หน้า: [1] 2
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กว่าจะได้บริจาคเลือดอินเดอะยูเค  (อ่าน 9920 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
เพิ่งได้ไปบริจาคเลือดมาค่ะ
อยากบริจาคเลือดมาน้านนานแล้ว แต่ไม่ได้ไปสักทีเพราะข้อกำหนดที่นี่มันเยอะเหลือเกิน


ในเว็บเค้ามีควิซง่ายๆ ให้ทำว่าเราบริจาคได้มั้ย กดๆ ไปก็สนุกดี
https://www.scotblood.co.uk/giving-blood/can-i-give-blood/
ถ้าตามควิซนี้เราก็ผ่านฉลุย แต่พอเมล์ไปนัด (18th May) เค้าก็ให้ทำอีกควิซนึง ทำเสร็จบอกให้โทรไป
พอโทรไปก็ถามยูมีเลขผู้บริจาคเลือดมั้ย (จะมีได้ไงยังไม่เคยบริจาคโว้ย)
ถามข้อมูลเดิมที่ให้ไว้ในเมล พร้อมควิซอันเดิมอีก โอ๊ย ทำไมไม่อ่านเม้ล
กว่าจะผ่าน กว่าจะได้นัด กว่าจะถึงคิว (24th May) โฮ่ย นี่มาบริจาคเลือดนะ ต้องรอคิวเป็นสัปดาห์อีกเหรอ
(ตอนนั้นคือคิดว่าจะได้บริจาคละนะ เตรียมเพื่อนไปพร้อม เผื่อเป็นลม)

ไปถึงเจอควิซอีกรอบจ้า
12 เดือนที่ผ่านมาไปไหนมาบ้าง แล้วก็เปิดแท็บเล็ตหาว่าแต่ละประเทศนั้นมีโรคระบาดอะไรรึเปล่า เหมือนโปรตุเกสกับอิตาลี่จะมีซิก้าไวรัส

ยูเกิดที่ประเทศไทยซึ่งมีการระบาดของมาเลเรียจนถึงปี 2012 บ้านยูอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย ใกล้ป่ารึเปล่า
ก็จิ้มไปว่าอยู่ในเมือง แต่ก็ไม่รอด วันนี้ยังบริจาคไม่ได้นะ ขอเอาเลือดไปตรวจก่อน

ถ้าผ่านจะมีจดหมายส่งมาที่บ้าน

ตอนนั้นก็ก่นด่าไปพักนึงว่าจะอะไรกันนักหนา
แต่พออารมณ์เย็นลงก็เข้าใจแหละว่าถ้าบริจาคเลือดไปแล้วใช้ไม่ได้มันก็เสียเวลาและทรัพยากรไปเปล่าๆ อะเนอะ

รอไปจนลืม

สักพักก็มีจดหมายมาที่บ้านว่าโอเคไม่มีมาเลเรีย และส่งบัตรผู้บริจาคเลือดมาให้



คราวนี้ไม่เมลแล้ว โทรไปเลย ถามเลขประจำตัวก็มีแล้ว เลยง่ายเลย
ถามเค้าว่าตารางว่างเร็วสุดเมื่อไหร่ แล้วก็ได้วันถัดมาพอดี (อ้าวรอบนี้ทำไมง่าย)

พอไปถึงก็ให้ทำควิซอันเดิม ถามคำถามเดิมว่าไปไหนมาบ้าง
แล้วก็เช็คอีกแล้วว่าโปรตุเกสกะอิตาลี่มีซิก้า เฮ้ยยย อันนี้ยูเช็คไปแล้วยูจำได้ไหม
รอนานมาก ห้องข้างๆ เช็คเสร็จไปสองคนแล้ว นี่ยังนั่งอยู่ในห้องอยู่เลย
ส่วนของไทยไม่ถามเพิ่มแล้วเพราะมีผลตรวจยืนยัน

ขั้นตอนที่เหลือก็เหมือนของไทย
เช็คเหล็กในเลือดว่าเจ้มจ้นพอมั้ย เค้าบอกของผู้หญิงเอาแค่ 12.5 เรามี 13.3 รอด
เสร็จแล้วก็ไล่ไปนอนรอที่เตียง อันนี้อุปกรณ์ต่างจากไทยนิดหน่อย (ไม่ได้บริจาคที่ไทยมาสองปีแล้ว ข้อมูลอาจไม่อัปเดต)

