โดยแม่ถามและตอกย้ำเรื่องเงินที่ให้คนอื่นยืมประจำ
แต่ก็บอกว่าเขาทยอยคืนมาให้แล้ว
เป็นเหมือนกันค่ะเข็ดแล้ว เราอุตส่าห์หวังดี เห็นว่าเดือดร้อน ก็อยากช่วยเหลือ
แต่พอเราเดือนร้อนบ้าง กลับไม่ช่วยอะไรเราเลย
เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใครจากกรณีที่เพื่อนพี่เอ้ยืมเงินพี่เอ้ แสดงให้เห็นแล้วว่าเราควรมีเงินออมบางส่วน เผื่อเดือดร้อนจะได้ไม่ไปรบกวนคนอื่น (จริงมั้ยคะ)
สำหรับจขกท.ปาล์มเข้าใจนะว่ารู้สึกอย่างไร เงินเก็บเราแท้ๆ และก็ความใฝ่ฝันของเราด้วย แค่อยากทำตามฝันแค่อยากเรียน ไม่ได้รบกวนทางบ้านเลยซักนิด...........ทั้งนี้ปาล์มสนับสนุนให้ทำตามฝันค่ะ ถ้าสิ่งที่จะทำนั้นไม่ไปเดือดร้อนใคร
แต่ทีนี้ก็อยากเสนออีกแง่มุมนึงอยากให้มอง
เป้าหมายชีวิต ปาล์มมีเป้าหมายชีวิตว่าจะโตด้วยลำแข้งตัวเอง จะรบกวนพ่อแม่ให้น้อยที่สุด จะให้ท่านหยุดทำงานเพื่อพักผ่อนให้เร็วที่สุด อยากดูแลท่านให้ดีที่สุด
ดังนั้นตอนนี้ปาล์มพยายามเก็บเงินค่ะ (ได้ค่าขนม1หมื่น พยายามเก็บให้ได้3-5พันต่อเดือน) เพราะคิดว่าเราโตแล้วไม่ควรรบกวนทางบ้านมากนัก(ไม่มีงานทำก็ยังต้องรบกวนอยู่ดี) ที่สำคัญเรียนใกล้จบแล้ว อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่รู้(จะแบมือขอตังค์ก็ละอายใจ) อย่างน้อยควรมีเงินเก็บไว้เลี้ยงตัวเองซักระยะ ให้อุ่นใจว่าเผื่อตกงานหางานทำไม่ได้ไม่มีที่ไปก็ยังพอมีเงินไว้ต่อชีวิตยืดลมหายใจไปซักพัก
ความฝันและความอยาก ปาล์มก็มีนะ แถมมีเยอะซะด้วย

อยากได้กล้อง(ตัวเก่าเจ๊งไปแล้ว) อยากได้คอมดีๆซักตัวไว้เรียนกราฟฟิกดีไซน์ (คอมที่ใช้อยู่ทุกวันนี้เป็นของแฟนพี่สาวค่ะ) อยากเรียนนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด ทั้งนี้จำนวนเงินเก็บที่มีสามารถซื้อของสนองตอบตัณหาความอยากได้ค่ะ แต่ปาล์มไม่ซื้อและไม่ลงเรียน เพราะมองว่ามันไม่จำเป็นค่ะ ไว้เรามีเงินมากกว่านี้ค่อยซื้อก็ยังไม่สาย ไว้เราพร้อมกว่านี้ค่อยลงเรียนก็ยังไม่สาย(+ความรู้ไม่ได้จำกัดอยู่ในห้องเรียนหรือตำราเรียน)
ปล. เหมือนจะนอกประเด็นไปหน่อย ไม่ว่ากันนะอู๋

......ถ้าปาล์มเป็นอู๋ ปาล์มจะลองคำนวนดีๆว่า เงินที่เรามีพอที่จะไปซื้อกีตาร์ทำตามฝัน แล้วก็ช่วยทางบ้านผ่อนค่าบ้านได้รึป่าว (คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหามากนะแบ่งเงินก้อนเดียวมาซื้อกีตาร์ ส่วนผ่อนบ้านน่าจะเจียดมาจากเงินเดือนประจำแต่ละเดือน) ...สู้ๆ ละกัน
