หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
 
ผู้เขียน หัวข้อ: -=- กระจู๋ลางสังหรณ์ -=-  (อ่าน 30312 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
อันนั้นมีสังหรณ์ว่าจะรุ่ง  หยี หลังแต่งงาน
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
ลางสังเห่า  น้องดำ
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>
ถ้าเป็นพี่ถลอกคงมาบอกว่ามี Sex Sense  น้องดำ

โคตรจะไม่มีเลย  ไม่ล่ะ
บันทึกการเข้า

ทำไมช่วงนี้ไปจู๋ไหนก็เจอแต่ชื่อตัวเองฟระ  ฮ่าๆ ฮือๆ
บันทึกการเข้า

สนใจท่ออุตสาหกรรม​ เลือก DragonFlex นะจ้ะ​จุ๊บๆ​
เป็นไอเด้าของทุกคนไง กร๊าก
บันทึกการเข้า

แล้วก็ตามเข้าไปตอบทุกที่เลยนะ กร๊าก
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ช่วงนี้กลัวความคิดตัวเองเวลาขับรถ

เวลาเจอพวกผ่าไฟแดง หรือชอบเบียด
นี่แม่งอยากชนกันให้มันรู้เรื่องไปเลย

บันทึกการเข้า

i'll walk until i find u.
เหมือนกัน
บันทึกการเข้า

ต๊กต๋าเปิ้นเป๋นดีไค่หัว ต๊กต๋าตัวเป๋นดีไค่ไห้
เป็นเหมือนกัน เมื่อก่อน โดนปาด โดนแซงซ้าย จะต้องรีบเอาคืน ไม่ไปปาดคืนก็ขับไปจี้ตูด เต๊าะไฟใส่

หลังๆ ดูข่าวแล้วคนมันดุขึ้นวุ้ย เอะอะยิงๆ เลยใจเย็นๆ ลง ใครจะแซงก็ปล่อยมันไป แตรนี่ไม่ได้ใช้มานานละ


อารมณ์หมั่นไส้ แค้นยังมีอยุ่ แต่กลัวตาย   ฮ่าๆ ฮือๆ
บันทึกการเข้า

อืมมม...
ผมว่าอารมณ์แค้นหรืออยากเอาคืน คงมีกันทุกคน
บางคันแบบแซงซ้ายตรูไป สุดท้ายมันจะ มันจะตบเข้าขวา
ผมงี้ ขับจี้คันหน้าเลย ไม่ให้มีช่อง อย่าหวังได้เข้า  กร๊าก

เล่าลางสังหรณ์บาง
ปรกติเป็นคนขับรถอย่างเดียว
ล่าสุดสองเดือนก่อน ขับรถมาทำงานปรกติ
ขากลับแวะรับแม่ที่ตลาดนัดเมืองใหม่(นินจา)ชลบุรี
วิ่งมายังไม่พ้นแยกไฟแดงคีรี
ได้ยินเสียงกึกๆ เหมือนอะไรตีบังโคนล้อหน้า
ปิดเพลงเปิดกระจกอีกหน่อย วิ่งแล้วฟังเสียงอีกทีซิ
ยังได้ยินอยู่ ก็เลยจอดข้างทางแล้วก้มไปดู
พอก้มมอง เลยร้องเรียกแม่เลยว่า
"แม่ ล้อโดนเหล็กอะไรไม่รู้ตำ เป็นแนวยาว รอบวงล้อหน้าเลย"
โทรหาช่างส่วนตัว ไม่ติด
โทรหาพ่อ พ่อบอก มันยังวิ่งได้ป่าว ถ้าไม่ได้ เปลี่ยนยางอะไหล่เลย (แม่แรงผมมี เคยเปลี่ยนครั้งนึงบนมอเตอร์เวย์)
สุดท้ายตัดใจเปลี่ยนดีกว่า
แต่ใจคือ มันน่าจะวิ่งได้ แม่บอกให้วิ่งช้าๆ

วันรุ่งขึ้นเอาไปเข้าอู่
อู่บอกว่า ถ้าน้องฝืนขับ มีหวัง#$%#@%$# แน่
เพราะว่า ล้อมันกินยางจนด้านข้างของยางมีโครงเหล็กโผล่ออกมาหมดแล้ว
พูดง่ายๆ ดอกยางมันโล้นไปข้างนึง อีกฝ่ายนึงยังเต็มอยู่
อีกฝั่งมันโล้นจนขอบๆ โครงเหล็กมันโผล่ออกมายาวเฟื้อย
ผมก็นึกว่าวิ่งทับลวด หรืออะไรงี้


