รับซื้อคาร์บอนเครดิต ธุรกิจที่มากับโลกร้อนคาร์บอนเครดิต มันคือธุรกิจอะไร ซื้อขายอะไร และมีคนทำธุรกิจนี้ได้จากกระดาษแผ่นเดียวจริงหรือ
หากพอจะจำกันได้ ปัญหาของการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกมาจากประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นส่วนมาก จนต้องมีการทำสัญญาเพื่อที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซลง แต่ในสัญญานั้นก็มีกลไกบางอย่าง เช่น หากว่าท่านไม่สามารถที่จะลดได้ แต่ท่านสามารถทำให้ประเทศอื่นๆ ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก ก็ถือว่าได้เช่นกัน และจากกลไกตรงนี้เอง ที่เป็นการกระตุ้นให้เกิดวงจรธุรกิจวงจรใหม่เกิดขึ้น การซื้อขาย การประหยัดก๊าซเรือนกระจก หรือที่เราเรียกกันว่า กลไกการพัฒนาที่สะอาด (clean development mechanism-CDM) หรือคาร์บอนเครดิตขึ้น
สิ่งที่ตามมาก็คือ จะเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีสะอาดจากประเทศที่ร่ำรวยไปสู่ประเทศที่กำลังพัฒนา และประเทศที่ไม่ได้อยู่ในข่ายตัวการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เมื่อเกิดการซื้อขายเครดิตกันขึ้นก็จะเป็นการกระตุ้นให้บริษัทเหล่านี้กระตือรือร้นที่จะประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย
แม้ว่าระยะหลังจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการนำเอาผลประโยชน์จากเครดิตเหล่านั้นไปใช้สร้างกำไรมหาศาล โดยไม่เกิดผลในการลดปฏิกิริยาเรือนกระจกอย่างแท้จริง และมีผลต่อการซื้อขายในเวลาต่อมา
แต่สำหรับเมืองไทย คาร์บอนเครดิตยังถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจทีเดียว
บริษัท แอดวานซ์ เอนเนอร์ยี่ พลัส จำกัด บริษัทที่ปรึกษาทางด้านการประหยัดพลังงาน ที่เพิ่งจะเกิดมาได้หกเดือนหลังจากกระแสซื้อขายคาร์บอนเครดิตบูมได้สักพัก
โอกาสของบริษัทนี้อยู่ตรงไหน อาณัติ ประภาสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า บริษัททำธุรกิจ 2 ขาใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ 1.ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการประหยัดพลังงานและบริหารกองทุนต่างๆ เช่นเดียวกับที่สถาบันการเงิน ทั่วไปทำ
และ 2.การซื้อขายคาร์บอนเครดิต "กลไกนี้เกิดจากอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ได้มีการอนุมัติการขึ้นทะเบียน 3 โครงการของไทยให้เป็นโครงการกลไกการพัฒนาที่สะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงพิธีสารเกียวโตที่ไทยร่วมลงนามด้วย และไทยเองสามารถที่จะนำเอาวัสดุทางการเกษตรมาผลิตเป็นพลังงานช่วยลดภาวะโลกร้อนได้"
เจ้าตัวเลขของการประหยัดพลังงานนี่เองที่มีการพูดถึงกันอย่างมาก
ยกตัวอย่าง โรงงานแกลบ สนใจในเรื่องของการประหยัดพลังงานและต้องการที่จะขาย "คาร์บอนเครดิต" บริษัทนี้สามารถประหยัดพลังงานได้หลายทาง จากน้ำเสียที่นำมาแปลงเป็นก๊าซนำกลับมาใช้ใหม่ และตัวเลขของการประหยัดพลังงานที่นำไปขายได้อีก
