พิธีกรรมมีขึ้นภายหลัง คำสอนที่เป็นแนวหลัก
พระสวดมนต์ให้พรหลังฉันเสร็จก็เพื่อเอาใจญาติโยม
และเป็นการแสดงธรรมด้วย แต่ก่อน สมัยต้นพุทธกาลมีที่ไหน
พระฉันเสร็จลุกชิ่งเลยพงพรไม่มีให้ (ญาติโยมมองตาปริบๆไร..วะ)
ชาวบ้านเขาบ่นมา
พระพุทธเจ้าเลยตามใจ
เอ้าพระฉันข้าวชาวบ้านเสร็จแล้วแสดงธรรมให้เขาฟังมั่งนะ(ให้พรนั่นแล)
บางครั้งเราก็ต้องแยกให้ออกระหว่าง
ศาสนาที่เป็นหลักตามคัมภีร์ (doctrinal religion)
กับศาสนาแบบชาวบ้าน (popular religion)
ถ้า หากไม่มีวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเปลือกของศาสนา ที่ไม่ใช่แก่นของศาสนา ที่สามารถตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ได้แล้ว ศาสนาในฐานะที่เป็นสถาบัน จะดำรงอยู่ได้อย่างไรในเมื่อศาสนาไม่สามารถตอบสนองสิ่งที่ชาวบ้านเขาต้องการได้แล้ว
บางครั้งการสังสรรค์ทางวัฒนธรรม การผสมผสานของศาสนา (religious syncretism) เพื่อให้พุทธศาสนา ที่เป็นวัฒนธรรมใหม่
สามารถเข้ามาอยู่ในจิตใจของคนสุวรรณภูมิในสมัยโบราณ
โดย การปรับเอา พราหมณ์-ผี-พุทธ มารวมกันก็อาจจะทำให้ชาวบ้านแถบนี้รับกับศาสนาใหม่ได้ดีขึ้นนะ ลองสังเกตดูซิ พุทธในไทย พม่า ศรีลังลา เหมือนกันหรือปล่าวทั้งๆที่เป็นเถรวาทเหมือนกัน
บางครั้ง
หาก เรารู้จักแยกแยะ รู้จักที่จะเข้าใจผู้อื่น รู้จักพิจารณาทุกสิ่งได้อย่างไม่มีอคติ เราก็อาจจะมองเห็นสภาพที่แท้จริงของสิ่งทั้งปวงได้ชัดเจนขึ้นนะ..........จ๊ะ
จบ..