วงล่างรับน้ำหนักมากเกินไป
แล้วคุณเข้าศูนย์ให้เค้าเครมช่วงล่างให้ คุณอาจได้รับการปฏิเสธการรับประกันได้
เนื่องจากคุณใช้สินค้าไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ผลิต (ใช้ผิดประเภท)
นึกออกมั๊ยครับ รถใหม่รับประกัน สามปีหรือ หนึ่งแสนโล ก็ไม่ใช่ว่าซื้อแล้วจะทำอะไรก็ได้
เพราะคุณอาจได้รับการปฏิเสธการรับประกันจากผู้ผลิตได้เช่นกันครับ
ด้วยความเคารพนะครับ
ขอบคุณมากครับ
แล้วประเด็นที่ว่า
เจ้าของลิขสิทธิ์ไปตั้งข้อกำหนดในการใช้งานล่ะครับ
(เช่น ซื้อขายกันในราคาเท่านี้ ห้ามเอาไปใช้ในงานโฆษณาทีวี เป็นต้น)
กฎหมายท่านให้ทำได้ไหมครับ

ประเด็นของผมไม่ได้หมายถึงเก็บแพงเกินไป
หรือยังไง ประเด็นของผมคือ คุณจะมาจำกัดการใช้งานฟอนต์
ที่ผมซื้อไปไม่ได้ ถ้าฟอนต์ของคุณคือตัวเดิม ฟีเจอร์เดิมๆ
อย่างผมซื้อรถเก๋งมาคันนึง
ผมจะเอาไปใช้แบบรถเก๋ง
หรือจะเอาไปบรรทุกของแบบรถกระบะก็ได้
ตราบใดที่ผมซื้อมาอย่างถูกต้อง
ไม่ได้ขโมยมา
ผมเชื่อว่ากรณีนี้ ส่วนใหญ่เจ้าของสิทธิ์แพ้ทุกรายครับ
แต่กรณีส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นก็คือ
ไม่ได้เคยซื้อมาก่อนต่างหาก
อยากให้อ่านด้วยความรู้สึกที่เป็นกลางนะครับ
ถึงผมจะยืนอยู่ฝั่งผู้ผลิตก็จริง แต่ผมก็รักในความเป็นธรรมเหมือนกัน
คือก่อนอื่นเราต้องเข้าใจคำว่า ลิขสิทธิ์ก่อนนะครับ
คือลิขสิทธิ์เป็นของเจ้าของสิทธิ์ครับ
เค้าจะกำหนดยังไงก็ได้ เป็นสิทธิ์ของเค้า แต่ถ้าเราไม่พอใจในเงื่อนไขที่เค้าตั้งไว้
เราก็ไม่ต้องใช้ ไม่ต้องซื้อของเค้า เท่านั้นจบครับ
แต่ไม่ใช่ว่า เราจะใช้ของเค้า แล้วให้เค้าตั้งเงื่อนไขในแบบที่เราพอใจ
พอจะนึกออกมั๊ยครับ คือ สิทธิ์มันเป็นของเค้า เค้าจะให้เราใช้สิทธิ์แค่ไหนก็ได้
เป็นสิทธิ์ของเค้าครับ เช่นเพลงในซีดีของแท้ เค้าระบุว่าใช้เพื่อความบันเทิงในที่พัก
อาศัยเท่านั้น แต่เรานำมาเปิดในสถานบันเทิงเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ อันนี้ผิดครับ
คือไม่ใช่ว่าเราซื้อมาถูกต้อง แล้วจะทำยังไงก็ได้นะครับ
สังเกตุประเด็นดีๆนะครับ เค้าไม่ได้ขายสิทธิ์ขาดให้กับเรา เค้าเพียงขายสิทธิ์ในการใช้ให้เราเฉยๆ
ฉะนั้นเค้าขายสิทธิ์ในการใช้ ว่าเราใช้ได้แค่ไหน เราก็มีสิทธิ์ในการใช้ได้เท่านั้นครับ
ถ้าเราต้องการใช้มากขึ้น ก็ต้องติดต่อเจ้าของสิทธิ์เพื่อจะได้รับสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นครับ
กลับกันในกรณีที่ผมรับจ้างทำฟอนต์ให้กับ บริษัทโฆษณา บริษัทนึง
เค้าจ้างผมทำและผมขายขาดให้กับเค้า
เค้าจะเอาฟอนต์ที่ซื้อมาไปทำอะไรก็ได้ เช่นดัดแปลง แก้ไข ขายต่อ ทำซ้ำ
แจกจ่าย ได้สารพัดครับ เพราะเป็นสิทธิ์ของเค้า เค้าซื้อขาดไปแล้ว
ฉะนั้นการซื้อขาด กับการซื้อสิทธิ์การใช้งาน จึงเป็นคนละกรณีกันครับ
และในกรณีที่เราซื้อฟอนต์มาใช้นั้น เป็นกรณีของการซื้อสิทธิ์การใช้งานครับ
ไม่ได้ซื้อขาดหรือจ้างผลิต เพราะฉะนั้นสิทธิ์ยังอยู่ที่เจ้าของครับ
อีกตัวอย่างนึง ที่เพื่อนสมาชิกยกมา
เรื่องการซื้อรถเก๋งมาใช้ ถูกครับ คือเราซื้อมาแล้วจะทำไงก็ได้ครับเพราะซื้อมาอย่างถูกต้อง
เช่น ซื้อรถเก๋ง แล้วเอามาบรรทุกแบบปิคอัพ สามารถทำได้ เพราะอะไรครับ
ก็เพราะคุณซื้อขาดมาแล้ว แต่ถ้าเกิดปัญหากับรถเช่น ช่วงล่างรับน้ำหนักมากเกินไป
แล้วคุณเข้าศูนย์ให้เค้าเครมช่วงล่างให้ คุณอาจได้รับการปฏิเสธการรับประกันได้
เนื่องจากคุณใช้สินค้าไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ผลิต (ใช้ผิดประเภท)
นึกออกมั๊ยครับ รถใหม่รับประกัน สามปีหรือ หนึ่งแสนโล ก็ไม่ใช่ว่าซื้อแล้วจะทำอะไรก็ได้
เพราะคุณอาจได้รับการปฏิเสธการรับประกันจากผู้ผลิตได้เช่นกันครับ
ด้วยความเคารพนะครับ
