หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 8 9 ... 44
 
ผู้เขียน หัวข้อ: แฉชีวิตจริงของเด็กถาปัด  (อ่าน 249587 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
คิดดีดีนะครับ จะเรียนคณะนี้น่ะ
คิดดีดี ....
คิดดีดี ....




!!!!!!!!!
โดนใจอย่างมากว่ะแจ๊ค .. (+3) ไปเลย
มาคุยกันเปิดอกเรื่องนี้หน่อยดีไหม
เพราะพอเข้าใจว่าเอ็งเป็นคนหนึ่งที่เลือกคณะพนี้เพราะภาพลักษณ์ของมัน
มากว่าจะเข้ามาถึง เรียน และจบไปเพื่อเป็นอะไร
ซึ่งกรณีนี้ เหมือนตู!!!
อยากให้เด็กๆ รุ่นหลังได้เข้าใจจริงๆ ว่าคนจะเรียนถาปัดมันต้องยังไงฃ
ขอยืมความสดมาเล่าหน่อยได้ไหม มีอะไรเรามาแลกเปลี่ยนกัน

ตูรู้สึกเหมือนเอ็งว่ากูไม่น่าเข้าคณะนี้เลย
นั่นเป็นความคิดตอนปี 1 เหมือนกัน
ตั้งกะนั้นมาก็เลิกเรียนเลยครับ (เอาแค่ประคองตัวอยู่รอด)
หันมาสนใจ "แก่นพุทธศาสน์" ที่คณะนี้ให้มาแทนวิชาชีพสถาปัตยกรรม
แล้วหันไปบ้าคลั่งกิจกรรมนอกคณะ จนรู้สึกว่าชีวิตมหาลัยตูคุ้มค่ามากๆ
ส่วนบางคนที่รู้ว่าตูไม่ไหวแล้ว ก็ย้ายไปเอ็นท์ใหม่ซะเลย
อันนี้ไม่ผิดนะ เพราะทนจบมาเป็นสถาปนิก โดยที่ไม่ใช่ตัวเอง
มันก็เหมือนตายเลย

ลุงอ๋าห์พอจะแนะนำน้องได้ไหมครับ
ในฐานะที่ลุงเป็นสถาปนิกมืออาชีพ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 10:53 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
รอฟังมืออาชีพ
ที่กำลังจะเป็นอาเสี่ย
(เพราะเป็นเจ้าของกิจการเองแล้ว)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 10:54 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
ขอบคุณที่มาคอยเตือนสติให้คิด

ได้ยินแว่วตอนไปมีตติ้งกัน
ไม่คิดว่าจะซิ่วจริง




ปล  สตูถาปัด มช  กว้างมาก วันนั้นไปดูมา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 10:55 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

คนบางคนเกิดมาเพื่อเป็นแค่ความทรงจำ
หลายคนคงเบื่อเพราะต้องเรียนวิชาคอน (construction)
ต้องเขียนแบบก่อสร้าง (น่าเบื่อสำหรับดีไซน์เนอร์)
เพราะมักจะคิดกันว่า เราเป็นดีไซน์เนอร์
เราสเก๊ตช์ๆลากๆ เอางามๆ เอาแปลกๆ แนวๆ เทรนด์ๆ เอาสนองตัณหาตัวเอง
ไม่ก็บ้าลอกแคตตาล๊อก (หนังสือ) ฝรั่ง ญี่ปุ่น ท่าเดียว ห่วงแต่ concept จะไ่ม่เจ๋ง
แล้วก็ปล่อยให้ดราฟท์แมนเป็นคนเขียนแบบต่อ
งานเขียนแบบไม่ใช่งานของเรา

- ก็เลยเบื่อกันมั้ง

หรือเพราะลืมไปว่า คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สอนคนเป็นสถาปนิก
ต้องออกแบบ สร้างบ้าน สร้างอาคาร
ซึ่งต้องรับผิดชอบชีวิต ความเป็นอยู่ของคน ก็ต้องเรียนรู้เยอะ หนักเป็นธรรมดา
คิดแต่ว่ามันเท่ดี ได้ออกแบบบ้าน แค่นั้น
พอเจองานที่ต้องเรียนรู้เยอะแยะนั่น

