เรื่องความอยู่รอดจนทำให้ต้องหางานทำงานบางอย่างนี่ เข้าใจครับ
ข้อสำคัญคือ เมื่อถึงจุดที่เอาตัวรอดได้แล้วเราต้องคิดเอาเองว่าเราจะออกจากธุรกิจนี้หรือไม่
ผมทำงานเรื่องการรักษา ... ส่วนหน้าโรงพยาบาลก็มีเหล้าขาย มันสับสนสับดนสิ้นดี
เวลามีเคสคนไข้ที่เจ็บป่วยอันเกิดจากเหล้ามา แทบทุกคนก็บอกว่าจำเป็น เลือกไม่ได้ เลือกเกิดไม่ได้
เมื่อปี 2549 มีผู้ป่วยดื่มเหล้าแล้วอ้วกเป็นเลือดมา เป็นตับแข็งไปแล้ว
ผมบอกให้เลิกเหล้า เค้าก็บอกว่าเลิกไม่ได้ เพราะถ้าไม่กินจะเครียดมาก
ผมบอกว่าถ้าไม่เลิกเหล้า โอกาสที่เขาจะตายจากเลือดออกซ้ำก็สูงมาก เขาก็ไม่ยอมเลิก
ผมบอกว่าจะให้ยาช่วยให้เลิกเหล้าได้ เค้าและสามีก็ไม่เอา บอกว่าเคยได้ยินเค้าเล่าว่า ว่ากินแล้วจะตาย
ผมบอกว่าเรื่องเครียด จะให้ปรึกษากับแผนกให้คำปรึกษา เขาก็ไม่เอา บอกว่ากลัวคนหาว่าเป็นโรคจิต
ผมก็เลยบอกไปว่า ถ้าไม่งั้นก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมาคือ อาจจะเกิดเลือดออกจนตายอีก ...
ผู้ป่วยไม่ยอม ญาติผู้ป่วยก็โมโห
ยืนกรานว่า จะทำยังไงก็ได้
ไม่ต้องเลิกเหล้า
ห้ามให้ยา
ห้ามส่งไปปรึกษาคลายเครียด
แต่ต้องหาย
....
ในมุมมองของเขา ผู้ป่วยคนนี้เค้าก็เลือกไม่ได้ ชีวิตช่างโหดร้ายเหลือเกิน
ในมุมมองของผม ผู้ป่วยรายนี้มีทางเลือกเพียบ แต่เค้าไม่ยอมเลือกเอง
ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่เขาจะเลือกได้ ... แต่คิดว่าเขาคงหมดเวลาเลือกไปแล้ว
....
อีกอย่าง เรื่องกฎหมายห้ามดื่มสุรา ผมว่ายังไม่ประกาศใช้นะครับ ... แถวนี้เด็กที่ดื่มเหล้าอายุต่ำกว่า 18 มีเยอะแยะเต็มไปหมด