หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 ... 16
 
ผู้เขียน หัวข้อ: :+: ถุงยางอนามัยในโรงเรียน :+:  (อ่าน 70566 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
 เหลือบ   เหอะ



คิดว่าเรารับวัฒนธรรมตะวันตกมามากเกินไปนะ

ดูสิ...ทั้งญี่ปุ่น  ฝรั่ง เกาหลี ฯลฯ เกลื่อนแผง

ไอ้เด็กที่มันดีดี ก็ดีจนน่าใจหาย

ไอ้เด็กที่แย่ๆ  เหรี้ยๆ แรด ๆ ก็เกลื่อนเมือง  ง่ะ
บันทึกการเข้า

เลวยั้นเงา
น้อง ถุงยางที่!
บันทึกการเข้า
เหอะๆๆ
ให้เลิกเรียน ควงเป็นคู่ๆ กดตู้ เข้าหอ
ปกติดีมั้ย โวย
เห็นด้วยกับนานาค่ะ


หื่น
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
-นร.แถวบ้านต้องออกจากโรงเรียนเพราะท้อง
-เพื่อนร่วมรุ่นคนนึงไม่ได้เรียนต่อเพราะมันฟันหญิงแล้วป่อง
-ถ้าไม่ขายถุงยางก็คงต้องขายยาคุม
-ไม่ขายก็ได้เพราะแถวบ้านมีศูนย์เอดส์
บันทึกการเข้า
ที่7-11มีถุงยางก็สะดวกพอแล้ว
บันทึกการเข้า
เซเว่นมันไม่ได้มีชุมอยู่ทุกที่เหมือนกรุงเทพฯนี่หว่า
บันทึกการเข้า
แต่ร้านขายยาก็มีทุกชุมชน
บันทึกการเข้า
คุณหมอแมวอยู่ไหมครับ
เห็นว่าคุณหมอสนับสนุนไอเดีย
ผมเลยอยากทราบข้อดีของมันหน่อยจ้ะ
เผื่อว่าคนที่ทำงานใกล้ชิดกับโรงพยาบาลจะให้ข้อคิดที่น่าขบ

clearหัวใจกันสักนิด
เมื่อก่อนสมัยสัก4-5ปีก่อน ผมต่อต้านโครงการนี้มารอบนึงเพราะว่าเห็นว่า การปล่อยให้มีถุงยางในสถานศึกษา
- เป็นการสนับสนุนให้เด็กใจแตก
- ผิดจริต ลองนึกสภาพอาจารย์ตรวจกระเป๋าหาบุหรี่แต่ดันเจอถุงยางในกระเป๋านักเรียนหญิงแล้วนักเรียนบอกว่า"แล้วไง"
- คนที่ไม่เคยคิดอยากลอง ก็มาคิดอยากลอง

แต่เวลาผ่านไป ผมมาทำงานอยู่ในจุดนี้ ได้เจอภาพหลายๆอย่างที่ทำให้ต้องคิด
- ผมเพิ่งมาทำงานจังหวัดนี้ได้ไม่ถึง1ปี มีคนมาขอทำแท้งตรงๆกับผม 3 คน  น่าจะเกิน50ที่มาด้วยเรื่องทำแท้งเถื่อน (โดยเฉลี่ยสัปดาห์ละคน)
- อายุของเด็กที่ตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ส่วนใหญ่เป็นวัยทีน... บางคนมีโอกาสมีประจำเดือนได้แค่1ครั้งก็ท้องซะแล้ว
- เมื่อเช้า ผมตรวจคนไข้ใน ตอนนี้มีผู้หญิง2คน อายุ20ต้นๆกับ19 เป็นเอดส์! เป็นมาแล้วคนละ4-5ปี แปลว่าเป็นตั้งแต่อายุ14-15ปี
- ตอนที่ไปหาหอพักใกล้รพ.อยู่ เห็นชัดๆว่ามีเด็กนักเรียนเช่าอยู่ด้วยกันเต็มไปหมด(ครบทั้งมัธยมและสายอาชีพ ไม่ต้องแยกรร.เลย) ผมไปเดี่ยวๆไม่มีคู่นี่กลายเป็นของแปลกไปเลย
(เด๋วมาต่อ)
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
ตอนนี้สภาพทางสาธารณสุขไทย ไม่อยู่ในสภาพที่จะต่อรองอะไรได้มากครับ เพราะมีปัญหาใหญ่ๆคือ
1. ท้องโดยไม่ต้องการมากขึ้น ซึ่งนำมาสู่ปัญหาการทำแท้ง
2. เอดส์ในวัยรุ่น

