หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8 9 10 11 ... 31
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ปิง ปิง ปิง กิน กิน กินเข้าไป!!!  (อ่าน 182189 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
คราวนี้มากินมอนจะยากิกันครับ มอนจายากิ เป็นอาหารของโตเกียว ถ้าอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นบ่อยๆอาจจะเห็นผ่านตาบ้าง ลักษณะอาหารจะคล้ายๆกับโอโคโนมิยากิ หรือพิซซ่าญี่ปุ่น

ร้าน Don Don อยู่ที่สุขุมวิทซอย 37 เข้ามาสุดซอยเลี้ยวซ้าย ร้านตั้งอยู่ด้านในสุดทางตันครับ หรือถ้าเข้ามาปากซอย 39 ก็เลี้ยวซ้ายซอยแรกมองไปสุดซอยก็ได้เช่นกัน ร้านอยู่ใกล้ๆร้านข้าวหน้าปลาไหล อุนางิ นากามุระครับ ร้านนี้จะเปิด 11.30-14.00 แล้วจะเปิดอีกที 17.00-22.30 แต่ถ้าวันเสาร์อาทิตย์เปิดตั้งแต่ 11.30-22.00 ครับ

หน้าร้านครับ


ร้านนี้ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนญี่ปุ่น มากินเหล้ากินเบียร์กันหลังเลิกงานครับ บรรยากาศค่อนข้างคึกครื้น


เหล้าที่ลูกค้าฝากไว้ เพียบเลย


เตรียมความพร้อม


จานแรกเรียกน้ำย่อยก่อน ด้วยดาชิมากิ ทามาโกะ ด้วยสัมผัสนุ่มๆ รสกลมกล่อม (100.-)


ต่อด้วยพระเอกที่ตั้งใจมากิน มอนจะยากิ มาแบบกะทะใหญ่มากๆ มอนจะยากิที่นี่กะทะล่ะ 140.- แต่ถ้าเพิ่มเครื่องก็อย่างล่ะ 30.- ครับ ที่ผมเลือกมาก็มี หมู โมจิ และชี้สสสส


ทางร้านจะผัดลงกะทะมาให้เลย พอมาตั้งก็รอซัก 5 นาทีให้สุกทั่วถึงก่อนนะครับ ช่วงนี้จะเห็นแป้งเดือดปุดๆๆเลย


เตรียมอาวุธสำหรับต่อกรกับมอนจะยากิ


พอสุกแล้ว แล้วแต่ว่าเราชอบแบบให้แป้งด้านนึงกรอบๆ หรือชอบแบบเหนียวๆก็ตามชอบเลยครับ


พอสุกแล้วก็ใช้อุปกรณ์ที่ให้มาค่อยๆตัดเล็มกินได้เลยครับ


ตักเข้าปากทั้งๆแบบนี้เลยยยยยย รสเข้มข้นของน้ำซุปในแป้ง ความหนุบหนับของโมจิ บวกกับรสของชี้สสสส สุดๆไปเลย


เห็นกะทะใหญ่แบบนี้กินคนเดียว แต่ด้วยความโลภเห็นโต๊ะข้างๆกินอุด้งน่ากินมากๆ เลยขอจัด ซารุอุด้ง (150.-) มาโซ้ยด้วย


หน้าตาดีมากๆ


ใส่งา ขิง ต้นหอมลงไปในซุปเลย


ใส่เส้นของไปกินกับน้ำซุปกลิ่นหอมมากๆ


เส้นที่นี่ลวกเหนียวๆ แต่ผมว่าค่อนไปทางแข็งไปนิดครับ  พูดไปงั้นแป๊บเดียวโซ้ยหมดถาด



3 อย่าง + ชาเขียว ราคารวม 535บาท ร้านนี้ถือว่าโอเคครับ รสชาติอร่อย ราคาไม่แพงมาก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 ก.ค. 2013, 04:55 น. โดย Ping » บันทึกการเข้า
ไข่หวานม้วน  :หิว:
บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น
เปิดมาดูตอนเที่ยงพอดีและยังไม่ได้กินข้าว  ฮือๆๆ
บันทึกการเข้า

