ขุดครับ
เพิ่งมาอ่าน โมนานะโมนา
อยากบอกว่า วิธีการปฏิบัติตัวกับพระก็ไม่ได้แตกต่างจากเราๆ ครับ
นึกภาพขาจรเข้ามาแตกฟ๐ง ถ้าไม่สนิทกันในตอนแรกๆ ก็ให้สุภาพหน่อย แต่อยู่กันไปนานๆ ก็เล่นกันได้
นินทาพระได้ หยอกล้อได้ แต่ต้องพองาม ไม่ใช่ล้อชื่อพ่อพระบ่อยๆ (หมายความว่าไม่ต้องซีเรียสขนาดเจฟฟรี่)
เห็นว่าเยาวชนยุคนี้ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอยู่กะวัดกะพระเท่าไหร่อาจจะเกร็งเวลาต้องมีปฏิสัมพันธ์กับพระ
เลยอยากให้เข้าใจว่า พระ ก็คือคนที่กำลังอยู่ในเครื่องแบบของอาชีพหนึ่งในสายะรรมะนั่นแลแฮเอยเฮยเทอญ
เรื่องงานบวชที่ทำมาใหญ่ๆ นั้น
คือต้องเข้าใจว่างานบวชมันก็คือการแสดงแสนยานุภาพของเจ้าภาพ ในที่นี้คือพ่อกะแม่ตูเอง
เกิดมา 24 ปีกว่าๆ ไม่เคยเห็นพ่อแม่จัดงานใดๆ เลย (ขนาดลูกเคยเป็นสโมนะเนี่ย)
ดังนั้นการจัดงานครั้งแรกในรอบ 20 กว่าปี พ่อกะแม่เลยบอกว่า เอาให้ใหญ่ครั้งเดียวตายตาหลับไปเลย
นั่นถือเป็นความจำนงของเจ้าภาพงานเองครับ
ซึ่งถ้าจะถามหางานบวชแบบเรียบง่าย ก็ใช่ว่าจะไม่ได้จัด
แต่จัดไปแล้วครั้งนึงตอนพี่ชายคนโตบวช อันนั้นเรียบง่าย
มีแค่ 10-20 โต๊ะ ----- ไง เรียบง่ายสุดๆ ใช่ไหม
ผลคือโดนชาวบ้านแลญาติโยม บ่นกันกระจาย ไม่เชิญตู (หรือไม่เชิญก็มาเอง แต่ไม่มีโต๊ะ)
สังคม ตจว ที่บ้านผมเป็นแบบเครือญาติขนาดใหญ่อยู่ครับ การไม่บอกงานบุญนี่มีเคือง
ดังนั้นครั้งนี้พ่อแม่เลยเชิญทุกคนที่เคยมีบุญคุณกันมาในชีวิตเข้ามารวมกันในงานเดียวเลยครับ
เห็นไหม ขนาดงานบวชงานบุญยังมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องเลย
เดี๋ยวจะมีพี่แอนคนใหม่ ไฉไลกว่าเดิม
ขอโทษ