หน้า: [1] 2 3
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดโลกการเรียนรู้  (อ่าน 7561 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้

วันไหนมะรู้ จำไม่ได้ อ่านหนังสือพิมพ์ เจอพาดหัวข่าว

ได้ทุเรศเหี้ยๆ " พ่อพิมพ์ของชาติ ตีเด็ก ฯลฯ "

อะไรแนวๆนี้

อยากด่าไอ่คนเขียนสั่วๆมากๆ

และอยากฝากบอกคนที่ได้เข้ามาอ่าน แล้วไม่รู้

คำว่า " พ่อพิมพ์ " จริงๆแล้ว มันไม่ใช่อ่ะ

ครู ถึงจะเป็นผู้ชาย ก็ต้องเรียก " แม่พิมพ์ " แม่พิมพ์ ก็คือ การเป็นแบบไง

เป็นพิมพ์ เป็นบล็อคพิมพ์ เป็นตัวอย่างของเด็ก แม่พิมพ์ของเด็ก

แต่สื่อที่ไม่รู้ ก็เอาไปเขียน เหี้ยๆ ให้คนทั่วประเทศได้อ่าน ได้รับรู้ และเข้าใจผิดอยู่ตลอด

ฉะนั้น ... ได้โปรดเหอะค่ะ มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน

มีเพื่อนบอกเพื่อน มีแฟนบอกแฟน อย่าเอาไปพูดเลย เรียกแม่พิมพ์น่ะ ถูกแล้ว

ครูผู้ชายก็เป็น " แม่พิมพ์ " ค่า มิใช่ " พ่อพิมพ์ " มีด้วยเหรอวะ บล็อคพิมพ์ เรียก พ่อพิมพ์

พ่องตาย สัด ! เขียนแบบไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว อย่าเขียนดีกว่า ( เข้ากับเรื่องภาษา ที่รณรงค์กันป่ะ ? )

ป.ล พี่แอนนี่ กรุณาสาปข้า เป็นกุลี ด้วยค่ะ

เป็นกุลีเท่ห์ดี เอ่อ ... ที่อยากตั้งกระจู๋ ก็มีเรื่องนี้แหละ แม่งโคตรเก็บกด

เอ่อ ... เป็นกุลีต่อ ได้ป่ะ ?

 เกย์ออก
บันทึกการเข้า

... กุคืออึ่งอ่างที่แปลงร่างเป็นคน ...
 กร๊าก เจ๊สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดด
บันทึกการเข้า

ตามหารักแท้ค่ะ โฮกกก
เนี่ยเหรอ สิ่งที่บลิวอยากทำเมื่อวาน

สุดยอด  พยายาม
บันทึกการเข้า
พ่อพิมพ์
ลูกขาย
แม่นับตังค์

 แป่ว
บันทึกการเข้า

Today you , Tomorrow me.
เอ่อ ... ทำไมอ่ะ ?

อยากตั้งกระจู๋ เพราะแบบนี้แหละ เอ่อ ... ไม่ได้เหรอวะ ?

ก็นะ ขี้เกียจไปโพสที่อื่นนี่หว่า โพสที่นี่แหละ

อย่างน้อยก็คงไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาด่ากันชิบหายวายป่วง

เหมือนในเว็ปทั่วๆไป แม่งจะมาด่ากันอย่างเดียว สงสารคนตั้งกระทู้

เลยไม่ไปโพสในนั้นว่ะ

ป.ล แต่ในนี้ใครจะด่าก็ด่าได้นะ รับได้ แต่ระวังโดนกุด่า

กุปากม๋า
บันทึกการเข้า

... กุคืออึ่งอ่างที่แปลงร่างเป็นคน ...
ดีนะน่ะ ไม่งั้นอาจารย์แก่ๆคงโดนเรียก ยายพิมพ์ ตาพิมพฺ์
บันทึกการเข้า
เออ แต่คนเข้าใจผิดเรื่องนี้เยอะมากเลยนะ

บางคน รู้ว่า ต้องเรียก แม่พิมพ์ แต่ก็ไม่เข้าใจว่า

ไอ่แม่พิมพ์ หรือ พ่อพิมพ์ที่เข้าใจผิดๆกันเนี่ย เพราะอะไรถึงเรียกว่า พ่อพิมพ์ไม่ได้

ทั้งๆที่ ก็เป็นผู้ชาย ต้องเป็นพ่อสิ อะไรประมาณนั้น

นี่ หวังว่า คงทำให้คนที่ยังไม่รู้ ได้กระจ่างบ้างแล้วนะ

คิดว่างั้นนะ

ป.ล ถึงกุปากม๋า แต่ก็เหมือนมีสาระแฮะ

เอ๊ะ หรือคิดไปเอง -"-
บันทึกการเข้า

... กุคืออึ่งอ่างที่แปลงร่างเป็นคน ...
 คริคริ
ที่นี่ไม่เห็นจะมีใครด่า
มัวแต่เล่นมุกกันอยู่
บันทึกการเข้า
เออ กุไม่ได้กลัวใครด่ากุเล้ย

แค่ถ้าโพสที่เว็ปอื่น

มันก็ไม่ตั้งใจอ่านกันหรอก

กุก็เห็นแม่ง ทำตัวอยากจะด่าคนนั้นคนนี้ กุเรยรำคาญ ขี้เกียจอ่าน

มันหมดความตั้งใจของคนที่อยากโพสอะไรสาระๆ

ถึงคนโพสจะไร้สาระก็ตาม

ป.ล ย้ำอีกที กุมาโพสที่นี่ ไม่ใช่กลัวคนด่า

-"-
บันทึกการเข้า

... กุคืออึ่งอ่างที่แปลงร่างเป็นคน ...
เคยหงุดหงิดเรื่องนี้เหมือนกัน แต่แล้วก็ปล่อยมันไปกับสายลม ภายในไม่กี่วินาที ไม่ได้เอามาจดจำ

