หน้า: 1 2 3 [4]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ก็แค่เพลงน่ะ  (อ่าน 13000 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
อาจจะเป็นเพราะคุณพ่อไม่เคยบ่นเวลาที่เราเปิดเพลงวัยรุ่นดังๆ เราก็เลยเงียบและฟังเวลาท่านเปิด ชายเมืองสิงห์ ทูลทองใจ ดังๆบ้าง แต่เชื่อไหม ฟังได้ไม่มีเบื่อเลย " โปรดเถิดดวงใจ โปรดได้ฟังเพลงนี้ก่อน ..."  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น
บัวหิมะ


ลันล้า ~ โลกไม่ใชของเรา คืนเขาไปเถิด...

แฟนเขาไม่ใช่ของเรา...อย่าไปแย่งเขาเลย...


TT__________________________TT


เจ้อเพ้อ 55
บันทึกการเข้า

no food no fat no out no loose
"รักไม่กลัว กลัวไม่รัก
ถามไม่กลัว กลัวไม่ถาม
ยิ้มไม่กลัว กลัวไม่ยิ้ม"
อาจจะเป็นเพราะคุณพ่อไม่เคยบ่นเวลาที่เราเปิดเพลงวัยรุ่นดังๆ เราก็เลยเงียบและฟังเวลาท่านเปิด ชายเมืองสิงห์ ทูลทองใจ ดังๆบ้าง แต่เชื่อไหม ฟังได้ไม่มีเบื่อเลย " โปรดเถิดดวงใจ โปรดได้ฟังเพลงนี้ก่อน ..."  กรี๊ดดดดด
ก็็สมกับวัยดีครับเฮีย
บันทึกการเข้า

ขอบใจครับ Icez   ลันล้า
บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น
ของแตนชอบอันไหนก็ฟัง ไม่ค่อยเกี่ยงค่ายเท่าไหร่

แต่ส่วนใหญ่ชอบฟังเพลงเก่าๆ ประมาณ เกือบ 10 ปีที่แล้ว พวก อิสซึ่น

ออโต้บาน อะไรประมาณนี้ละ  ฮี่ๆ
บันทึกการเข้า

นานๆ จะเข้ามาที
ฟังได้ทุกแนวแหละค่ะ
ชอบเบเกอรี่ด้วย  อันนี้ไม่ได้ชอบตามกระแสนะคะ ชอบเพราะฟังแล้วรู้สึกดี

แล้วไม่ชอบนักร้องคนไหนกันบ้างคะ  งง
โดยส่วนตัว ไม่ชอบ เกียไนท์ อะไรเนี่ยแหละ  ขี้
บันทึกการเข้า

<3.
เพิ่งรู้ว่านุ้กเก้อเป็นพิธีกรคอนเสิร์ตอะไรบอยบอยสักอย่าง ที่พารากอน เมื่อวานนี้


ช่างมันเถอะ
แคลอรี่(เขียนไงหว่า)บอยบอยค่ะ
บันทึกการเข้า

"ความรักนั้น...ง่ายดายกว่าที่คิด...ยากเย็นกว่าที่เห็น"
ไอ้นุ้กเก้อหัวฟู
จัดสี่ทุ่มทุกวันยันตีหนึ่ง

ของแท้ต้องมุกควาย และฮากริบ

เมื่อคืนวันอาทิตย์ฟัง ..
มีคนส่งเมสเซจมาถามว่าพี่นุ้กเกอร์เป็นเพื่อนกับพี่แอนหรอ
บันทึกการเข้า
เปล่าครับ มันเป็นเมีย
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
เปล่าครับ มันเป็นเมีย

 เกย์ออก


บันทึกการเข้า
 (อิอิ)  โอ้...พระจ้อยจ่อย  หื่น
บันทึกการเข้า

BBcode เอิ๊ก~
เทคโนโลยีกว้าง - ศิลปะแคบ
 
 นักร้องหนุ่มยังได้ออกมาพูดถึงการพัฒนาเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน ที่ทำให้เสน่ห์ของการฟังเพลงลดน้อยลง เพราะคนฟังเพลงยุคใหม่ ไม่ได้เอาไลฟ์สไตล์ของตัวเองมาผูกติดกับดนตรีเหมือนดังเช่นเมื่อก่อน ที่มองเพลงเป็นเรื่องของการสะสมและมีคุณค่าทางจิตใจ ในขณะที่ เครื่องเล่นเอ็มพี 3 หรือ ไอ พอด กลายเป็นเครื่องมือสกัดยอดขายซีดีที่น่าจับตามอง
 
 "ทุกวันนี้ เพลงมันก็เป็นแค่เพลง มันถูกมองว่าเป็นแค่นั้นไปแล้ว มันเป็นเรื่องของเทคโนโลยีและยุคสมัยที่พัฒนาขึ้น มันทำให้เราทำดนตรีได้ง่าย"
 