เมื่อ5ปีก่อน เคยมีการยกโครงการแบบนี้ขึ้นมาพูดครั้งนึง จำรายละเอียดไม่ค่อยได้เหมือนกัน แต่จำได้ว่าคนที่ยกแนวทางนี้ขึ้นมาโดนด่าเสียคนไปแล้ว
ครั้งนั้น มีแนวคิดให้ถุงยางแพร่หลายเพราะว่า แนวโน้มปัญหาท้องก่อนแต่งและเอดส์ กำลังเพิ่มสูงขึ้นในวัยรุ่น... ตอนนั้นแค่"กำลังเพิ่ม" นะครับ ยังไม่เยอะเท่าบัดนี้
แนวคิดนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า
- หากเริ่มโครงการ ต้องเริ่มทุกด้าน ต้องมีการบรรจุหลักสูตรสุขศึกษา เพศศึกษา ให้ทันต่อโลก  เพราะถ้าทำเดี่ยวๆ มันจะกลายเป็นยั่วยุไป
- ต้องมีการปรับความเข้าใจของคนเกี่ยวกับการท้องก่อนแต่งบ้าง ไม่ใช่ว่าท้องแล้วผู้หญิงซวยตลอดชาติ
- กฎหมาย จารีต เกี่ยวกับการมีsex ต้องปรับใหม่
- ตัวยั่วยุในสังคมต้องเอาออกไปให้หมด

แต่เวลาเสนอจริงๆ ตั้งกระทรวงวัฒนธรรมออกมา ก็ไม่เห็นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันที่จับต้องได้............... แล้วใครจะทำ...........
เรื่องเพศ เรื่องsex เรื่องขนบธรรมเนียม มันก็เลยเหมือนเป็นเรื่องการสู้ศึกแบบแยกหมู่ หน่วยงานต่างๆในจังหวัดต่างก็ตั้งโครงการเล็กๆขึ้นมา ทำแบบแยกๆเป็นเอกเทศตามหน้าที่อำนาจที่ทำได้

ผ่านมา5ปี

ลองคิดตามผมหน่อยนะ
คิดว่าถุงยางในรร. เป็นตัวยั่วยุใช่ไหมครับ
- แล้วVCDคลิปต่างๆล่ะ (ไม่รวมVCDสนธิสโรชานะครับ นั่นไม่โป๊) ขายกันได้เกร่อ โดนจับไปทีก็กลับมาเปลี่ยนชื่อขายใหม่
-  หนังสือ แมกกาซีนทั้งหลายที่มีผู้หญิงแต่งตัววับแวม
- หนังสือพิมพ์ ก็ยังทำตัวเป็นrate R ต่อไป (ผู้ชายคนใดไม่เคยชักว่าวโดยใช้รูปจากหนังือพิมพ์โปรดแสดงตัวด้วย)
- ที่ปล่อยให้มีการจับมือถือแขนระหว่างเด็กชายและเด็กสาวน่ะ ยั่วยุยิ่งกว่าอะไรเสียอีก สมัยผมเด็กๆ ถ้าบังอาจไปจับมือถือแขนผู้หญิงนะ โดนตีก้นลายแล้วล่ะ
- เพื่อนที่เคยลองไปเที่ยวRCAสมัยยังดังใหม่ๆ กลับมาแล้วบอกผมว่า "กูจะไม่ไปที่นั่นอีกแล้ว" (มันเป็นเด็กดีครับ)

---------------------------------------------
อย่างที่บอกล่ะครับ ตอนนี้มันไกลเกินที่เราจะมาต่อรองแล้วล่ะครับ ลองคิดดูนะครับ ว่าถ้าเราปล่อยให้เรื่องแบบนี้เป็นไปโดยไม่แก้ไขอะไร
คนไข้ในรพ.1ใน3จะเป็นคนอายุต่ำกว่า25ที่เป็นเอดส์ระยะสุดท้าย
จะมีกรณีทำแท้งมากกว่าปัจจุบัน (ปัจจุบันมีการทำแท้ง4แสนครั้งต่อปี...ที่มาถึงรพ. ส่วนที่มาไม่ถึงมีอีกไม่รู้เท่าไหร่)
อีก5ปี ก็คงมีคนเสนอความเห็นนี้ใหม่ โดยที่มีเสียงคัดค้านน้อยลง ก็เหมือนตอนที่ให้ขายใน7-11แรกๆนั่นแหละ