อยากมอนจะยะกิ กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

งบน้อย
ล่าสุดมาที่ร้าน ทาวารายะ ที่สุขุมวิทซอย 26 ครับ เข้ามาสุดซอยจะบังคับเลี้ยวซ้าย พอเลี้ยวปุ๊บร้านอยู่ทางขวามือครับผมจะเห็นป้ายร้านวางที่ข้างทาง


หน้าร้านจะขึงผ้าแบบนี้


ตอนแรกเข้ามาตกใจ ในร้านเงียบมาก ไม่มีคนเลย (มาตอนราวๆ 3 ทุ่ม) ที่ไหนได้ ร้านมี 2 ชั้นครับ และชั้น2 สำหรับคนสูบบุหรี่ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่สูบบุหรี่กัน เลยมีลูกค้าชั้น2 เยอะเลย (ที่รู้คือตอนผมกินอยู่ลูกค้าลงมาจากชั้น2 เรื่อยๆ)


สั่งชาอูหลงเย็นมากินก่อน


เมนูร้านนี้ส่วนใหญ่เป็นแบบหม้อร้อน กะทะร้อนทำนองนี้ครับ(มีเมนูทาโกะยากิมาให้ทำเองที่โต๊ะด้วย) อย่างในรูปคือเมนู มิโสะยากิอุด้ง น่ากินมากๆ รอบหน้าไว้จะมาลองครับ


แต่เมนูที่สั่งกินก่อนนั้นผมสั่ง Caprese (240.-) เป็นสลัดแบบอิตาลีที่มีมะเขือเทศและมอสซาเรลล่าเป็นส่วนประกอบหลัก เห็นแปะไว้หน้าแรก แล้วท่าทางได้ไวเลยสั่งมาโซ้ยก่อนครับ




กินชี้สคู่กับมะเขือเทศพร้อมกันเข้ากันมากๆ


ต่อด้วยเมนูหม้อหินร้อน มิโสะนิโคมิอุด้ง (250.-) เป็นอุด้งหม้อหินร้อนต้มกับมิโสะจากนาโกย่า มาเสิร์ฟแบบเดือดปุดๆๆๆเลย


ครั้งแรกที่มาเสิร์ฟกลิ่นหอมของมิโสะกับเห็ดชิตาเกะ(เห็ดหอม) ลอยแตะจมูกเลยครับ


เส้นอุด้งใช้ได้ครับ ไม่ถึงกับเหนียวแต่ก็ไม่เละมาก (ผมชอบแบบเหนียวๆ)


ส่วนน้ำซุปผมว่าค่อนข้างเค็มนะ ถ้ากินตอนร้อนๆอาจจะพอดีกำลังกลมกล่อม แต่ถ้าเริ่มเย็นแล้วเค็มมากครับ


ถึงมาคนเดียว แต่กินยังไม่อิ่ม ถ้าพูดถึงนาโกย่าแล้ว มีอีกเมนูที่น่าสนใจ นั่นก็คือ อุนางิ โนะ ฮิสึมาบุชิ (330.-) เป็นข้าวหน้าปลาไหลสไตล์นาโกย่า แถมอันนี้เสิร์ฟมาในหม้อหินร้อนด้วย


สำหรับฮิสึมาบุชิจะต่างจากข้าวหน้าปลาไหลปกติตรงวิธีการกินครับ ใน 1 ชามจะแบ่งกิน 3ครั้งแตกต่างกัน


เริ่มจากคลุกปลาไหลลงในข้าวก่อน (หรือใครจะไม่คลุกก็ตามชอบเลยครับผม) ที่ผมคลุกเนื่องจากเป็นหม้อหินร้อน ถ้าไม่คลุกข้าวจะไหม้ครับ ตอนที่คลุกกลิ่นหอมมากกกกก