- ก็เลยเบื่อกันมั้ง

เอาแบบง่ายๆละกัน
จริงๆ แล้วคนออกแบบบ้านนอกจากจะต้องออกแบบบ้าน ให้น่าอยู่สวยงาม อย่างที่ลูกค้าอยากได้แล้ว
ยังต้องเรียนรู้การใช้วัสดุ ขั้นตอนการก่อสร้าง การคุยการรับงานกับลูกค้า
สนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (ไม่ใช่บ้านเรา ต้องเอาใจเขา)
รวมทั้งให้ความรู้กับเจ้าของบ้าน(เถียงเจ้าของบ้าน) ได้ เพื่อให้ได้อาคารที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และสังคม
 (คริคริ อุ๊ยตาย ทางก๊ีานทางการ)

รู้จักการประสานงานกับวิศวกรฝ่ายต่างๆ ผู้รับเหมา ช่างไม้ ช่างปูน ช่างไฟ ช่างประปา ช่างแอร์ ฯลฯ
ติดต่อกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในการขออนุญาตก่อสร้าง


เอาแค่นี้ละกัน ยังน่าเรียนอยู่ไหมวะเนี่ย  ง่ะ
อยากรู้อะไรถามได้จ้ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 10:57 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

        AH_LuGDeK, AH_LuGDeK_R
หลัการ เดียวกัน
แต่ของผม เน้น product & system

 เกย์แอบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 10:58 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

เกะกะ ระราน พาลไม่เลือกสถานที่
(ทั้งหมดแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อาจจะถูกหรือไม่ถูก)

อย่างที่ลุงอ๋าห์อธิบายนั่นแหละครับ
ถ้าความรู้สึกว่าอยากเป็นนักออกแบบ (คือนักออกแบบจริงๆน่ะ
แบบที่ไม่มีความรู้สึกของสถาปนิกในตัวเลยน่ะนะ)

เวลาเรียนเข้าจริงๆมันจะรู้สึกถึงความรู้สึกหลายๆอย่าง
ที่มีผลต่องานออกแบบของเรา
ทั้งเรื่องวัสดุ เรื่องของการมีคน
เข้ามาใช้สอยในงานออกแบบของเรา (หมายถึงสถาปัตยกรรมกันน่ะนะ)

ทำให้เวลาเรียนก้อค่อนข้างจะเรียนหนัก
คิดงานก้อคิดงานค่อนข้างจะยากมากๆ ด้วย
เพราะว่าเราไม่ได้ออกแบบ form (รูปทรง) ให้มันสวยอย่างเดียว
มันต้องสวยไปถึงที่ว่างภายใน อะไรขนาดนั้นกันเลย (เรียนมาเงี้ย)
และนอกจากมันจะต้องสวยแล้ว มันต้องตอบโจทย์ด้วย
ตอบสนองผู้ใช้ประโยชน์

ตอนที่ ผมเรียนปี 1 ผมก็เฉยๆ คือมันยังเปนงานออกแบบทั่วไปอยู่
มีวิชาในคณะแค่วิชา วัสดุและการก่อสร้าง แต่พอขึ้นเทอมสอง
ที่เข้าเรียนวิชา Arch-Design นี่ เข้าใจเลยครับว่าไม่ใช่แน่นอน

Arch-Design เป็นวิชาออกแบบสถาปัตยกรรม
ซึ่งเปิดมาตัวแรกผมก็รู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูกละครับ
มันเป็นการออกแบบพื้นที่ว่าง (คือพื้นที่ว่างจริงๆ อากาศเลยน่ะ)
โดยเอาโมเดลกระดาษมาวางตั้งๆๆ ให้เกิดการไหลเลื่อนของ
Space อะไรก้อไม่รู้ครับ ผมพยายามจะทำความเข้าใจมัน
ทำงานส่งไปทีไรก้อมีแต่โดนล้มแบบ แ็เลยรู้สึแว่าเออน่าจะถึงเวลา
คิดใหม่แล้ว ถ้าพยายามต่อก็คงได้แค่ตัวรอด