ทำให้คิดขึ้นมาได้ว่า มันมีหนังสือที่ทำข่าวสารพัดข่าวมาแล้ว ทั้งข่าวกีฬา การเมือง ดารา ซุบซิบนินทาขี้หมาแห้งกรัง 

ทำไมมันไม่เห็นมีหนังสือพิมพ์ที่ทำข่าวหนังสือพิมพ์ด้วยกันวะ  อย่างทำข่าวหนังสือพิมพ์หัวเขียวพาดหัวพลาดใช้ศัพท์วิบัติ หรือ ผจก.เลิกเป็นกลางจ้องจวกแม้ว อะไรเทือกๆนี้



ปล. พิมพ์เสร็จก็รู้คำตอบว่า ขีนมีหนังสือพิมพ์ไหนทำข่าวแบบที่ว่ามีหวังโดนวงการหนังสือพิมพ์ด้วยกันอัปเปหิแน่เลย เหลือบ
บันทึกการเข้า

คือก็มีคนพยายามจะรักษาวัฒนธรรมและภาษาไทยเอาไว้ถึงที่สุด
ในขณะที่กระแสหลักมันก็รุนแรงเกินจะรับได้

ก็เลยมีคำถามว่า... ตกลงว่าภาษาไทยเนี่ย... มันควรจะอยู่ในสถานะไหน...
ตอนนี้ประเทศไทยก็กำลังจะโดนทุนต่างชาติยึดครองหมดแล้วครับ...  ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า
ที่ี่นี่เว็บฟ๐นต์นะครับ ลันล้า
บันทึกการเข้า

สะพรึบสะพรั่ง ณหน้าและหลัง ณซ้ายและขวา ละหมู่ละหมวด ก็ตรวจก็ตรา ประมวลกะมา สิมากประมาณ
เรื่องนี้มีประเด็นน่าสนใจ 2 ประเด็น


ประเด็นแรก - เรื่องการพาดหัวข่าว การเลือกนำเสนอข่าว
ก็อย่างที่รู้ๆ ว่าทำอะไรก็ได้ที่ขายได้ไว้ก่อน เขียนแรงๆ หรือหวามๆ เข้าไว้
แค่นี้คนอ่านก็เลือกที่จะซื้อ เลือกที่จะอ่านแล้ว
แล้วก็มีข้ออ้างว่า "เอ้า ก็ตลาดมันต้องการนี่ เราก็เลยต้องทำออกมาสนองความต้องการ"
ดังนั้นทุกวันนี้เราจะเห็นนิตยสารปาปารัสซี่เกลื่อนแผง
ก็มันกลายเป็นความชอบธรรมไปแล้วนี่
ลองคุณเอาเงินเป็นศูนย์กลาง จริยธรรมอะไรนั่นก็ช่างหัว

ประเด็นที่สอง - เรื่องการใช้คำว่า "พ่อพิมพ์"
อันนี้เห็นคนละอย่างกับบลิวนะ
เพราะจุดกำเนิดของมันดูเหมือนว่าจะเกิดจากการเล่นคำมากกว่าความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
อย่างคำที่คล้ายๆ กันเห็นจะเป็น แม่งาน
เราก็จะได้ยินคำว่าพ่องานควบมาด้วย ซึ่งถ้าว่ากันตามโบราณแล้วมันไม่มี
ซึ่งต่อไปถ้าภาษามันวิวัฒนาการไปเรื่อยๆ
อีก 50 ปีเราอาจชินกับคำว่า พ่อแรง พ่อน้ำ พ่อยก พ่อเจ้าโว้ย ก็ได้
.. อย่างคำว่า "ขี่เบนซ์" ที่มีต้นกำเนิดมาจากเพลงลูกทุ่ง
ซึ่งดูแล้วมันผิดชัดๆ เลยใช่ไหม .. เบนซ์อะไรวะ เอาไว้ขี่ (เบนซ์พรชิตาไง)
แต่เหมือนมันเป็นการพิสูจน์ตัวเองของภาษาน่ะ
ถ้ามันอยู่ได้ และเป็นที่ยอมรับเข้า วันนึงก็ได้บรรจุลงพจนานุกรมเอง
ดังนั้นโดยส่วนตัวแล้วพี่ว่า ตรงนี้มันเป็นความสนุกของภาษามากกว่านะ
เลยเป็นเรื่องธรรมดาที่คนที่ทำงานหรือมีความผูกพันกับคำคำนั้นอาจจะไม่ชอบ ก็สมควร

ป.ล.จะให้สาปทำไม
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ขี่เบนซ์ เพลงไรหว่า   งั้นเหรอ

รู้จักแต่ ขี่เก๋ง อย่าลืมเกวียนบ้านนอก ระวังนะจ๊ะบางกอก จะหลอกพานางเร่ขาย ♫

แก้ไข เออ นึกออกแล้ว

ไปเด่นไปดี ขี่เบนซ์ รักพี่ น้องไม่ได้เป็น คุณนาย เพราะพี่ นี้มีแต่เพียง ร่างกาย เสียดายเสียดาย รักพี่มาพ่าย โถไม่มีเงิน ♫
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 ก.พ. 2006, 08:26 น. โดย นายโอ้เอ้ » บันทึกการเข้า

Today you , Tomorrow me.
น่าจะมีประกวดคาราโอเกะให้พี่โอ้เอ้ไปแข่งเนอะ
บันทึกการเข้า

Las Noches Rubicundior
หน้า: [1] 2 3
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!