ในฐานะครูภาษาไทย ก็อยากให้ใช้กันให้ถูกต้องนะคะ เพราะภาษามันเป็นเรื่องของทักษะที่ต้องอาศัยการฝึกฝน
ดังนั้นความเคยชินจะมีส่วนสำคัญและจำเป็นมาก ถ้าใช้ผิดโดยตั้งใจบ่อยๆ ต่อไปก็จะผิดแบบไม่ได้ตั้งใจ
ซึ่งจะยังความลำบากให้แก่ครูผู้สอนเหลือคณานับ ถ้าใครลองอ่านเรียงความซักหนึ่งหน้ากระดาษรายงาน
อ่านทีประมาณร้อยกว่าเกือบสองร้อยใบ (เคยทำสถิติตรวจข้อสอบเรียงความห้าร้อยกว่าคน) ซึ่งเขียนด้วยลายมือ
อันแสนจะหลากหลาย แล้วต้องมานั่งแก้ภาษาที่ผิดด้วยปากกาแดง วงแล้วเขียนใหม่ วงแล้วเขียนใหม่
ด้วยคำเดิมๆ ซ้ำซากๆ มันเป็นความทรมานอย่างแสนสาหัสค่ะ (จะไม่แก้ให้ก็ทนไม่ได้)
ในฐานะปุถุชนคนธรรมดา ออกจะเห็นใจอยู่มิใช่น้อยค่ะ เข้าใจว่าภาษาเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงอะไรหลายอย่างของคน
ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคู่สนทนา หรือแม้แต่ตัวตน เดี๋ยวนี้จึงมีค่านิยมว่าใช้ภาษาถูกต้องทุกคำคือคนแก่
เช่นการไปแสดงความเห็น (เมนท์) ในไฮไฟว์เป็นต้น ยกเรื่องตัวเองมาเป็นตัวอย่างล่ะกันค่ะ มีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่ง
อายุยังน้อย เรียนแค่ชั้น ม.๑ ทุกครั้งที่เข้ามาเมนท์ในไฮไฟว์ ก็จะใช้ภาษาตามปกติที่เห็นกันทั่วไป เช่น แระ ปัย ฯลฯ
ซึ่งถ้าเข้ามาเขียนในไฮไฟว์เดียร์แบบนี้ ก็จะตักเตือนไปตามฐานานุรูป หนักบ้างเบาบ้าง ล่าสุดก็เพิ่งวันนี้เอง
เป็นเหตุให้หล่อนมาประนามไว้ว่า พี่ช่างโหด ดุ และไม่เข้าใจวัยรุ่นเลย ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว น้องถึงกับบอกว่าใครๆ เขาก็เขียนแบบนี้
กันทั้งนั้น ใครเขียนถูกน่ะเชยแล้วก็ "แก่" จึงต้องพยายามทำใจนับหนึ่งถึงร้อย แล้วก็เขียนตอบไปว่า งั้นพี่ไม่สนใจว่าจะเขียนหาใครอย่างไร
แต่เขียนหาพี่ให้ถูกแล้วกัน สรุปคือ ไม่ได้ผลแม้แต่น้อยค่ะ!
