หน้า: 1 ... 9 10 11 12 13 14 15 [16]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: สำหรับอายุ 15 ขึ้นไปเท่านั้น  (อ่าน 72086 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
รู้สึกว่าตอนอายุ 15 เริ่มเรียนการใช้คอมพิวเตอร์ ตื่นเต้นมาก ที่โรงเรียน ห้องคอมพิวเตอร์
เครื่องน้อยกว่าจำนวนนักเรียน ต้องเรียนสองคน ต่อคอม 2 เครื่องค่ะ
สมัยโน่น ยังเล่น เรียนไปวันๆ กะเพื่อนๆอยู่เลย แถมไม่ขยันเรียนอีกตะหาก
มารู้ตัวเมื่อตอนแก่นี่แหละว่าน่าจะตั้งใจเรียน สายไปซะแล้วววว หน้ามึน
บันทึกการเข้า

The Show Must Go On
จะเกิดอะไรขึ้น ยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อ
เฮ้ย....นึกขึ้นได้ว่าที่บ้านยังมีเครื่องรุ่นพระเจ้าเหา ที่มีเครื่องอ่าน Drive B: กะ แผ่น Drive B: Foppy รุ่นจานล่อน
บันทึกการเข้า

"...ถ้าสายตาเราชินกับในที่มืดแล้ว คงยากที่จะเพ่งมองโลกภายนอกได้..."
จำความได้ - 6ขวบ  วิ่งเล่น แกล้งชาวบ้าน เอาปลาทองหางนกยูงที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ออกมาผ่าดู จับลูกอ๊อดเอาไม้ขีดจุด จี้ท้องดูเครื่องไนสดๆ
เด็กคนไหนดูเซื่องๆ หาเรื่องแกล้ง ถอดกางเกง แอบตบกระบาล จุดประทัดใส่กางเกงมัน อารมณ์เสียเตะแล้วเดินเฉย เด็กผู้หญิงเคยแค่แลบลิ้นโชว์เจี้ยวให้ดูแล้ววิ่งหนี
เล่นเอาทรายปาใส่หน้าชาวบ้าน ขโมยขนมต่อหน้าต่อตาแม่ค้าแล้ววิ่งหัวเราะ วีรกรรมประทับใจสุด เตะเข้าหน้าเด็กรวยที่ขี่จักรยานแบบมีล้อฝึก
แย่งจักรยานมาขี่ จะหัดบ้าง สมัยก่อนมีแต่คนบอกว่าโตขึ้นต้องเป็น มหาโจร

6ขวบ - 12ขวบ เข้าโรงเรียน แกล้งเพื่อนจนเรียกแม่มาเตือนหลายครั้ง (ก็มันเซื่องๆ ดูแล้วโตเป็นผู้ใหญ่ชั่วร้ายแน่ๆนี่น่า) หนีโรงเรียนตั้งแต่อ.2
จะออกไปหาแมลงทับ ท้ายซอย และจับมันมาเป็นลูกสมุน(ไม่นานก็ตาย) จนอาจารย์ตามหา แล้วกั้นรั้วโรงเรียนให้สูงกว่าเดิมเป็น3เมตร
ป.1 ดึงกระโปรงอาจารณ์หลุดมากองที่พื้น เพราะ สอนไม่ดี(คอคอดกระ ดันไปอยู่ตรงประจวบตรงที่แคบๆแต่นั้นมันติดพม่าซะใหญ่โต)
แกล้งเพื่อนจนครูเอือม เอาผ้ารัดแขนขา ไว้กับโต๊ะเรียน โดยถ้าไม่แก้แล้วจะให้ขนมตอนกลับบ้าน ป.2ต่อยกับเพื่อนที่มันอ้วน สาเหตุเพราะมันตัวใหญ่ ตัวใหญ่เท่ากับคนไม่ดี จนไอ้อ้วนฟันหัก เป็นเรื่องประจานหน้าเสาธงครั้งแรกในชีวิต (ไม่เรียกผู้ปกครองแล้วไม่มา) เริ่มติดเกมแล้ว
ไปเล่นเกมในตลาดที่ไกลจากบ้านและโรงเรียนมาก ตั้งแก๊งค์ตบน้องแย่งเล่น ตะเวณไปตามย่านนั้น ต่อยกับผู้ใหญ่ครั้งแรก สลบเลือดกลบปาก
นอนลุกไม่ขึ้นไป2-3วัน เพราะแกล้งลูกเค้าหลายครั้ง ถูกตราหน้าว่า เด็กจรจัด