จริงๆยังมีอีกหลายเหตุผลนะครับ แต่ว่าไม่ชัดเจน และต้องพอรู้จักระบบระบาดวิทยา สาธารณสุขเมืองไทย.. ก็จะรู้สึกเห็นด้วยมากกว่าต่อต้าน

ปล. ถ้าต่อต้านถุงยางนัก ทำไมยาคุมฉุกเฉินยังขายคู่กับหมากฝรั่งในร้านWatsonได้ล่ะครับ
ปอ. ใครที่บอกว่าแค่ร้านขายยากับ7-11ก็พอน่ะครับ นั่นมันกรุงเทพครับ ถ้าคุณอาศัยในต่างจังหวัด ออกมาจากรร.แล้วไปซื้อถุงยาง คุณอาจเจอ เพื่อนพ่อ เพื่อน คนข้างบ้าน คนที่รู้จักคุณ ขายถุงยางให้คุณเองก็ได้ แล้วปากคนน่ะ มันไวแค่ไหนคุณก็รู้ ... เด็กก็เลยชอบไปอะจึ๋ยกันโดยไม่ป้องกัน ดีกว่าให้มาเป็นขี้ปากชาวบ้าน
ปฮ. แล้วที่ประหลาด ตอนยังเรียน เจอคำนินทาว่าเสียตัวแล้วนี่เป็นเรื่องอับอายพ่อแม่วงศ์ตระกูล   แต่พอท้องแล้ว อุ้มลูกเดินไปโรงเรียน(แต่งชุดพานิชย์อุ้มลูกไปส่งอนุบาลก่อน) ไม่เห็นมีใครว่าอะไร
ปA. ยังไม่รู้ว่าคิดอะไรกันอยู่ แต่ผู้ป่วยเอดส์หลายคน รู้ว่าตนเองเป็น ยังไปมีแฟนใหม่ แล้วมีลูกด้วยกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 ก.พ. 2006, 18:18 น. โดย หมอแมว » บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
เซเว่นหลังโรงเรียน (ตู) เลย  เหลือบ
บันทึกการเข้า
คุณหมอแมวครับ

เรื่องที่พูดมา เข้าท่าครับ เพราะมันคือของจริง ข้อมูลจริง
แต่ผมอ่านจบแล้วก็ยังไม่เห็นว่ามันจะต้องถ่อเข้าไปขายในโรงเรียนเลยนี่?
คือถ้าเรามองโดยมีจุดหมุนตรงที่ว่า เด็กมันไปไกลเกินกว่าที่เราจะคุมได้แล้วนั้น
จุดที่จะขายถุงยางมันน่าจะเอื้อต่อการเอากันของคนมากกว่าโรงเรียน
- เป็นหอพักแทนได้ไหม?
- เป็นโรงแรมแทนได้ไหม?
- เป็นร้านขายของชำได้ไหม? (อันนี้ผมว่าไม่ต้องขายหรอก รัฐเทงบมาเยอะๆ แล้วให้ร้านชำเป็นจุดแจกถุงยางเลย - เวิร์คมอร์)

คุณหมอครับ อีตอนหวยเถื่อนทั่วไทยน่ะ
คนธรรมดาสามัญที่เขาไม่นิยมเล่นหวย เขาก็รู้สึกว่าเฉยๆ
แต่พอรัฐบาลหมอแม้วขุดมันขึ้นมาแบบนดิน
เพื่อรผมทุกคน (ย้ำ) ก็รี่ไปซื้อหวยเลขท้ายกัน เพราะมันยั่วต่อมดี

กรณีของถุงยาง "ในโรงเรียน" (นี่คือประเด็น)
มันจะไปในรูปแบบเดียวกะหวยบนดิน (และบ่อนบนดิน เร็วๆ นี้ ..ชัวร์) ไหมครับ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ

กรณีของถุงยาง "ในโรงเรียน" (นี่คือประเด็น)
มันจะไปในรูปแบบเดียวกะหวยบนดิน (และบ่อนบนดิน เร็วๆ นี้ ..ชัวร์) ไหมครับ
เป็นชัวร์ครับ จากที่ได้รับการประเมินกันมา เพราะมันเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นชั้นดี
ผมเลยบอกว่า ในการทำโครงการจริงๆ ต้องมีโครงการนโยบายอื่นๆ ไม่ใช่เอาเรื่องถุงยางมาส่งเสริมอย่างเดียว(แต่ไหงข่าวทำอย่างกับว่าจะเป็นแนวทางเดียวซะงั้น)
ถ้าส่งเสริมเอาถุงยางไปขายในรร. แล้วไม่ทำอย่างอื่น ตอบได้อย่างเดียวว่า "บรรลัย"

ส่วนที่ว่าเหมาะไหมที่จะขายในรร.
ทำไมไม่ขายที่โรงแรม หรือหอพัก

นั่นเพราะเด็กไทย  เอากันมีอะไรกันในหลายๆที่ ทั้งโรงเรียน โรงแรม(หายากมากๆโดยเฉพาะในต่างจังหวัด เพราะเข้าไปก็จำได้กันหมด) ป่า น้ำตก บ้านร้าง หลังคา(ดาดฟ้า)แฟลต โรงพยาบาล   ...
การแก้ปัญหาก็เลยเสนอว่าต้องขายในรร. และต้องขายในจุดที่มองเห็นได้พอสมควร
ไอ้การเอาไปติดในที่ลับตามากๆ ผลที่ออกมาแล้วก็คือ โดนงัดตู้ขโมยทั้งเงินและถุงยาง(เอาไปทำไรฟะ)

จะที่ไหนก็ได้ครับ แต่ขอให้เข้าถึงเด็ก และลับตาบ้าง........................

และที่สำคัญ ต้องรณรงค์ส่วนอื่นไปพร้อมๆกันตั้งแต่เด็กอยู่ประถม
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
ก็ดีกว่าการกวาดล้างหนังโป๊
บันทึกการเข้า

ตามหารักแท้ค่ะ โฮกกก
ตอนนี้สภาพทางสาธารณสุขไทย ไม่อยู่ในสภาพที่จะต่อรองอะไรได้มากครับ เพราะมีปัญหาใหญ่ๆคือ
1. ท้องโดยไม่ต้องการมากขึ้น ซึ่งนำมาสู่ปัญหาการทำแท้ง
2. เอดส์ในวัยรุ่น

เมื่อ5ปีก่อน เคยมีการยกโครงการแบบนี้ขึ้นมาพูดครั้งนึง จำรายละเอียดไม่ค่อยได้เหมือนกัน แต่จำได้ว่าคนที่ยกแนวทางนี้ขึ้นมาโดนด่าเสียคนไปแล้ว
ครั้งนั้น มีแนวคิดให้ถุงยางแพร่หลายเพราะว่า แนวโน้มปัญหาท้องก่อนแต่งและเอดส์ กำลังเพิ่มสูงขึ้นในวัยรุ่น... ตอนนั้นแค่"กำลังเพิ่ม" นะครับ ยังไม่เยอะเท่าบัดนี้
แนวคิดนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า
- หากเริ่มโครงการ ต้องเริ่มทุกด้าน ต้องมีการบรรจุหลักสูตรสุขศึกษา เพศศึกษา ให้ทันต่อโลก  เพราะถ้าทำเดี่ยวๆ มันจะกลายเป็นยั่วยุไป
- ต้องมีการปรับความเข้าใจของคนเกี่ยวกับการท้องก่อนแต่งบ้าง ไม่ใช่ว่าท้องแล้วผู้หญิงซวยตลอดชาติ
- กฎหมาย จารีต เกี่ยวกับการมีsex ต้องปรับใหม่
- ตัวยั่วยุในสังคมต้องเอาออกไปให้หมด

แต่เวลาเสนอจริงๆ ตั้งกระทรวงวัฒนธรรมออกมา ก็ไม่เห็นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันที่จับต้องได้............... แล้วใครจะทำ...........
เรื่องเพศ เรื่องsex เรื่องขนบธรรมเนียม มันก็เลยเหมือนเป็นเรื่องการสู้ศึกแบบแยกหมู่ หน่วยงานต่างๆในจังหวัดต่างก็ตั้งโครงการเล็กๆขึ้นมา ทำแบบแยกๆเป็นเอกเทศตามหน้าที่อำนาจที่ทำได้