 "อะไรที่มันง่าย บางคนอาจไม่รู้สึกเสียดายเลยหรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่ทราบ แต่สำหรับผมยังเป็นคนที่เลือกจะเก็บเพลงเป็นซีดีและแผ่นเสียงอยู่ มันได้อารมณ์มากกว่า มันไม่ใช่สิ่งสูญหาย ผมว่าบางทีเทคโนโลยีมันทำลายเสน่ห์ของการฟังเพลงไปหมด อย่างสมัยก่อน อัลบั้มที่เราชอบ วางแผงวันแรก แล้วเราไปยืนรอ มันให้ความรู้สึกตื่นเต้นมาก ซึ่งการบริโภคที่ดีหมายถึงการซื้อนะครับ มันน้อยลงไปเยอะ คือเขามีทางเลือกด้วยการดาวน์โหลดเพลงเพื่อเอาไปฟัง"

จากเนี่ย http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9480000133935

เรื่องเดิมๆน่ะนะ เกี่ยวกับดนตรีและเอ็มพีสาม คงฟังจนเบื่อแล้ว

ไม่ได้เห็นด้วยหรือขัดแย้งอะไรมากมายกับความคิดเห็นนี้
เพราะเข้าใจว่ายังไงโลยีมันก็ต้องเปลี่ยน
แต่ที่เอามาโพสเพราะ เพลงมันก็เป็นแค่เพลง ฟังประโยคนี้แล้วโกรธ
ไม่รู้ว่าจะโกรธอะไรดี แต่โกรธจริงๆนะ บอกหน่อยสิต้องโกรธใคร

เพลงคือ ศาตร์และศิลป์แห่งเสียง มีมาตั้งแต่กำเนิดสิ่งมีชีวิต และมีวิวัฒนาการเรื่อยมาหลังจากมนุษย์ได้เกิดขึ้นบนโลก และสร้างสรรค์เสียงต่างๆ ออกมาในหลายรูปแบบ มันคือ สิ่งที่มีค่า และสำคัญมาก ในชีวิต ศิลปินหลายคนใช้สิ่งนี้สร้าง เอกภาพ ขึ้นให้กลับโลกนี้ มันไม่ใช่ เป็นแค่เพลงถ้าคนที่ฟังเพลงแล้วคงไม่มีคนคิดว่ามันเป็นแค่เพลงแน่นอนเป็นเหมือนกับต้นกำเนิดของอารยธรรม "มนุษย์" เลยก็ว่าได้ แล้วเป็นสิ่งที่ผูกใจของผู้ที่ฟังมันเข้าด้วยกัน เช่นคุณกับผมชอบเพลงเดียวกัน แต่อยู่กันคนละโลก สุดล่าฟ้าเขียวขนาดไหน ก็จะเจอกันได้ ด้วย แนวเพลง นั้นๆ เข้าใจมันไหม เช่น ผมเป็นเด็ก Punk แล้วเดินไป ตามถนนเจอเด็ก Punk เหมือนกัน มันก็เกิดมิตรภาพ คนที่ซื้อเพลงฟังจริงมีอยู่ ส่วนมากก็ 30 ขึ้นกันหมดแล้ว ผมเห็นอยู่คนหนึ่งเป็นรุ่นพี่ผม เก็บสะสม เพลงมาตั้งแต่ ป.5 ปัจจุบัน อายุ 32 ปีแล้วเค้าก็ยังสะสม มันก็เป็นความชอบส่วนตัวเหมือนกันเรื่องเพลง ศิลปินทุกยุคมักถูกดูถูกเหยียดหยามและไม่เห็นคุณค่า มาช้านานแล้ว ตายไม่ดีกันหมดแหละ ฮึๆๆ นักดนตรีคืออาชีพที่อาภัพที่สุดนี่พูดถึงนักดนตรีจริงๆ นะ ไม่ใช่เหมือนปัจจุบันขายเพลง เป็นธุรกิจ ถ้าคุณชอบศิลปินเพราะว่าหล่อหรือซื้อเพราะหน้าปกสวยคุณอย่าทำนั่นคือการเหยียดหยามน้ำใจอย่างหักหาญ คุณต้องซื้อเพราะ เนื้อหาดี มีสาระหรือ มีเสียงดนตรีที่คุณชอบและพึงพอใจ นั่นแหละ ถ้าวงนั้นรู้ว่าคุณซื้อเพลงของพวกเขาด้วยความรู้สึกเช่นนั้นเค้าจะขอบคุณๆ มาก ปัจจุบัน พวกคนที่ขายดนตรีเพื่อเงินผมเรียกว่า "เรื้อน" และไอพวกที่ฟังดนตรีเพราะนักดนตรีหล่อ ผมเรียกว่า "สวะ" เกลียดจริงๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4]
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!