(กราฟที่ว่ามาทั้งสองไม่เข้าข่ายเลย

)
ผมอคติน้อยๆกับการเรียนพิเศษครับ
เพราะว่า ...
1. ขี้เกียจ
2. ได้เล่นคอมน้อยลง
3. ใช้เวลาหมดไปกับไอ้ที่เราศึกษาเองได้มากขึ้น
4. ไม่ชอบ
5. หยิ่ง
6. ไว้เยาะเพื่อน เวลาได้คะแนนมากกว่ามัน
ซึ่งอันหลังนี่ผมแปลกใจมากเลยครับ
ตอน ม.1 (ตอนนั้นถูกล่อลวงโดยพี่แอนจนโงหัวไม่ขึ้น

) นี่ผมได้ที่ 19 มั้ง
เพื่อนมันก็ ... โห ... ไม่ได้เรียนพิเศษ ได้ที่ 19 ก็ยอดแล้ว
คิดในใจ คิดว่าการเรียนพิเศษมันทำให้คนคนหนึ่งมีความรู้มากขนาดนั้นเลยเหรอวะ
แต่ ม.2 เทอมหนึ่ง
ได้ที่หนึ่ง
เช่นเดียวกับ ม.1
คือไม่ได้เรียนพิเศษ
ซึ่งนั่นก็พิสูจน์ให้เห็นว่า อะไรอย่างที่เรียนอยู่ที่นครพนมมันก็ศึกษาเองได้
ไม่จำเป็นต้องเดินตามค่านิยม ตามเทรนด์ที่ต้องเรียนพิเศษ
แต่สักวันหนึ่งอาจจะต้องเดินตามเทรนด์นั่น
และหน่ายมากเลยครับ
ประสิทธิภาพในการทำโจทย์คณิตศาสตร์ที่ง่ายอย่างกับเขียนคำว่า "หมา" บนกระดาษสำหรับเด็กที่อยู่ใกล้เมืองหลวงอันถูกครอบงำเข้าไป
แต่ในมุมมองจากที่นี่ หินมากเลยว่ะ
แต่อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการอยู่รอดของเด็กยิ่งไกลความเจริญเท่าไหร่ ยิ่งมากเท่านั้น
ประสิทธิภาพในการแก้โจทย์ปัญหาไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาตัดสินชีวิตได้เสมอไป
แต่ประสิทธิภาพในการแก้โจทย์ชีวิตต่างหากที่สำคัญ
ซึ่งนั่นเป็นไม่กี่วิชาที่เด็กต่างจังหวัดอาจจะเก่งกว่าเด็กกรุงฯ
ดังนั้น อย่าไปเรียนมันเลยครับ

ให้ป๋าเลย์สอนในสกายปี๊ดีกว่า

ป.ล. ที่ 1 ที่นี่ กับที่โหล่ที่โน่น เทียบกันไม่ได้นะจ๊ะ