หน้า: [1]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: อยากรู้ความหมายของคำพวกนี้อะฮะ  (อ่าน 8382 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
อยากรู้ความหมายของคำพวกนี้อะฮะ Letter / letterform / Lettering แตกต่างกันอย่างไง . . . . กำลังงงครับ

Letter แปลว่า ตัวอักษร
letterform น่าจะแปลว่า รูปแบบตัวอักษร
Lettering ทำไมแปลว่า การออกแบบตัวอักษรที่ไม่จำเป็นต้องครบชุด

เผอิญไปดูหนังสือต่างประเทศ แล้วไม่เจอคำว่า Lettering เลยครับ

เอามาจาก http://f0nt.com/forum/index.php/topic,5745.0.html อะฮะ
บันทึกการเข้า
ถามมาเป็นภาษาอังกฤษ ไอ้เราจะตอบแปลเป็นไทยก็ใช่ที่
ขอแนะนำพจนานุกรมที่แปลความให้เสร็จสรรพเลยดีกว่าครับ

Letter - http://en.wiktionary.org/wiki/letter
แปลว่าตัวอักษร อันนี้ถูก

Lettering - http://en.wikipedia.org/wiki/Lettering
ดังนั้น Lettering จึงไม่น่าจะแปลความตามที่คุณเข้าใจ (หรือคุณวาฬเขียนไว้ไม่ละเอียดพอก็ไม่รู้)
เอาเป็นว่าถ้าเป็นความหมายแบบเฉพาะทาง Lettering ก็น่าจะแปลว่า ชุดตัวอักษรที่ออกแบบมาแสดง
โดยไม่จำเป็นต้องนั่งประดิษฐ์ ก-ฮ ให้ครบชุด (เหมือนกับฟอนต์) เช่น โลโก้หนัง โลโก้ธนาคาร อะไรงี้เป็นต้นครับ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกเปล่านะครับ

Lettering คือภาพของอักษร โดยอาจจะเป็นฟอนต์ที่มีอยู่จริง หรือไม่มีจริงก็ได้

เช่นเอาภาพของฟอนต์ cordia upc ทุกตัวอักขระ ก-ฮ , a-z มาแปะ
นั่นก็เรียกว่า lettering เพราะว่ามันเป็นภาพ ไม่ได้เป็นไฟล์ .ttf .otf ฯลฯ นั่นจึงเรียกว่าฟอนต์

หรือนั่งทำตัวอักษร ไป 5 ตัว แล้วเอามาทำเป็นภาพโชว์ให้ดู นั่นก็เรียกว่า lettering

หรือไปเจอข้อความบนผนังตึก แล้วถ่ายรูปเอาภาพนั้นมา นั่นก็เรียกว่า lettering


แต่ตรงกันข้าม

มีฟอนต์อยู่ตัวนึง ทำเสร็จไปแค่ ก ไก่ตัวเดียว แล้วเอาไฟล์ของฟอนต์นั้นมาให้คนโหลด
นั่นผมว่าเขาเรียกก็ว่าฟอนต์แล้วนะ

ไม่งั้นคนที่ทำฟอนต์ไม่ครบทุกตัวอักขระในโลก อย่างตัวโรมัน ภาษาฮิบรู ภาษาลาว ภาษาเขมร

ก็ไม่เรียกว่าฟอนต์สิ

หรือไม่ใช่หว่า


แต่จะเรียกยังไงก็ช้างเท้อะ เราจะใช้ศัพท์สูงให้เข้าใจยากๆกันทำไม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 มิ.ย. 2006, 23:20 น. โดย xxxxx » บันทึกการเข้า
เออ เอ็งเข้าใจถูกแล้ว
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ใช่แล้ว ห้าโอพูดถูก การทำฟอนต์ไม่จำเป็นต้องทำครบทุกอักขระภาษา
ที่มีในโลก ทำแค่ภาษาใด ภาษาหนึ่ง หรือหลายภาษา แล้วสามารถ
นำมาเรียงพิมพ์ได้ด้วยวิธีการใด วิธีการหนึ่ง นั่นหละจะถูกเรียกว่าฟอนต์
เพราะคำว่า "ฟอนต์" รากเดิมมาจากคำว่า "ฟาวนด์" ที่แปลว่าตัวหล่อ (ตัวตะกั่ว) นั่นเองจ๊ะ ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า
เอ่อ..ลืมไป แต่ถ้าทำ ก.ไก่ ตัวเดียว แล้วเจนเป็นฟอนต์ไฟล์
แล้วจะเรียกสิ่งๆนั้นว่า ฟอนต์ อันนี้ก็จายังไงยังไงอยู่นา โห
แต่ถ้าเรียกว่าฟอนต์ไฟล์หละก็ได้ แต่อาจจะยังไมน่าเรียกว่าฟอนต์
เนื่องจากเหตุผลข้างบน เพราะมันยังเรียงพิมพ์ไม่ได้ ปลื้ม