ชามแรกก็กินแบบไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเลยครับ เพื่อลิ้มรสเนื้อปลาไหล และซอสแบบดั้งเดิม


ชามที่ 2 ก็ใส่ต้นหอม วาซาบิ และสาหร่ายลงไป กลิ่นความสดชื่นของวาซาบิ ช่วยตัดความเลี่ยนและชูรสชาติได้ดีมากๆครับ




ชามสุดท้าย ใส่เครื่องแบบชามที่2 (หรือถ้าไม่ชอบก็ไม่ใส่ก็ได้ครับ) แล้วเติมน้ำชาร้อนที่เสิร์ฟมาด้วยลงไป


ชอบมากครับ กลิ่นหอมจากหม้อหินร้อนหอมมากๆครับ ข้าวกับซอสและเนื้อปลาไหลก็อร่อย (เสียดายให้น้อยไปหน่อย^^")

ร้านนี้ไม่มี SC10% มีแต่ VAT7% ครับ



บันทึกการเข้า
ปิงไปเจอร้านพวกนี้ได้ยังไงอ่ะ  งง
คือถ้าดูแต่หน้าร้านแล้วไม่น่าเข้าเลยแฮะ  กร๊าก
บันทึกการเข้า
ปิงไปเจอร้านพวกนี้ได้ยังไงอ่ะ  งง
คือถ้าดูแต่หน้าร้านแล้วไม่น่าเข้าเลยแฮะ  กร๊าก


แรกๆเริ่มจากอ่านที่แนะนำใน DACO ครับ พอไปร้านนึงก็จะเห็นร้านอื่นๆแนวๆนี้ก็ลองๆกันไปครับ
บันทึกการเข้า
มาที่ร้านซูชิเทพๆซักร้านนะครับ ร้านนี้ตอนแรกไม่ตั้งใจมา แต่พอดีร้านที่เล็งไว้ปิดเลยมาลองร้านนี้ซักหน่อย

ร้านนี้ชื่อว่า Shinsoko Sushi อยู่ที่สีลมซอย6 เข้ามาทางสีลมซอย6 หรือเข้าทางซอยทานตะวันที่ถนนสุรวงศ์ก็ได้ครับ เข้ามาจะเจอร้านสุกี้ Coca เข้ามาที่ซอยนั้นนิดนึงอยู่ทางซ้ายมือครับ




มาคนเดียวมุ่งสู่หน้าเคาเตอร์เลย ปลาที่นี่ดูดีมากๆ เชฟบอกว่าปลาเพิ่งเข้ามาใหม่ๆเลย (สถานที่จริงไม่มืดนะครับ พอดีปรับให้เห็นในตู้ชัดๆ)




เมนูที่นี่หลักๆเน้นซูชิ,ซาซิมิครับ พวกโรล แนวฟิวชั่นไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ส่วนราคาก็มาตรฐานครับ ไม่แพง ไม่ถูก






พอมานั่งก็จะวางผักกินเล่นกับน้ำสลัดให้ กับขิงดองและวาซาบิก็อยู่ในจานนี้




ร้านนี้ถ้าสั่งทีล่ะคำจะเสิร์ฟซูชิมาให้แผ่นหินบนชามน้ำแข็งเพื่อรักษาความสดของปลาไว้ครับ




คำแรกสั่งฮิราเมะ(100.-)มาลองก่อน เนื้อปลาสดมากครับ เนื้อใสมาก เนื้อแน่นอร่อยทีเดียว




