พูดตามตรงครับ ผมไม่เคยมีประสบการณ์อยากฆ่าตัวตายมาก่อน
จะมีก็แต่คิดเล่นๆเวลาส่งงานอาจารย์ไม่ทันเป็นชุดอะไรประมาณนี้
ผมเคยคิดว่า ชีวิตคนมันมีค่าอะไร
เกิดมาทำไม เกิดมาแล้วได้อะไร
เป็นขยะของจักรวาลและความรับผิดชอบของสังคมเสียเปล่าๆ
คนที่ผมรู้จักคนหนึ่งบอกว่า วัยของผมตอนนี้ เป็นวัยที่มักคิดอย่างนี้เสมอ
เขาคนนั้นบอกว่า ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตเขาก็เคยผ่านเหตุการณ์นี้มาก่อนเช่นกัน
ช่วงที่ผมไม่ได้เล่นเน็ตช่วงแรกๆรู้สึกเศร้าฉิบหายเลยครับ
เหมือนกับว่า เราไม่รู้จะไปคุยกับใครดี
ผมค่อนข้างไม่ชอบพี่ผมอยู่ตะหงิดๆ เพราะมักทำท่าทางเหมือนตัวเองเหนือกว่า นิดหน่อยก็บ่น
เลยตัดสินใจไม่พูดด้วยดีกว่า ถ้าพูดด้วยเดี๋ยวจะอารมณ์เสีย
เมื่อปราศจากการติดต่อจากโลก ไม่ว่าโลกใดก็ตาม
ผมก็รู้สึกเหมือนไม่มีมือมาคอยช่วยดึงผมเอาไว้ ไม่ให้ตกเข้าไปสู่ที่ว่างอันเวิ้งว้างคนเดียว
เหมือนกับเนื้อสารของดวงดาว (เฮ้ย) ที่หลุดออกไปจากวัตถุก้
อนใหญ่นั่นแหละ
ผมว่าสิทธิ์ที่จะตายเป็นของเรา ของเราจริงๆครับ
แต่สิทธิ์นั้น ควรจะผ่านการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน มิใช่การตัดสินใจอย่างฉุกละหุก
บางทีพูดได้ แต่คนพูดยังทำไม่ได้เลย
ผมเชื่อว่าคนเราทุกคนจะได้มีโอกาสประสบปัญหา ปัญหาที่เราคิดว่าใหญ่มากๆ เหมือนคลื่นยักษ์ที่ซัดสาดเข้ามาในชีวิต
แต่ดูเหตุการณ์หลังจากคลื่นยักษ์สิครับ
ถึงจะเกิดความสูญเสียมหาศาล แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้น ก็มหาศาลพอกัน
ผมเชียร์ให้อยู่ต่อครับ
เพราะว่าชีวิตยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ ...
ไม่ใช่ชีวิตที่มีความหมายก็จริง แต่มันก็ดีกว่าเราตายไปเปล่าๆ
ทั้งชีวิตนี้ผมยังไม่ได้จีบผู้หญิงเลย
กำลังรอผู้หญิงมาจีบครับ (เกย์อย่างพี่กัมก็พอรับได้นะครับ)