แล้วจะมีตาบ้าที่ไหนทำ ก.ไก่ตัวเดียวแล้วเจนเป็นฟอนต์ ก็ปล่อยมันไปเฮอะ โวย
บันทึกการเข้า
ส่วนคำว่า "เลตเตอร์ลิ่ง" นั้น ถ้าแปลกันตรงๆตามพจนานุกรม
ก็คือ ตัวอักษร ตัวอะไรก็ช่างวางเป็นประโยค
จะสั้นหรือยาวก็ได้ เช่นตัวอักษรที่อยู่ตามป้ายต่างๆ เป็นต้น

แต่นั่นจะไม่ใช่ความหมายในเชิงศิลปะ หรือของนักออกแบบ
ความหมายในเชิงของนักออกแบบคือ การนำอักขระภาษาใดภาษาหนึ่ง
หรือหลายภาษา มาจัดองค์ประกอบ ด้วยรูปลักษณ์ สี การจัดวาง ฯ
นั่นหละ จึงจะเรียกว่า เลตเตอร์ลิ่งในความหมายของนักออกแบบ
โดยจะนำฟอนต์ที่มีอยู่แล้ว หรือวาดขึ้นใหม่ก็ได้

แต่ถ้าเป็นการนำฟอนต์ที่มีอยู่แล้ว มาพิมพ์ๆอะไรก็ได้
แล้วถามนักออกแบบว่านี่คือเล็ตเตอร์ริ่งใช่มั๊ย?
นักออกแบบจะบอกว่าไม่ใช่ ยิ้มน่ารัก ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า
3 ปั่น  โวย
บันทึกการเข้า
ขอตอบตามกรอบการสอนที่ผมวางไว้นะครับ อาจไม่เหมือน
กับอาจารย์ท่านอื่นแต่ก็ลองๆอ่านดูครับ