ต่อด้วยฮามาจิ(100.-) ชิ้นใหญ่มากๆ เนื้อหวานมัน




อุนิหรือหอยเม่น (300.-) หน้าตาแบบคัสตาร์ดเลย สดมากๆ หอมหวานสุดๆ ยกให้เลยครับ




ดูกันชัดๆอีกซักรูป สีสันรูปร่างยอดเยี่ยมมาก




อานาโกะหรือปลาไหลทะเล(300.-) ที่นี่อานาโกะแพงกว่าร้านอื่นมากครับ แต่ด้วยขนาดชิ้นใหญ่และหนาของเนื้อนั้นก็สมราคาจริงๆ รสนุ่ม ซอสก็อร่อย แถมที่นี่จะบีบเลมอนนิดนึงตัดความเลี่ยนของปลาไหล เป็นอีกชิ้นที่ชอบมากครับ




โฮตาเตะ (100.-) ชิ้นใหญ่มากๆๆๆๆๆ เนื้อแน่นสด แจ่มๆ





มะได (100.-) ตอนแรกตอนที่วางมาจะยังไม่ได้ทำการย่างที่หนังนะครับ เค้าจะมาย่างที่จานเราเลย กลิ่นตอนย่างนี่หอมฟุ้งออกมา เพิ่มความน่ากินเข้าไปอีก




ไขมันปลาค่อยๆออกมา กินแล้วอร่อยละลายหายในปากเลยครับ




อากามิ (150.-) เป็นอากามิของญี่ปุ่นครับ ชิ้นใหญ่มากกกก เต็มปากเต็มคำสุดๆ






จูโทโร่(250.-) แต่สีสันลายมันสวยงามอย่างกะโอโทโร่เลยครับ




มาดูลายมันกันชัดๆ ก่อนที่จะวาบบบหายละลายไปในปาก




ตบท้ายล้างปากด้วย ทามาโกะ(40.-) อันนี้ตอนเสิรฟ์ก็เบิร์นให้นิดๆมีกลิ่นหอมครับ




ค่าเสียหายก็ตามนี้ครับ กินไป 9คำ กับชาร้อน 1 แก้ว ที่นี่คิด SC10% แต่ไม่มี Vat7& ครับ ซูชิที่นี่คำใหญ่มากๆ รสชาติอร่อยด้วย ถือเป็นซูชิร้านเด็ดอีกร้านเลยทีเดียวครับ



บันทึกการเข้า
ร้านนี้ดูจากรูปแล้วโอเคเลยนะ  เจ๋ง

น่ากินกว่าฮอนโมโนะและเผลอๆ จะดีกว่าไคเซ็นหรือเปล่า  น้องดำ
บันทึกการเข้า
ร้านนี้ดูจากรูปแล้วโอเคเลยนะ  เจ๋ง

น่ากินกว่าฮอนโมโนะและเผลอๆ จะดีกว่าไคเซ็นหรือเปล่า  น้องดำ

ผมว่าหอยเม่น อานาโกะ มะได ดีกว่าไคเซ็นนะครับ จูโทโร่นี่แล้วแต่วันครับผม

บันทึกการเข้า
มะได  กรี๊ดดดดด :หิว:
บันทึกการเข้า

There's only one "Jack Russell"
อ๊ากกกกกกก  โวย



คือแบบแต่ละอัน หิวง่ะ ฮือๆ
ที่จริงตะลุยกินในกรุงเทพฯ ก็พอนี่หว่า จะไปญี่ปุ่นให้เมื่อยทำไม
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ว๊ากกกกกก

ฮ่าๆ ฮือๆ
บันทึกการเข้า

nuugo.blogspot.com
instagram.com/nuugo
ร้านนี้เล็งว่าจะมานานแล้วครับ เพราะได้ข่าวว่าเป็นร้านที่มีบาซาชิ หรือซาซิมิเนื้อม้าขาย หลังจากที่ติดอกติดใจรสชาติเนื้อม้าจากคุมาโมโต้มาแล้ว

ร้านนี้มีชื่อว่า มุกิฮัง อยู่สุขุมวิทซอย 39 เข้ามาเรื่อยๆทางซ้ายมือจะมีซอยชื่อว่าซอยพร้อมมิตร (เป็นซอยที่ทะลุออกทองหล่อได้) มาเข้าแล้วสังเกตทางซ้ายมือจะมี อาคารที่ชื่อว่า พร้อมมิตรเพลส ร้านอยู่ที่ชั้น 1 ของตึกนี้ครับ
 