12-15 ขวบ รู้จักกับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น เดินทางเที่ยวกินเล่นกับเค้าอยู่3ปี แต่ก็ไม่ทิ้งโรงเรียนนะ แค่ไม่สนใจการไม่ให้คิดเอง ของทางครูๆปลอมๆ รอเวลากลับบ้านลูกเดียว จะได้ไปหาที่เล่น เริ่มวาดรูป ว่างจากเรียนก็ไปหาที่เล่นต่อยกันเตะกันกระโยงกระเยงไปวันๆ ตามที่ต่างๆ ไม่มีเวลาไปยุ่งกับยาหรือหญิง (เซ็ง)

อ่ะ จบ 15 แระ  ฮิ้ววว

ก็เรื่อยเปื่อยแบบนั้นมาเรื่อยจนเรียนจบ คิดแล้วก็นะ เด็กๆนี่ ตรูเด็กๆจริงๆ รู้สึกผิดแต่ก็ไม่เกลียดตัวเองเลย ที่ผ่านไปแล้วถูกต้องเสมอ
วีรกรรมมากมายจริงๆพ่อคนนี้ อ่านไปก็สนุกดี ยังแอบนึกเสียดายตัวเองว่าตอนเด็กๆทำไมไม่เคยมีวีรกรรมซนๆแบบเด็กผู้ชายทั่วไปบ้าง โตขึ้นมาแล้วก็นึกเสียดาย   ลันล้า
บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น
อ่านคำตอบตัวเองหน้านู้น(สามปีก่อนนู้น)
เหมือนจะตอบไม่เป็นเรื่องเป็นราวเท่าไร
เอาใหม่ๆ

ตอนเด็กๆประถม ชอบวาดรูป ชอบอ่านหนังสือ
ตั้งแต่ภาพความจำแรกๆของชีวิต ก็จำได้ว่าวาดรูปมาตลอด
ผู้ใหญ่ชมและพ่อแม่สนับสนุนมาตลอด จนทำอย่างอื่นไม่เป็น กร๊าก

มันเริ่มจริงจังขึ้นตอนที่ประเทศไทยเราเริ่มมีการ์ตูนเป็นของตัวเอง
หนังสือลายเส้น ของใครหว่า ที่ทำการ์ตูนซีโร่น่ะ
ต้องแก่มากๆนะครับถึงจะจำได้ เพราะตอนนั้นผมก็ป.3-ป.4 เอง
และถัดจากนั้น ก็มีหนังสือไทคอมิก ของวิบูลย์กิจ
ก็ฝากพี่เข้าไปซื้อในอำเภอเมืองเอา พออ่านแล้วก็เริ่มวาดเป็นเรื่องบ้าง
แต่ก็เท่านั้นแหละ ตอนป.5-ป.6 เลยเก็บตังที่มากที่สุดในชีวิต
220 บาท สมัครสมาชิก จะได้ไม่ต้องฝากใครเข้าเมืองไปซื้ออีก

ตอนนี้คงนึกไม่ออกใช่ไหมครับ ว่าการมีการ์ตูนที่คนไทยวาด
มันแปลกประหลาดตรงไหน บอกเลยมันประหลาดมากครับ
ตอนแรกผมรู้สึกแอบตลก ที่ตัวการ์ตูนในเรื่องมีชื่อว่าสมศักดิ์
ต่าย โต้ง ชื่อคนไทยน่ะ มันตลกมากครับที่มันไม่ใช่ชื่อญี่ปุ่น
ออกแนวรู้สึกเด๋อๆแทนน่ะ ให้ตายสิ บางคนที่วาดก็ยังให้ตัวละครชื่อญี่ปุ่นอยู่เลย
เขาบอกว่ารู้สึกมันไม่เข้าถ้าชื่อไทย บก.วุฒิต้องรณรงค์ให้วาด
ให้ตัวละครเป็นคนไทย โรงเรียนแบบในไทย และอะไรอีกหลายอย่าง
คิดว่าสองสามปีเหมือนกัน กว่ามันจะดูไม่เด๋อ กว่าทุกคนจะชิน