ผ่านมา5ปี

ลองคิดตามผมหน่อยนะ
คิดว่าถุงยางในรร. เป็นตัวยั่วยุใช่ไหมครับ
- แล้วVCDคลิปต่างๆล่ะ (ไม่รวมVCDสนธิสโรชานะครับ นั่นไม่โป๊) ขายกันได้เกร่อ โดนจับไปทีก็กลับมาเปลี่ยนชื่อขายใหม่
-  หนังสือ แมกกาซีนทั้งหลายที่มีผู้หญิงแต่งตัววับแวม
- หนังสือพิมพ์ ก็ยังทำตัวเป็นrate R ต่อไป (ผู้ชายคนใดไม่เคยชักว่าวโดยใช้รูปจากหนังือพิมพ์โปรดแสดงตัวด้วย)
- ที่ปล่อยให้มีการจับมือถือแขนระหว่างเด็กชายและเด็กสาวน่ะ ยั่วยุยิ่งกว่าอะไรเสียอีก สมัยผมเด็กๆ ถ้าบังอาจไปจับมือถือแขนผู้หญิงนะ โดนตีก้นลายแล้วล่ะ
- เพื่อนที่เคยลองไปเที่ยวRCAสมัยยังดังใหม่ๆ กลับมาแล้วบอกผมว่า "กูจะไม่ไปที่นั่นอีกแล้ว" (มันเป็นเด็กดีครับ)

---------------------------------------------
อย่างที่บอกล่ะครับ ตอนนี้มันไกลเกินที่เราจะมาต่อรองแล้วล่ะครับ ลองคิดดูนะครับ ว่าถ้าเราปล่อยให้เรื่องแบบนี้เป็นไปโดยไม่แก้ไขอะไร
คนไข้ในรพ.1ใน3จะเป็นคนอายุต่ำกว่า25ที่เป็นเอดส์ระยะสุดท้าย
จะมีกรณีทำแท้งมากกว่าปัจจุบัน (ปัจจุบันมีการทำแท้ง4แสนครั้งต่อปี...ที่มาถึงรพ. ส่วนที่มาไม่ถึงมีอีกไม่รู้เท่าไหร่)
อีก5ปี ก็คงมีคนเสนอความเห็นนี้ใหม่ โดยที่มีเสียงคัดค้านน้อยลง ก็เหมือนตอนที่ให้ขายใน7-11แรกๆนั่นแหละ

จริงๆยังมีอีกหลายเหตุผลนะครับ แต่ว่าไม่ชัดเจน และต้องพอรู้จักระบบระบาดวิทยา สาธารณสุขเมืองไทย.. ก็จะรู้สึกเห็นด้วยมากกว่าต่อต้าน

ปล. ถ้าต่อต้านถุงยางนัก ทำไมยาคุมฉุกเฉินยังขายคู่กับหมากฝรั่งในร้านWatsonได้ล่ะครับ
ปอ. ใครที่บอกว่าแค่ร้านขายยากับ7-11ก็พอน่ะครับ นั่นมันกรุงเทพครับ ถ้าคุณอาศัยในต่างจังหวัด ออกมาจากรร.แล้วไปซื้อถุงยาง คุณอาจเจอ เพื่อนพ่อ เพื่อน คนข้างบ้าน คนที่รู้จักคุณ ขายถุงยางให้คุณเองก็ได้ แล้วปากคนน่ะ มันไวแค่ไหนคุณก็รู้ ... เด็กก็เลยชอบไปอะจึ๋ยกันโดยไม่ป้องกัน ดีกว่าให้มาเป็นขี้ปากชาวบ้าน
ปฮ. แล้วที่ประหลาด ตอนยังเรียน เจอคำนินทาว่าเสียตัวแล้วนี่เป็นเรื่องอับอายพ่อแม่วงศ์ตระกูล   แต่พอท้องแล้ว อุ้มลูกเดินไปโรงเรียน(แต่งชุดพานิชย์อุ้มลูกไปส่งอนุบาลก่อน) ไม่เห็นมีใครว่าอะไร
ปA. ยังไม่รู้ว่าคิดอะไรกันอยู่ แต่ผู้ป่วยเอดส์หลายคน รู้ว่าตนเองเป็น ยังไปมีแฟนใหม่ แล้วมีลูกด้วยกัน




ขี้เกียจอ่าน มันเยอะจังอะ ง่ะ
บันทึกการเข้า



ขี้เกียจอ่าน มันเยอะจังอะ ง่ะ
งั้นทีหลังจะซอยเป็นสามreply ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 ... 16
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!