ร้านนี้ค่อนข้างกว้าง โถงพอสมควรครับ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นคนญี่ปุ่น






เมนูที่นี่จะแบ่งเป็น 3 ชุดครับ แยกตามประเภทอาหาร โดยของเด็ดทางร้านแนะนำจะเป็น โซบะเส้นสด และอุด้งทำเอง



และ 1 ในเมนูของร้านนี้จะเป็นภาษาญี่ปุ่นหมด!! ในนี้จะเป็นเมนูวัตถุดิบเฉพาะครับ จะมีหรือไม่มีแล้วแต่วัน เช่น เนื้อม้า เนื้อวาฬ ปลาอายุ เห็ดมัตสึทาเกะ ฟุกุ(ปลาปั๊กเป้า) ฯลฯ ถ้าอ่านไม่ออกไม่ต้องกลัวครับ ถามพนักงานได้เลยว่าอาหารพิเศษวันนี้มีอะไรบ้าง




เปิดด้วยอาหารประเภทกับแกล้มกินเล่นๆก่อนครับ กระหล่ำปลียัดไส้ (200.-)




ไส้ในเป็นหมูสับปรุงรสรสชาติเข้มข้นอร่อย เข้ากับซุปรสอ่อนๆได้ดีเลยครับ




ต่อด้วยเมนูทั่วๆไปอย่าง ซัมมะ ยากิชิโอะ หรือ ปลาซามะย่างเกลือ (180.-) ปลาตัวโตมากๆ




เมนูนี้เห็นแล้วอยากลองครับ มัตสึ จิราชิซูชิ เป็น จิราชิซูชิแบบพิเศษ (800.-) เครื่องเต็มๆเลย




มีเครื่องหลากหลายชนิดมากครับ ทั้ง มะได จูโทโร่ ซาบะ อิกะ อิคุระ อัดแน่นมาเต็มๆเลย รสชาติใช้ได้ แต่ก็ไม่ได้เว่อร์มากครับ แต่ถือว่าคุ้มค่าใช้ได้เลย










ต่อด้วยอาหารแนะนำของทางร้าน เอบิเทนเซย์โรโซบะ หรือ โซบะเย็นกับเทมปูระ (320.-) ที่นี่จุดเด่นคือ จะนำเข้าเมล็ดโซบะจากญี่ปุ่นจะโม่แป้งโซบะและนวดแป้งเองวันต่อวันเลย




เส้นสีสันจะเข้มมาก และเห็นลายผงโซบะชัดเจนมากๆ เส้นที่นวดมาก็เหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมของเมล็ดโซบะอีกด้วยครับ




เครื่องก็มีเนงิ ไชเท้าฝน และวาซาบิเอาไว้ปรุงรสน้ำซอส




มาที่ตัวเทมปูระบ้างครับ หลักๆจะมีกุ้งทอด 2 ตัว เห็ดชิตาเกะ มัน แครอท พริกหยวก ฟักทอง




ที่นี่ทอดเทมปูระออกมาสีเหลืองทองอร่อยดีครับ




ต่อด้วยอีกเมนูแนะนำของร้าน คิสุเทนซารุอุด้ง หรืออุด้งเย็นกับเทมปูระปลาคิสุ (220.-) อุด้งที่นี่จะเป็นอุด้งทำมืออีกเช่นกันครับ พนักงานบอกว่าต้องนวดถึง 3 ครั้งเลยทีเดียว




แต่ก็สมราคาคุยครับ เส้นอุด้งอร่อยจริงๆ เหนียวนุ่มมากๆ




เครื่องปรุงซอสของอุด้งจะเป็นขิงแทนวาซาบิครับ




ปลาคิสุก็อร่อยครับ แต่เนื่องจากเป็นปลาเล็กเลยมีก้างเล็กๆให้รำคาญใจบ้าง






ต่อด้วยเมนูที่ผมเล็งไว้สำหรับร้านนี้ บาซาชิ หรือซาซิมิเนื้อม้า (600.-)