เรื่องการอ่าน ตอนป.4 จำได้ว่าบอกให้แม่ยืมหนังสือ
สงครามโลกครั้งที่สองมาให้อ่านตอนปิดเทอม
แล้วก็อ่านอะไรทำนองนั้นมาเรื่อยๆ ที่ชอบที่สุดอ่านตอนป.6
หนังสือศาสนาเปรียบเทียบ อ่านสนุกมากๆ ยังจำเนื้อหาได้จนทุกวันนี้

สอบเข้า ม.1 โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช โรงเรียนประจำจังหวัดได้
เลยมาอยู่ในเมือง เริ่มต้นชีวิตการฟัง ซื้อเทปม้วนแรก
Metallica อัลบั้ม Load แล้วก็วาดการ์ตูนเรื่องส่งไทคอมิก
วาดทุกวัน นึกไม่ออกว่าหยุดวาดบ้างไหม เหมือนๆจะไม่เคย
แล้วก็ไปทำงานห้องสมุด จะได้ยืมหนังสือง่ายๆ ตกเย็นเตะบอล
หรือไปซ้อมดนตรีกับแก็งเกรียนๆ วัยรุ่นไม่ว่าสมัยไหนพออยู่รวมกลุ่ม
ก็มักจะทำตัวเกรียนๆกัน คิดว่าตัวเองเป็นงั้นเหมือนกันแหละ กร๊าก
คือว่าก็เหมือนๆวัยรุ่นธรรมดาทั่วไปนี่แหะครับ เตะบอล เล่นดนตรี แต่งเพลง
แอบชอบหญิง มีเรื่องต่อยตีกันนิดหน่อย ตั้งแก๊งเที่ยวเล่นเกรียนๆกัน
สรุปว่าสนุกสนานสมวัยครับ เดี๋ยวจะว่าเอาแต่วาดรูปอ่านหนังสือ
อยู่ในโลกส่วนตัว โลกส่วนตัวก็มี แต่โลกส่วนรวมก็มาก
และก็เป็นคนชอบอยู่กับเพื่อนอีกต่างหาก
(หลังๆยิ่งเยอะใหญ่ เยอะจนเพลีย ฮือๆ~)


ช่วงชีวิตมัธยมเนี่ย เงินทั้งหมดที่มีก็หมดไปกับการซื้อเทป
ตอนนั้นกระแสบริตป็อปกำลังดัง แต่การที่เด็กอย่างผม
ที่ได้ตังค์อาทิตย์ละสองร้อยบาท จะไปซื้อเทปเพลงสากล
ม้วนละ 95 บาทนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้การตัดสินใจที่ถี่ถ้วน
จึงต้องมีการศึกษา ก็มีแหล่งเดียวคือนิตยสารดนตรี
(ตอนนั้นอินเตอร์เน็ตมีแต่ไอซีคิว) มีมิวสิคเอ็กซเพรส ครอสโรดส์
บันเทิงคดีของมาโนช พุฒตาล หลงไหลหนังสือ
Generation Terrorists มากๆ วันๆถ้ากลับบ้าน
ก็จะหมกตัววาดรูป อ่านนิตยสารพวกนั้น แล้วก็กางปกเทป
ร้องเพลงตามม้วนเทปที่หมุนติ้วๆอยู่ในเครื่องเล่น