แล้วมันก็คงไม่รู้สึกดีเท่าไหร่ที่ต้องมานั่งเรียนอะไรที่
ไม่ชอบ (ทั้งเขียนแบบ ทั้งโมเดล) อีกตั้ง 4 ปี (ซึ่ง 4 ปี ก้อเอาไป
เรียนในสาชาวิชาอื่นได้เหมือนกัน) ก็เลยตัดสินใจเริ่มต้นใหม่แล้วกัน

ตอนนี้สอบติด ศิลปกรรมศาสตร์ออกแบบสื่อสาร ศรีนครินทร์วิโรฒ
ประสานมิตรเรียบร้อยแล้วครับ พึ่งสอบสัมภาษณ์มาวันนี้เอง
ถ้าไม่มีปัญหาอะไร คงได้เรียนที่นี่และ ถึงเวลาซะทีที่ควรจะเรียนอะไร
ที่น่าจะเรียนแต่แรก

สุดท้ายก้อโดนภาพลักษณ์ + คะแนนเอนท์ + คิดว่าน่าเรียน
เอาเข้าไปปีนึง แต่ผมก็ไม่รู้สึกหรอกนะ ว่ามันเสียเวลา ผมได้เข้าไป
เรียนอะไรในนั้นได้รับรู้แนวคิดอะไรหลายๆอย่าง (ถึงไม่มาก)
มันก็เป็นประโยชน์ใช้ในการทำงานออกแบบอย่างอื่นได้ (พอสมควร)

คือทีแรกผมคิดจะเข้าไปเรียนรู้พวกแนวคิดแล้วนำไปประยุกต์
ในงานออกแบบที่อยากจะทำเป็นวิชาชีพในอนาคต แล้วก้อได้มี
ความรู้ที่เรียนมา 5 ปีนั้นติดตัวด้วย (เหมือนกะได้อะไรหลายๆอย่าง)
แต่จริงๆแล้ว มันไม่คุ้มกันหรอกครับ ถ้าใครคิดอย่างนี้เรียนตรงๆกันไปเลย !

ขอให้โชคดีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 11:01 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

A R R 3 E . G R A P H I C S . L A S T . D E S I G N . O N . E A R T H
นุช พี่อยากแตกหน่อเอาไปไว้บนหิ้งว่ะ
เลือกให้หน่อยว่าจะตัดตรงไหนดี





ของตูที่เรียนมาจนจบ 5 ปีได้
ก็เพราะผ่านด่านอรหันต์ในปี 1-2 ไปแล้วน่ะสิ
พอขึั้นปีสามนี่หรูเลย เกรดที่เคยแต่ FFFDDDCCC ก็โผล่มาแดนบวกมั่ง
เลยรู้สึกรักความคิด + ไอเดียจากคณะนี้ขึ้นมาบ่อยๆ
ตอนเรียนจบนี่หันกลับมามอง แล้วก็ยิ้ม..

คณะนี้ไม่ได้สอนแค่สร้างบ้านจริงๆ ด้วย
มันสอนตูให้เป็นตูทุกวันนี้แหละ

แต่อย่างว่า
ถ้าเข้ามามุ่งแต่ตำราอย่างเดียวไม่เอากิจกรรม
ก็จบเห่


ชีวิตเอ็งน่าสนใจดี แจ๊ค
เล่าให้อ่านบ่อยๆ นะว่าทำอะไรถึงไหนแล้ว
(โทษที นานๆ จะเข้าไปอ่านบล็อกหรือไดอารี่ พอดีไม่ค่อยอยากอ่านเรื่องของไม้ป่าเดียวกันนัก กร๊าก )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 11:03 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
บันทึกการเข้า

A R R 3 E . G R A P H I C S . L A S T . D E S I G N . O N . E A R T H
อ้าว แตกซะชื่อนี้เลย
ไม่ได้อยู่ในข่ายถาปัต แต่กำลังอยากเล่าอีกมุมมองในการเลือกที่เรียนบ้าง
มุมมองแบบว่า "โอ๊ะ!!  นี่เราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้นี่"ของตัวเองครับ
ว่างๆให้น้องวีอ่านเล่น เดี๋ยวมาพิมพ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 11:03 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
อ๊ะ โทษที
แต่เอาน่ะ
มหาลัยอื่นคำว่าสถาปัตยกรรมศาสตร์เขารวมถึงสาขาการออกแบบแขนงอื่นด้วย
ดังนั้นแฉเลยเก้อ