บริษัท แอดวานซ์ เอนเนอร์ยี่ พลัส จำกัด จะเข้าไปให้บริการในหลายกรณี คือ เป็นที่ปรึกษาโครงการ มองหาโอกาส สามารถที่จะแนะนำในเรื่องการลงทุน การใช้เทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน ตลอดจนคำนวณการประหยัดที่จะได้ทั้งหมด แล้วนำไปซื้อขายในตลาด โดยมี 3 ปาร์ตี้ คือ รัฐบาลไทยอนุมัติ ยูเอ็นอนุมัติ และรัฐบาลของฝั่งผู้ซื้ออนุมัติ
บริษัทผู้ซื้อเครดิตนี้ไป จะนำเอาตัวเลขของการประหยัดไปสมทบกับตัวเลขของบริษัทที่มี และสามารถนำไปเป็นตัวเลขการลดการปล่อยของเสียในบริษัทของตนเองได้ แทนที่จะลงทุนเทคโนโลยีให้กับบริษัทซึ่งอาจจะมีมูลค่านับพันล้านบาทแลกกับการซื้อคาร์บอนเครคิต หรือการนำเอาเทคโนโลยีบางส่วนไปลงในประเทศกำลังพัฒนาหรือประเทศที่ไม่จัดอยู่ในข่ายของผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 50 ล้าน 100 ล้าน ถือว่าคุ้มค่ากว่า ผลประโยชน์ของการซื้อขายจึงเกิด ณ จุดนี้เอง
หน้าที่และที่มาของรายได้จึงมีความหลากหลาย เช่น เกิดจากการบริหารโอกาสทั้งทางฝั่งผู้ซื้อและฝั่งผู้ขาย ตั้งแต่มองหาผู้ซื้อ มองหาผู้ขาย เข้าไปเป็นที่ปรึกษา เข้าไปมองหาเทคโนโลยีสะอาด ที่จะมาซัพพอร์ต จากการหาบริษัทมาร่วมลงทุน หรือสั่งซื้อโนว์ฮาว กระทั่งการเจรจาเพื่อที่จะขายเทคโนโลยี ไปยังกลุ่มประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย
แม้ว่าจะมีรายได้มาจากหลายทางก็ตาม แต่ก็มีความเสี่ยงไม่น้อย
ในกรณีของการซื้อขายระยะยาว ความเสี่ยงของฝั่งผู้ซื้อ ก็จะมองว่า ในระยะยาวการซื้อขายสัญญานับสิบปี แต่พิธีสารโตเกียวมีผลแค่ปี 2012 ต่อไปกลไกคาร์บอนเครดิตจะเวิร์กหรือไม่ ส่วนในฝั่งผู้ขายก็มองว่าถ้าลงทุนเทคโนโลยีต่างๆ ไปแล้วจะคุ้มหรือเปล่า จากนั้นความเสี่ยงตรงที่รัฐบาลไทยจะเป็นอย่างไร เพราะการอนุมัติส่วนหนึ่งต้องมาจากรัฐบาลไทยด้วย แม้ฝั่งผู้ซื้อมีตลาดใหญ่มากแต่ขายผู้ขายเป็นเอสเอ็มอีมีโอกาสเจ๊งได้ตลอดเวลาถ้ากลไกรัฐมีความไม่แน่นอน บริษัทเองจึงต้องประเมินดูทิศทางของรัฐบาลตลอดเวลา
ณ ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าจากเวิรลด์แบงก์ ลูกค้าในธุรกิจด้านอาหาร การเกษตร ซึ่งเป็นธุรกิจสำคัญ เป็นที่คาดการณ์ว่าภายในครึ่งปีหน้าจากโปรเจ็กต์ต่างๆ นี้ จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทเลยทีเดียว และมีโอกาสที่รายได้จะโตแบบทวีคูณด้วย
อาณัติกล่าวว่า โปรดักต์ "คาร์บอนเครดิต" ของบริษัทยังอยู่ได้อีก 10 ปี แต่ถึงตอนนั้นบริษัทเองก็เตรียมมองหานวัตกรรมอื่นๆ ด้านพลังงานที่สามารถจะทำเงินได้ต่อไป
ธุรกิจนี้ยังใหม่ในบ้านเรา แต่ก็ต้องใช้ทั้งคอนเน็กชั่น ความชำนาญ และมืออาชีพพอสมควร ที่สำคัญโอกาสจากอากาศของธุรกิจนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
ประชาชาติธุรกิจ