พ่อผมไม่ได้อยู่สายตุลาการครับ
เป็นสายอื่นที่ดูเหมือนสำคัญแต่ความจริงไม่มีใครให้ความสำคัญ
ถ้าจะเดาก็ จมล. มานะครับ อันนี้เปิดเผยไม่ได้จริงๆเพราะไม่งั้นหากเกิดมีความลับแตกขึ้นมาเนี๊ยะ จะแย่มาก
ส่วนผมเนื่องจากเห็นมานักต่อนักว่ายุคที่ประชาธิปไตยเบ่งบานแบบไม่แท้จริง นักการเมืองมีอำนาจมากกว่าที่ควรจะมี ขนาดชี้เป็นชี้ตายข้าราชการได้ แต่ในใจก็ศรัทธาอาชีพข้าราชการอย่างมาก
ตอนนี้จึงตั้งความหวังไว้ที่ข้าราชการสายตุลาการครับ

หรือไม่แน่ถ้าเราเจอวิชาที่ถนัดมาก เก่งมากขนาดสอนคนอื่นได้ การเป็นนักวิชาการ ทำงานวิจัยกับประชาชนเหมือนกับที่อ.ผมทำอยู่ก็ไม่เลวนัก
สิ่งที่น่าดีใจที่สุดคือคนในพื้นที่ได้ตื่นขึ้นมาอย่างว่าแหละครับ เขารู้แล้วว่าข้าราชการยุคนี้ไม่ใช่นายเขา เขารู้ว่าข้าราชการในพื้นที่ทำงานรับใช้ประชาชน้ จึงไม่ค่อยมีใครเทิดทูนพ่อผมเหมือนเทวดา แต่มองว่าเป็นคนกันเองพบปะพูดคุยปัญหาในส่วนที่พ่อรับผิดชอบได้ ยิ่งพวกส.ส.แล้วในงานนั้นไม่มีชาวบ้านคนไหนเห็นหัวส.ส.เลยครับ ถึงขนาดที่พิธีกรในงานเชิญพ่อผมขึ้นไปพูดแทนที่จะเชิญ ส.ส.ขึ้นไปพูด
ผมว่าการต่อสู้กับระบอบทักษิณนี้ สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากต้องการให้ประชาชนได้มีความรู้ รู้เท่าทันสถานการณ์บ้านเมือง รู้ความจริง รู้เหตุและผล ทั้งยังมีส่วนร่วมกับประชาธิปไตยมากกว่าการหย่อนบัตรเลือกตั้ง ถ้าวิกฤตครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านสักแค่สิบล้านคนเข้าใจตรงนี้มากขึ้น ผมว่าวิกฤตครั้งนี้คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มครับ