(ตอนอยู่มหาลัยก็ดันไม่รู้จักกัน ทุกวันนี้เลยไม่ค่อยเชื่อว่าเอ็งเป็นนักศึกษาจริงๆ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 11:04 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ชีวิตน่ารัก ดี  ยิ้มน่ารัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 เม.ย. 2006, 22:54 น. โดย 藿月 (lán yuè) » บันทึกการเข้า
จริงๆแล้วเคยเห็นผ่านๆเหมือนมีพี่ ID ปี 5 ในบอร์ดนี้
เค้าก้อน่าจะให้คำตอบอะไรได้มากกว่านี้ เหอะๆ
ส่วนผมแค่นี้พอแล้วครับ ไม่มีความสุข เอาแต่ใจตัวเองหึหึ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 11:04 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

A R R 3 E . G R A P H I C S . L A S T . D E S I G N . O N . E A R T H
มองจากเด็กคณะอื่น บ้างนะ เท่าที่เห็น
เด็กถา'ปัด(ผู้หญิง)น่ารัก  ยิ้มน่ารัก แต่ไม่ชอบคุยกับเด็กต่างคณะ  เอือม
ชอบทำคัตฯเลิศหรู จนของคนอื่นดูด้อยค่า  เอือม
เห็นแต่งตัวเซอร์ ๆ แต่ขอโทษวันหยุดมีรถหรูโครตมารับ (เลยได้แค่มอง ฮือๆ~)
ไม่ค่อยออกเพ่นพ่านไปคณะอื่น เก?็บเนื้อเก็บตัว

สงสัยอยู่อย่าง ทำไมถา'ปัดถึงยังเรียนกัน 5 ปี วิชามันเยอะขนาดนั้นรึ คณะอื่นปรับเหลือ 4 ปีนานแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 11:08 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

[ว่างให้เช่า]
ห้าปียังแน่นเกินไปเลยครับ


จบมาเพื่อนๆ ที่สตูก็เงินเดืิอนไม่ได้ตามเป้า
หรือเพราะนี่แค่ช่วงแรกของชีวิตการทำงานไม่รู้
แต่ที่แน่ๆ คือเบนเข็มมาหาอาชีพอื่นกันเพียบเลย
นี่เป็นสิ่งที่เด็กมัธยมจะเอ็นท์ไม่ได้คิดกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 11:09 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ผมยังเรียนไม่ถึง 5 ปีน่ะครับถ้าให้คนทีเรียนจบแล้วมาตอบจะชัวร์กว่า
คือ 5 ปีนี้ในปีสุดท้ายต้องทำวิทยานิพนธ์ครับ ซึ่งจะทำสักชิ้นมันก็ต้องใช้
เวลาเป็นเดือนๆหลายเดือน

โปรเจคตอนเรียนของแต่ละวิชามันก็มีมากครับ
งานแต่ละชิ้นก็ใช้เวลาทำกันนานๆกันเปนสัปดาห์บ้างเปนเดือนบ้าง
จึงไม่น่าแปลกเท่าไหร่ที่จะใช้เวลาเรียนกัน 5 ปี
(ผมเห็นว่าเรียน 5 ปีนี่เรียนแทบจะยัดๆๆกันๆแล้วนะ)

แล้วไม่ได้เรียนวิชาในคณะกันอย่างเดียว
บางที่ก็ต้องมีเรียนวิชานอกคณะด้วย อะไรอย่างนั้นน่ะครับ

แล้วก็อย่างที่ลุงอ๋าบอกว่า
งานของคณะนี้เป็นงานที่ต้องเรียนรู้เยอะครับ มันหลายเรื่องๆมากๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ก.พ. 2006, 11:11 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

A R R 3 E . G R A P H I C S . L A S T . D E S I G N . O N . E A R T H
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 8 9 ... 44
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!