FontForge 2014วิธีนี้จะง่ายที่สุด ผมแนะนำให้ใช้วิธีนี้
1. ติดตั้ง XQuartz
https://xquartz.macosforge.org/landing/ (FontForge ไม่ใช่โปรแกรมสำหรับ Mac โดยกำเนิด เลยต้องการ X11 สำหรับใช้งาน GUI)
2. เปิด XQuartz (Applications > Utilities > XQuartz) แล้วตั้งค่า preferences เพื่อให้ใช้งาน keyboard shortcuts แบบ Mac ตามภาพข้างล่างนี้
3. ติดตั้ง FontForge ล่าสุด เลือกดูใน
http://fuuko.libferris.com/osx/packages/ ณ วันที่เขียนคือ วันที่ 8 เมษา 2014 แพคเกจล่าสุดก็คืออันนี้
http://fuuko.libferris.com/osx/packages/201404/08_0435/4. เปิด FontForge แล้วตั้งค่า preferences (File > Preferences) ตรง Generic เปิด ExportClipboard (On) (ใน Linux จะใช้ copy/paste ข้ามโปรแกรมได้ ส่วนใน Mac ผมยังหาวิธี copy/paste ข้ามโปรแกรมใน Mac กับ X11 ไม่ได้ ใครทำสำเร็จก็บอกด้วยนะครับ ส่วนอื่นก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมันก็ได้)
Mac FontForge 2014 ยังไม่สมบูรณ์นะครับ มันมีบั๊กการแสดงผลบางฟีเจอร์ (ลองอ่าน
http://www.f0nt.com/forum/index.php/topic,21995.msg1714984.html#msg1714984)
ผมแจ้งทีม FontForge ไปแล้ว แต่ดูเหมือนปัญหามันจะซับซ้อนกว่านั้น เพราะไม่ได้มีปัญหาเฉพาะกับตัวไทยแต่กับตัวละตินด้วย
FontForge 2012วิธีนี้จะยากขึ้นมาหน่อยแต่ไม่ได้ยากที่สุด ต้องใช้ command line interface (cli) อันนี้ผมไม่แนะนำนะครับ ถ้าไม่คุ้นกับ cli มันจะวุ่นวายหน่อย ยกเว้นคุณจะอยากเรียนรู้หรือลอง FontForge เวอร์ชั่นเก่าเพื่อเปรียบเทียบฟีเจอร์ (บางอย่างมันแสดงผลถูกต้องกว่าตัวใหม่ แต่โดยรวมแล้วเวอร์ชั่นเก่ามีบั๊กเยอะกว่าเวอร์ชั่นใหม่นะครับ)
1. ติดตั้ง Xcode 5.1 จาก App Store
2. ดาวน์โหลด Command Line Tools (Xcode > Preferences > Downloads)
3. ติดตั้งและตั้งค่า XQuartz เหมือนวิธีแรก
4. ติดตั้ง Homebrew package manager (Homebrew ก็เหมือน Apt ใน Ubuntu ครับ อ่านรายละเอียดเพิ่มที่
http://brew.sh/) เปิดโปรแกรม Teminal แล้วพิมพ์ (หรือ copy คำสั่งนี้)
ruby -e "$(curl -fsSL [url]https://raw.github.com/Homebrew/homebrew/go/install[/url])"
5. หลังติดตั้ง Homebrew เรียบร้อย ก็ติดตั้งแพคเกจที่จำเป็นสำหรับ FontForge ใน Terminal พิมพ์
brew install gettext fontconfig libpng jpeg libtiff giflib cairo pango libspiro czmq
6. ติดตั้ง FontForge 2012
brew install fontforge --with-x --with-cairo --with-czmq --with-gif --with-libspiro --with-pango
7. ถ้าไม่เจอ Error ก็เรียกใช้โปรแกรมผ่าน Terminal พิมพ์
ถ้าคุณไม่ได้ติดตั้ง FontForge หลายเวอร์ชั่น ก็ลิ้งค์ไปไว้ที่ Applications ได้ด้วยคำสั่ง
อันนี้น่าจะพอให้คนที่อยากใช้งาน FontForge ใน Mac เป็นไอเดียได้ ผมไม่ได้ใช้งาน Mac เป็นประจำ ดังนั้นปัญหาบางอย่างผมอาจไม่รู้นะครับ ลองดูแล้วมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ส่วน FontForge ใน Windows ผมไม่มีประสบการณ์เลย แต่เดาว่าคงยากกว่านี้