ทำไมไม่ก็อปเฉพาะข้อความวะ โหลดนานโคตร
การสร้างงานเขียนในโลกอินเทอร์เน็ตนั้นมันมีหลายลักษณะ หลายรูปแบบ มันก็ต้องขึ้นอยู่กับคน
คำว่าเหมาะสมมันก็ขึ้นอยู่กับคนอีกนั่นแหละ
บางคนอาจจะอ่านบล็อกหยาบคาย (เอ่อ...
) ได้
ในขณะที่บางคนอาจจะ อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดบัดสีบัดเถลิง อะำไรก็ว่าไป
ตอนแรกที่เข้ามาวนเวียนในโลกการเขียนไดอารี่ออนไลน์ หรือบล็อกออนไลน์ก็ตามที
มันก็เหมือนกับการเป็นคอลัมนิสต์ย่อยๆ ในเว็บหนึ่ง มึงเอาพื้นที่เท่านี้ๆ ไปนะ แล้วอยากทำอะไรก็ตามใจ
ในขณะเดียวกันสิ่งที่ตามมาหลังจากการคิดจะเขียนอะไรสักอย่างให้คนอ่านนั่นก็คือคำถามที่ว่า
"กูเขียนไปเพื่ออะไร"
ตอบตัวเองได้ยังเร่
ถ้าเอ็งตอบว่า เขียนให้คนมาอ่านเยอะๆ ก็จงไปดูบล็อกหรือไดอารี่ที่มีคนเข้าชมเยอะมากถึงมากที่สุด
ส่วนตัวตูคิดว่าหาดีไม่ค่อยจะเจอสักเท่าไหร่
แต่ถ้าเอ็งเป็นเหมือนกิ๊ง จำนวนคนเข้าชม จำนวนคนโหวต มันก็แค่ตัวเลขนะ
แต่ถ้ามีความสุขที่เห็นมันเพิ่มขึ้นๆ ก็เออ อีกเรื่อง
ไม่แน่นะ คนที่เค้าเข้าบล็อกเองเค้าอาจจะก็อปข้อความไปลงโน้ตแพดแล้วส่งให้คนอื่นแบบที่ตูทำก็ได้
ตอนแรกตูลองเขียนไดอารี่ออนไลน์ดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ทั้งที่ส่วนตัวคิดว่า จะมีสักกี่คนวะที่ชอบอ่านชีวิตชาวบ้านอย่างละเอียดลออ
7 โมงไปขี้ 9 โมงดูดรากอนบอล
แล้วไอ้วัฒนธรรมการคอมเมนต์ "เม้นมาเม้นกลับ" ก็เป็นอะไรที่ซังกะบ๊วยและเสแสร้งมากถึงมากที่สุด
แต่ในความเสแสร้งใช่ว่าจะไม่มีคนดีๆ ก็เจอนะ แต่เป็นส่วนน้อย เป็นความน่าชื่นใจเล็กๆ ในความเซ็งมหาศาล
ทุกครั้งที่ตูเขียนบล็อกออนไลน์ หรือไดอารี่ออนไลน์ ตูไม่ค่อยมีความสุขยังไงไม่รู้
เพราะเราเขียนโดยที่เราคิดว่า เรากำลังเขียนให้คนอื่นอ่าน
มันไม่มีอิสระ ทั้งๆ ที่เป็นของตัวเองแท้ๆ อะไรวะเนี่ย
สุดท้ายเขียนมายสเปซด่าทอตัวเองโชคชะตาฟ้าดินไปเรื่อย
ดีก็ช่าง เหี้ยก็ช่าง ไม่ต้องมีคนอ่าน ตัวเองอ่านเอง สบายใจดี ไม่ต้องมาคาดมาหวังอะไร
ยาวชิบ อาจจะไร้สาระไม่รู้เรื่องหน่อยก็ผ่านๆ ไปเหอะ
โอว..ปั่นกันกระจุย มีคนตัดหน้าตั้ง 5 คนแน่ะ