ค่าย Blackmagic เป็นค่ายที่ทำ software ในการแก้สีที่โด่งดัง
ด้วยที่ค่ายแกทำงานแก้สีโดยเฉพาะเลยเข้าใจว่าถ้าแก้สีให้ดี ต้องมีเนื้อสีในภาพมาพอสมควร
ในสมัยก่อนเรามักจะถูกสอนว่าถ่ายอันเดอร์ไว้ก่อน แก้สีจะได้มีเนื้อ
นั่นเพราะว่าค่าสีที่กล้องดิจิตอลให้ได้อยู่ที่ประมาณ +-3 stop (ถ้าจำไม่ผิดนะ อาจจะแค่ 2 ด้วยซ้ำ)
ในปีที่แล้วพี่แกเลยทำกล้องมาขายเองแม่มเลย
นั่นคือ Blackmagic cinema camera ที่สามารถทำ Dinamic สีได้ 12-13 stop ในกล้องราคาประมาณแสนเศษๆ
การที่กล้องราคานี้ทำได้เท่านี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เจ๋งมากๆ เพราะค่าสี 12-13 stop ที่ให้ได้ส่วนใหญ่จะราคาไปอยู่ที่ครึ่งล้านซะส่วนใหญ่
ถึงแม้ว่าจะต้องแลกด้วยเซ็นเซอร์ที่เล็กชิบหาย (เล็กกว่า ไมโคร4/3 อีก)
แถมแบตเตอรี่ก็ต้องพ่วงนอก การรับค่าเสียงก็ดูวุ่นวาย
ซึ่งมันไม่สะดวกเอาซะเลย
แต่ค่าสีเนี่ยล่ะ ทำให้หลายๆคนยอมจ่ายเงินซื้อมา และก็อีเรื่องค่าสีที่ให้นี่อีกเช่นกัน เป็นการหักหน้าหลายๆค่ายที่ทำกล้องเทพราคาแพง
เหมือนเป็นการบอกกลายๆว่า ไงล่ะเมิง กั๊กดีนักใช่มั้ยสาด
เลยทำให้ราคากล้องเกรดเมพของหลายๆค่ายออกรุ่นเล็กหั่นราคาลงแทบทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็น canon sony หรือ Red เองก็ตามก็ลดราคากล้องลงเพียบ แถมออกรุ่นยักษ์เพื่อให้เกรดตัวเองยังคงอยู่เหมือนเดิม
และในปีนี้พี่แก้ก็ได้แก้ข้อเสียหลายๆอย่างลง
คลอด Blackmagic cinema camera 4k ในงาน NAB2013
ด้วยเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น ถ่ายได้ระดับ 4K หรือ 2160p (3840x2160)
แต่แบตยังเป็นระบบพ่วงแบตก้อนยักษ์อยู่นะ ส่วนเรื่องเสียงคงดีขึ้น
การเชื่อมต่อกันอุปกรณ์อื่นๆดีขึ้น
แต่ราคาอยู่ที่ 3999$ เหมือนตัวแรกที่เคยออกเมื่อปีที่แล้วเป๊ะ
รอดูว่ารุ่นใหญ่ๆจะทำอะไรต่อในปีนี้
shipping in july (ซึ่งจะเลทอีกหลายเดือนแน่นอน)
ปล กล้องภาพนิ่งของค่ายนี้ก็ออกนะถ่าย video ได้ sensor เป็น 4/3 สนนราคาที่ 30000 บาท แต่ถ่ายได้ 12 stop
(เหมือนอีอู๋จะโพสตัวนี้ไว้แล้วนะ)