LETTERING
คือ การอันใดก็ตาม ที่เกี่ยวกับตัวอักษร จะมากบ้างน้อยบ้าง
มันก็คือหนึ่งใน lettering คือ -อันเกี่ยวข้องด้วยตัวอักษร-
 แต่
จะพบบ่อยมากในการใช้เรียกเพื่องานออกแบบตัวอักษร(ที่ไม่ต้องเป็นFont)
เช่นในชื่อวิชา Lettering and Typography I และ II
ผู้ลงเรียนวิชานี้จะสัมผัสและทำความรู้จักตัวอักษร(Letter) ผ่านการฝึกฝน
ถ้าให้คัดลอกตัวอักษร (รวมทั้งการสะสมด้วยการถ่ายรูป/วาด/เก็บ)ก็เป็นการ Research
หลังจากResearchพอมีข้อมูลแล้ว ก็ทดลองคิดเองทำเอง เรียกว่า Design
เรียกให้ละเอียดขึ้นก็คือ Letering Design ซึ่งบางครั้งกำหนดให้ ทำทุกตัวอักษร
ทั้งไทยและอังกฤษ บางครั้งให้ทำแค่ไทยหรืออังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง
และบางครั้งก็อุตริสร้างชุดตัวอักษรขึ้นมาใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในโลกนี้
แต่ต้องมีที่มาที่ไป อธิบายได้ มีระบบ(Systemของความสัมพันธ์กันในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง
เช่นเรื่องของเสียง หรือ เรื่องของรูปลักษณะ หรือถ้าเก่งมาก ก็สอดคล้องกันทั้งระบบเสียง
และระบบรูปลักษณ์)...นั่นคือการเรียนและศึกษา Lettering แบบเมามันส์ตอนต้นถึงกลางเทอม
ส่วน Typography I (หนึ่ง) ก็คือช่วงปลายๆเทอมจะเริ่มลองให้เอาตัวอักษรมาจัดวาง
องค์ประกอบศิลป์ ด้วยการเลือกชนิดของตัวอักษรมาลอง Composition ตามเนื้อหาสมมุติ
เช่นเรื่องไสยศาสตร์ ต้องจัดวางอย่างไร เรื่องเซ็กศืจะจัดวางอย่างไร เรื่องผิดกฎหมาย
เรื่องไร้สาระจะจัดวางอย่างไร? ฯลฯ จะมีภาพ มีเส้นสายลายกราฟิก ประกอบด้วยก็ได้ นี่คือ
การเรียนและฝึก Typography ตัวที่1
......
Letterform  คือรูปร่างของตัวอักษรที่ประกอบกันขึ้นมาให้เป็นตัวอักษร ยกตัวอย่างง่ายๆที่เห็นกัน
เช่น มันเป็นรูปตัวอักษรได้ก็จากเส้นตรง/ตั้ง/นอน/โค้ง ที่ช่วยกันformขึ้นเป็นรูป จากการต่อกัน
ให้เราเห็นเป็น 2 มิติ ที่นี้แบบ 3 มิต้ ก็มี อาจซับซ้อนหรือไม่ซับซ้อนก็ได้ เช่น ถ้าไม่ซับซ้อน
ก็ให้นึกถึงตัวอักษรที่หล่อด้วยปูน/ปั้นด้วยดิน/ฯลฯ คือมี กXยXส คือ 3 มิติไม่ซับซ้อน
แบบที่ซับซ้อน ก็เช่น ในโฆษณา สถาบันการเงินแห่งนึ่งที่ให้ศิลปินท่านหนึ่งทำประติมากรรม
เป็นตัวอักษรโรมัน Y E S วางที่หาดทราย มองมุมซ้ายจัดหรือขวาจัดก็ยังดูไม่ออกนัก
ต้องมองมุมที่ออกแบบไว้เท่านั้นที่จะชัดที่สุด เพราะมีมิติที่หลอกเรื่องความลึกเอาไว้(งงมั้ย)
และยังมีที่ซับซัอนไปอีก เป็นศิลปินญี่ปุ่น มองด้านซ้ายเป็นอักษรตัวหนึ่ง แต่มองด้านขวากลับเป็นอีกตัวหนึ่ง คือมีสองตัวอยู่ในตัวเดียวกัน

 เราจะ form ตัวอักษรได้อย่างไร?
ใช้อะไรดี? วัสดุอะไร? แข็ง-นิ่ม-เหลว- แบนราบ-นูน-ฯลฯ
เหล่านี้คือสิ่งท้าทายความคิดให้เกิดการออกแบบ
.......
Letter คือตัวอักษรเดี่ยว
.......
คือคำบางคำถูกเรียกจากการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยบ่อยบ้างไม่บ่อยบ้าง
บางคำจึงมีความหมายอีกแบบในอีกที่ที่มีการใช้งานต่างออกไป
สิ่งที่สำคัญคือให้รู้และเก็บข้อมูลไว้ อย่าเชื่อข้อมูลใดข้อมูลหนึ่ง
จนกว่าเราจะเข้าไปสัมผัสกับมัน เจอกับมันแล้วจะเข้าใจมัน
ผมตอบจากการเข้าไปสัมผัสกับการเรียนการสอน และ การอาชีพ ก็ได้นิยามออกมาเช่นนี้
ผู้รู้ท่านอื่น เสริมได้นะครับ จะได้ช่วยกัน ตรวจทานความถูกต้องไปในตัว
สวัสดี

โรจ สยามรวย
บันทึกการเข้า
ขอบคุณครับ
ชัดเจนมากๆ



(ผมชอบนั่งหลับเวลาเลคเชอร์ซะด้วยสิ)
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ

Lettering & Typography เคยเรียนด้วย
เรียนกะอาจารย์โรจน์ด้วยแน่ะ

แต่เป็นคนขี้เกรงใจ
ตอนนี้ผมเลยคืนอาจารย์ไปหมดแล้ว   ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
หน้า: [1]
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!