ที่อเมซิ่งสุดคือที่ทำความสะอาด หน้าตาเหมือนที่ล้างจาน


ตอนแรกก็สงสัยว่ามันคืออะไร ทำไมอยู่ในเซตบริจาคเลือด
คุณพยาบาลเลยหักให้ดู บอกว่านี่แอลกอฮอล์อยู่ในด้าม บีบสองที แล้วก็ขัดแขนเราวนไปค่ะ กรี๊ดดดดด

ระหว่างนั้นเจ้ที่นั่งเยื้องๆ กับเราคงมึนหัว เลยได้เห็นว่าเก้าอี้บริจาคเลือดสามารถหมุนเอาหัวลงขาชี้ฟ้าได้
แต่ไม่ได้ใช้นะ สตรองพอ
บันทึกการเข้า
มีอยู่รูปเดียว ไม่กล้าถ่าย


อันที่ต่างจากที่เคยบริจาคในไทยก็มีแค่
ถุงเยอะมาก
มีถุงใหญ่ 4 ถุง น่าจะสำหรับเอาไปแยกเกล็ดเลือดพลาสม่าเม็ดเลือด
กับถุงจิ๋วๆ อีกอันนึง อันนี้คือพอจิ้มเข็มเข้าเส้นเลือดเราก็จะไหลเข้าถุงเล็กนี้ก่อน
พอเต็มคุณพยาบาลก็จะมาหักวาวล์ให้เลือดไหลไปถุงบริจาค
หลังจากนั้นก็จะเอาหลอดมาเก็บตัวอย่างเลือดจากถุงเล็ก



แล้วก็ให้เรานอนบีบมือไปเรื่อยๆ จนเลือดครบ 465 mL

ที่บีบไม่น่ารักเลย เป็นแค่ทิชชู่ม้วนๆ

ตอนบริจาคที่ไทยเค้าจะรอให้เลือดเต็มถุงแล้วก็มัดสายยาง ตัดแล้วค่อยเก็บตัวอย่างใส่หลอดเลือดเนอะ เสร็จแล้วก็ดึงเข็มออก ทิ้งลงถัง
พร้อมกับรีดเลือดในสายยางทั้งหมดเข้าไปในถุง รู้สึกว่าคุ้มค่าดี

ที่นี่พอเลือดเต็มเค้าก็แค่ดึงเข็มออก เอาวาวล์สีน้ำเงินไปครอบ จบ มันดูง่าย
แต่ในถุงเล็กก็ยังมีเลือดอยู่ ในสายยางอีก เลยแอบคิดว่าใช้เลือดเราไม่คุ้มทุกหยาดหยด  หมีโหด~




ระหว่างที่นั่งพัก คุณลุงข้างๆ ก็หน้ามืดไปอีกคน ได้ใช้บริการเก้าอี้ขาชี้ฟ้าเช่นกัน

ขนมหลังบริจาคไม่อลังการเท่าไทย น้ำส้มก็ปลอมยิ่งกว่าดีโด้ขวดห้าบาท เกรียน



ได้เข็มมาอันนึง พร้อมคำทำนายกรุ๊ปเลือดตามแบบญี่ปุ่น ว้ออททท หืมมมม  ใช่ซี้~





ป.ล. ที่บริจาคเลือดมีน้อยมาก ทั้งจังหวัดมีที่เดียว นี่อยากได้เลือดจริงมั้ย
บันทึกการเข้า
โฟกัสตรงคำว่า MISS
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
มิส ก่ำ แพ้ง เผ็ช ไท้ แหล่นนนนน  เกย์ออก
บันทึกการเข้า
 ฮือๆ~ ไม่เคยทำใจกล้ากับเข็มได้สักที ขนาดว่าช่วงหนึ่งโดนแทงเข็มน้ำเกลือบ่อยๆ ก็ยังกลับมากลัวเข็มอีกอยู่ดี
บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น
ลองสักครั้งแล้วจะติดใจค่ะ โมเมนต์ที่พยาบาลแทงเข็มเข้าไป (นี่ก็ไม่กล้ามองตอนจิ้มเข็ม)​แล้วเลือดไหลไปตามสายยางนี่มันฟินจริงๆ นะ
บันทึกการเข้า
เพิ่งไปตรวจความดันมา
แค่หมอเอาเข็มเป๊กทิ่มนิ้วเก็บตัวอย่างเลือด (วัดค่าน้ำตาล)
เท่านี้ก็หน้ามืดแล้ว ฮ่าๆ ฮือๆ



