ผมสบายครับ ไม่มีทั้งบ้าน ไม่มีทั้งรถ ที่ต้องไปผ่อนเอง (อาศัยบ้านราชการ และเกาะมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปตามเรื่อง)
เนื่องจากทำงานมาประมาณปีเศษ เดือนที่มีก็พอประมาณ ก็เลยเก็บได้เกินแสน ซึ่งที่จริงต้องเก็บได้มากกว่านี้ แต่บางทีก็มีเรื่องที่เป็นเรื่องฉุกเฉิน(ของคนอื่น) ที่ต้องมาหยิบยืมเป็นบางครั้ง
วิธีเก็บเงินของผม สงสัยจะลอกแบบมาจากอัสนีวสันต์ เพราะใช้เงินแบบเต็มที่กับชีวิต

เพราะว่าสมัยเรียนไม่ค่อยมีเงินใช้ อยากได้อะไรก็ไม่ได้ ของบางอย่างทนมองทุกวันทุกวัน กว่าจะเก็บค่าขนมไปซื้อได้ก็เป็นเดือนๆปีๆ พอมาเดี๋ยวนี้ก็เลยซื้อทุกอย่างเต็มที่ ได้แก่ หนังสือการแพทย์ จักรยาน กระดาษรีม ดินสอสี ผลไม้ที่อยากกิน และปากกา... หมดแล้ว เต็มที่กับชีวิตแล้วนะนี่
เงินที่เหลือเก็บแต่ละเดือน ก็เอามาเก็บไว้ที่ตัวและตามตู้ประมาณ5พัน เบิกมาใช้เดือนละครั้ง
ถ้าจะให้ใครยืม ก็กำหนดไว้ว่า ถ้าเขายืมมา ก็ไม่ได้ให้ทันที จะทำเป็นขอคิดดูก่อน แล้วก็ค่อยให้ยืมสัก60%-70%
จำเป็นบทเรียนมาจากญาติใกล้ชิด ว่าถ้าให้ยืมง่ายเกินไป เขาจะไม่ค่อยเอามาคืนเราเป็นคนแรก แต่จะไปคืนกับเจ้าหนี้โหดๆก่อน แล้วในที่สุดมักเป็นหนี้สูญ
หนี้สูญในกรณีดังกล่าวที่ผ่านมา บางครั้งปรากฎว่า ฝ่ายเราที่เป็นเจ้าหนี้ กลับกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาของลูกหนี (งก เคี่ยว ยืมอีกหน่อยก็ไม่ได้)
อย่ามายืมเงินผมนะครับ

้