เริ่มจากท่าวิ่งที่ถูกต้องก่อนเลยค่ะ
ศีรษะ
ศีรษะตั้งตรงเป็นแกนเดียวกับลำตัว ไม่เงยหน้าหรือก้มศีรษะ
สายตามองไปข้างหน้าระดับ 30 - 40 เมตร จะทำให้กล้ามเนื้อคอ ผ่อนคลาย ไม่เกร็ง
ลำตัว
ลำตัวเป็นเส้นตรงตั้งแต่ศีรษะลงไปถึงเท้า
ไม่งอหรือพับช่วงเอว ทิ้งน้ำหนักตัวและเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย
ลำตัวต้องไม่ส่ายไปมาหรือโยกขึ้นลงในขณะวิ่ง
ปล่อยไหล่ลงตามสบายไม่เกร็งหรือยกไหล่สูง
มือและแขน
กำมือหลวมๆ เกร็งข้อมือเล็กน้อยเพื่อป้องกันการสะบัดข้อมือไปมา อซึ่งจะทำให้การแกว่งแขนและลำตัวเสียการควบคุม ผิดทิศทาง
แขนแกว่งตัดเข้าลำตัวเล็กน้อยขึ้นลงตามจังหวะของการวิ่ง ไม่เกร็งแขนและควรขนานกับทิศทางการวิ่ง
ในขณะที่แขนแกว่งขึ้นข้างบน แขนท่อนล่างและข้อมือจะยกขึ้นระดับอกและทำมุมกับแขนท่อนบนประมาณ 70 - 80 องศา
เมื่อแกว่งลงข้างล่างข้อมือจะอยู่ที่ระดับเอวเหนือสะโพก และทำมุมกับแขนท่อนบนประมาณ 120 องศา
จังหวะการแกว่งแขนให้ไหล่เป็นจุดหมุนและดึงข้อศอกไปข้างหลัง
เข่าและเท้า
การวางเท้ามีการวางอยู่ 2 แบบทั้งการวางด้วยส้นเท้าและเท้าด้านหน้า
เริ่มแรกควรวางอย่างเป็นธรรมชาติของตัวเองก่อน ดัดปลายเท้าให้เป็นเส้นตรงตามทางวิ่ง ไม่เฉเข้าหรือเฉออกนอกลำตัว
ไม่จิกลงด้วยปลายเท้าบริเวณนิ้วเท้าเหมือนเขย่งหรือวิ่งระยะสั้น
เข่าหน้าไม่ควรเหยียดตรง ให้งอเข่าลงเล็กน้อย
ส้นเท้าหลังปล่อยยกขึ้นหาสะโพกสบายๆไม่ฝืนเกร็ง
เมื่อเท้าหน้าวางพื้นให้ถ่ายน้ำหนักตัวไปข้างหน้าแล้วสลับเท้าขึ้นทันที
นักวิ่งหน้าใหม่ควรฝึกสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและส่วนที่เกี่ยวข้อง
เพื่อรองรับกับท่าทางการวิ่งที่จะปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมต่อไป
หาอ่านเพิ่มเติมได้ มีข้อมูลก่อนวิ่งจะดีกว่าการโหมวิ่งโดยไม่ศึกษาค่ะ
http://www.thaijoggingclub.or.th/index.php/head-article/new-runner