อันนี้นอกเรื่อง คือตลกดี พอดีจะไปอัดพอดแคสต์
แล้วพาน้องไปด้วย รอเวลาเลยกะว่าไปเดินในสวนจุฬา 100 ปี เล่นๆ
ปรากฏว่ามีทีมแพทย์มาตั้งบูทตรวจสุขภาพ วัดสายตา ฯลฯ ฟรี
น้องสองคนอยากวัดสายตา เลยให้ไปต่อคิวแล้วเรายืนรอ
รอไปรอมาแม่งนาน เลยไปตรวจสุขภาพเล่นๆ
ปรากฏว่าความดันสูง ฮ่าๆ ฮือๆ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
นี่ถึงวัยที่ต้องกังวลเรื่องความดันกันแล้วเหรอ ฮือๆ~
ต้องกินยามั้ยอะคะ


ชอบที่เจาะเลือดแบบปีอกแป๊ก เร็วดี ยังไม่ทันเจ็บเลย
บันทึกการเข้า
ยังๆ หมอบอกว่าลดเค็มละกัน แล้วอย่านอนดึก
ถึงวัยแล้วจริงๆ  ฮ่าๆ ฮือๆ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
นึกว่านอนดึกแล้วจะความดันต่ำซะอีก งง

ลดเค็มนี่อยู่ยากเลย ลาก่อนอาหารเซเว่นและฟาสต์ฟู้ด
ขอให้โชคดีค่ะ

//รักษาเนื้อรักษาตัวกันด้วยนะคะ จะได้บริจาคเลือดได้
บันทึกการเข้า
ยังไม่เคยบริจาคเลยซักครั้ง อนุโมทนาด้วยจ้า
บันทึกการเข้า

อยากให้ทุกคนได้ลองนะคะ สักครั้ังแล้วจะติดใจ  เกย์ออก พี่แอ้เชื่อหนู
บันทึกการเข้า
พี่กลัวเข็มมากเวอร์ และเม็ดเลือดเล็กง่ะ (ผลจากตรวจร่างกาย จำนวนเม็ดเลือดปกติ แต่ขนาดเล็ก มันคือไรวะ)
เคยเดินไปที่หน่วยรับบริจาคแล้ว พอเขาเห็นท่าทางว่าเป็นพวกเจาะยาก แล้วเลือดอาจจะไม่ดีป่าว เขาก็ปฏิเสธเลย
อย่างที่ไทยนี่เหมือนรู้มาว่า ต้นทุนเจาะเลือดบริจาคถุงละ ๕๐๐ บาทเข้าไปแล้ว
ถ้าได้ไปน้อยกว่าคนอื่นอาจจะไม่คุ้มไรงี้ปะ เอาจริงๆ อยากบริจาคมากเลย แต่มันห้ามตัวเองไม่ให้กลัวไม่ได้ง่ะ  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

ถ้าได้เลือดน้อยไม่คุ้มค่าถุงเลือดและค่าตรวจอะค่ะ
ตอนที่ผอมๆ ที่เชียงใหม่ก็ไม่รับ บอกว่าให้ได้แค่ 350 ml ไม่คุ้ม
แต่ต่างจังหวัดน่าจะคนบริจาคน้อยเค้าก็รับอยู่แต่ก็บ่นว่าถุงใหญ่คุ้มกว่า

เพิ่งนึกได้ว่าตอนที่ไปบริจาคเลือดคุณพยาบาลไม่ใส่ถุงมือสักคนเลยไม่ว่าจะขั้นตอนไหน งง
ตอนเจาะเลือดที่มันก็จะมีไหลเลอะเทอะก็ไม่ใส่ หรือเพราะเราเป็นคนที่บริจาคเลือดได้ต้องคลีนเค้าเลยไม่กลัวงี้เหรอ
บันทึกการเข้า
ประเทศแถบนั้นมีพิธีรีตองกับการสาธารณสุขเยอะจัง
บันทึกการเข้า

งบน้อย
หน้า: [1] 2
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!