ไอ้หนังสือ Generation Terrorists เนี่ยกราฟิกมันเท่
แหกกฏความเป็นหนังสือมาก ทุกวันนี้ผมก็ยังรู้สึกว่า
ยังไม่มีนิตยสารอะไรในไทยทำได้แบบนั้นอีกนะ
แล้วก็พวกปกเทปของ Suede, Manics, Radiohead ฯลฯ
มันเจ๋งมาก กราฟิกติสต์แดกมาก ตอนนั้นก็บังเกิด
ความอยากเป็นนักออกแบบขึ้นมาแล้ว สืบเนื่องมาจาก
คามชอบวาดรูปชอบศิลปะด้วยนั่นแหละ แต่จำเพาะเจาะจงแล้ว
ว่าอะไรในด้านศิลปะที่เราอยากเป็น สุดท้ายอายุ 15-16 นี่แหละ
ก็เขียนลงในสมุดบันทึกว่า "จะเข้ามัณฑนศิลป์"


พอคนเราชอบอะไรมากๆ มันก็ชักจะอยากจะเป็นยังงั้น
ขึ้นมาจริงๆใช่ไหมครับ ไอ้อยากออกแบบพวกนั้นก็อย่างนึงละ
แล้วตอนนั้นฟังพวกวงร็อคอังกฤษมาก
ก็อยากจะเป็น Generation Terrorists ขึ้นมาจริงๆ
(มันคือชื่อเพลงๆนึง)

ที่มันตลกมากคือ อายุที่เพิ่มขึ้นมา ก็ดันไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย กร๊าก
ทุกวันนี้ก็ยังทำตัวแบบนั้น และที่สำคัญ ไอ้ความชื่นชอบอุดมคติดนตรีในวัยนั้น
มันก็พาผมมาที่ประเทศนี้จนได้ในที่สุด ด้วยเหตุผลนี้เลยแหละ

เหมือนจะเป็นความชื่นชอบลมๆแล้งๆของเด็กหัวเกรียนคนนึง
แต่ผมก็ยังจริงจังกับความลมๆแล้งๆนั้น จนถึงทุกวันนี้นะ  (อิอิ)


ถึงอายุ 15 ละ
จบครับ ไหว้

บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM


หลังจากนั้นอีกสิบห้าปีก็ได้ไปอังกฤษใช่มั้ยครับ  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
เป็นคนที่ไม่ทำให้ตัวเองในวัยเด็กต้องร้องไห้จริงๆ  เจ๋ง
บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น
อายุ 15 มาเป็นสาวรำวง ครับ มาใส่กระโปรง วับๆแวมๆ  ลันล้า
บันทึกการเข้า

Everyone have their own misery. So do I
Please don't give me another!!!
อีตอน ม.1 อายุเท่าไรไม่รู้จำไมไ่ด้แล้ว
เล่นเกมส์ไปวันๆ ตอนนั้นเล่นแต่เพลย์1

เพลย์2 ช.ม. มันแพงครับ  ฮือๆ~
555+

หลังๆ Counter Strike มันบูมก็เลยเปลี่ยนมาสัมผัสคอม
หลังจากนั้นได้ปี (ประมาณ ม.2) ก็มาเล่นแรคนรก
แรคนี้แหละครับ เพื่อนในเกมส์สอนให้รู้จัก MSN 555+
(เมื่อก่อนตอน ป.6 รู้จักแต่ Pirch98) หลังจากเล่นแรคแล้ว
ผมก็ได้รับทักษะ ความสามารถในการพิมพ์ติดจรวด (แบบไม่สนแป้นเหย้า 555+)
หลังจากนั้นก็คลุกคลีกับคอมเรื่อยมา ส่วนใหญ่ใช้ในการเล่นเกมส์น่ะ

ปล. ในอดีตที่ผ่านมาจนถึง 15 สำหรับผมคอมพิวเตอร์ใช้แค่ เล่นเกมส์ Only งานให้เพื่อนทำให้หรือไม่ก็ Hand Made เหอๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า

ยุบสกา .. มาเป็น เร็กเก้ เร็กเก้ เร็กเก้ !!!!
หน้า: 1 ... 9 10 11 12 13 14 15 [16]
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!