วิธีกินก็จิ้มโชยุแล้วก็กินกับขิงกระเทียมและหอมใหญ่แล้วแต่ชอบเลยครับ




ผมจะเอาเนื้อบาซาชิจิ้มโชยุก่อน ใส่ขิงกระเทียวและหอมใหญ่ใส่ลงไป แล้วก็ห่อกินเลยครับ






เนื้อม้าที่นี่นำเข้าจากคุมาโมโต้เลยครับ เพราะเจ้าของเป็นคนคิวชู เวลากลับบ้านแต่ล่ะครั้งก็เอาเข้ามาด้วย ดังนั้นรสชาติเลยใกล้ๆกับกินที่คุมาโมโต้ แต่ข้อเสียของที่นี่คือเป็นเมนูที่นานๆมีคนสั่งทีเลยใส่เนื้อในช่องฟรีส พอเวลาลูกค้าสั่งค่อยเอาออกมาแล่ แล้วเนื้อก็จะแข็งติดน้ำแข็ง ดูไม่น่ากินสำหรับเมนูซาซิมิครับ

อีกเมนูที่หากินยาก อาระนาเบะ หรือ หม้อไฟปลาอาระ (500.-)




ปลาอาระก็คือปลาคุเอะครับ แต่สำหรับคนคิวชูจะเรียกว่าปลาอาระ ที่นี่เค้าจะนำเนื้อปลามาทำซาซิมิขายแล้วส่วนเนื้ออื่นๆก็ทำเป็นเมนูนาเบะแยกอีกทีครับ (ปลาปั๊กเป้าก็เช่นกัน)




การต้ม และตักนั้นพนักงานจะทำการทำให้เลยครับ เรามีหน้าที่รอกินเลย




สุกแล้วพนักงานก็ตักใส่ชามเราเลยครับ




จะไม่มีน้ำจิ้มนะครับ วิธีกินคือใส่เครื่องลงในชามเราแล้วราดพอนสึลงไปครับ




ตัวเอกของหม้อไฟครับ ปลาอาระ เนื้อแน่น หวานดี แต่ก็ไม่ถีงกับเว่อร์มาก เหมาะสำหรับคนอยากลองปลาแปลกๆมากกว่า




เต้าหู้ของร้านนี้ก็ทำเองนะครับ และทำขายส่งตาม ซุปเปอร์ระแวกสุขุมวิทด้วย




ตามธรรมเนียมการกินนาเบะของญี่ปุ่น เมื่อกินหมดแล้วน้ำซุปที่เหลือก็จะทำเป็นข้าวต้มครับ ปกติร้านอื่นจะคิดค่าข้าวกับไข่เพิ่ม แต่ที่นี่รวมอยู่ในเซ็ตแล้วครับ (หรือจะสั่งเป็นเส้นอุด้งก็ได้)




น้ำซุปที่ได้จากปลาอาระนั้นอร่อยมากๆ รสชาติเข้มข้น และหอมมากกว่ากินเนื้อปลาอีก





รวมๆร้านนี้ถือว่าประทับใจในเรื่องวัตถุดิบของญี่ปุ่นที่หากินยากในไทย ในราคาที่ไม่แพงมาก แต่รสชาติของอาหารนั้นค่อนข้างพื้นๆไม่โดดเด่นครับ ส่วนโซบะและอุด้งจุดขายของร้านนั้นอร่อยจริงๆ ใครชอบกินโซบะหรืออุด้งก็มาลองกันได้ครับ

บันทึกการเข้า
 หิวง่ะ ฮือๆ
บันทึกการเข้า

there are no regrets in life, just lessons . .
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8 9 10 11 ... 31
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!