จากรูป ยางผมโล้ดจากลูกศรบน ยันลูกศรล่าง
แล้วมีเหล็กๆ ทิ่มออกมาเต็มเลย  อี๋~

หลังจากนั้นมาดูตลอดเลยนะ รถกินยางไหม ขับปล่อยมือแล้วเป๋ไหม
เสียศูนย์ไหม เสียศูนย์ไปตั้งศูนย์เลย ยอมเสียตัง  กร๊าก
บันทึกการเข้า

เสียศูนย์ไปตั้งศูนย์เลย ยอมเสียตัง  กร๊าก

ไม่ยอมก็แปลกแล้ว ก็มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเสียนิ่  กร๊าก
บันทึกการเข้า
เห็นช่างเขาก้มไปไขไข เลยว่าจะทำเองมั่ง
พอก้มลงไป ขันน็อตตัวไหนดี  ฮ่าๆ ฮือๆ
บันทึกการเข้า

ที่บ้านมีเครื่องตั้งศูนย์รึไง  กร๊าก
บันทึกการเข้า
เล่าด้วยๆ
ตอนเด็กๆ เป็นคนที่ลางสังหรณ์แม่นมาก ในด้านร้ายเท่านั้น และเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ด้วย
มันจะไม่มาเป็นรูปธรรมแบบไอ้นั่นตกไอ้นี่หล่นนะ แต่ของแอ้จะเป็นแบบ ไม่สบายใจ กระวนกระวาย
เสียวสันหลังวาบๆ แบบรู้เลยว่าตูซวยแน่ๆ

๑. ขโมยรองเท้า

ตอนอยู่ ม. ปลาย เกลียดโรงเรียนมาก เกลียดขนาดที่ทุกวันนี้ไม่ยอมกรอกข้อมูลอะไร
เกี่ยวกับโรงเรียนสตรีใหญ่โตประจำจังหวัดนครราชสีมาที่ชื่อเสียงดีมากๆ โรงเรียนนั้นเลย (มันเฟคทั้งโรงเรียน)
สมัยนั้นบ้านอยู่ไกลโรงเรียนมาก ไปถึงแต่เช้าตรู่ทุกวัน  เพราะรถที่ไปได้มีอยู่ ๒ เที่ยว ไม่เช้าก็สายไปเลย ชีวิตไม่มีทางเลือก
วันนั้นก็ไปถึงโรงเรียนเช้ามากๆ เหมือนธรรมดา แต่อาการมาแล้วคือกระวนกระวาย รู้สึกย่ำแย่ แต่ไม่ได้คิดอะไร
เพราะสองปีที่เรียนที่นั่นก็ไม่มีวันไหนที่รู้สึกดี (ขอแม่ลาออกตลอดเวลา แม่ไม่ยอมให้ออก)
โรงเรียนตอนนั้น จำไม่ค่อยได้เรื่องการจัดห้องเรียน แต่มันคล้ายๆ กับว่า เราไม่มีห้องประจำ
ต้องเข้าไปทำเวรทำความสะอาดห้องแรกที่เรียนตอนเช้า ซึ่งมันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ก็ขึ้นไปที่ห้องคนเดียวเพราะยังไม่มีใครมา เจอรองเท้านักเรียนหญิงคู่หนึ่ง วางอยู่ใต้เก้าอี้หินอ่อนหน้าห้องเรียน
มองหาเจ้าของรองเท้าเท่าไหร่ก็ไม่เห็น ช่วงนั้นที่โรงเรียนมีเรื่องขโมยเยอะมากๆ ก็ห่วงกลัวรองเท้าจะหาย
อยากได้ความดีความชอบด้วยแหละ เลยหิ้วไปส่งห้องปกครอง ตามปกติ เก็บของตกได้ ส่งปกครอง เขาก็จะชื่นชม ก็หวังไว้อย่างนั้น

ปรากฏว่าคุณครูที่แสนดี ผู้เป็นที่เคารพรักของนักเรียน (ตูแดกดัน)
หวีดขึ้นมาเลยว่า แอ้เป็นหัวขโมย แล้วกักตัวไว้สอบปากคำอย่างเอิกเกริก ครูคนอื่นมาดูกันเยอะแยะ
รุมถามเหมือนเราเป็นฆาตกร

เธอขโมยไปแล้วเกิดกลัวเลยแกล้งเอามาส่งคืนใช่ไหม

ตอนนั้นเป็นเด็ก ก็ได้แต่นั่งตัวสั่นด้วยความตกใจ
ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้จะแจ้งความฐานหมิ่นประมาท แล้วจะไม่ยอมความจนกว่าคดีจะสิ้นสุดด้วย
ครูทำทุกอย่าง ถ้าทรมานเอาคีมมาบีบนิ้วได้คงทำไปแล้ว คือครูเสียหน้าไปแล้วที่เอาเรื่องผิดตัว
แต่ก็ไม่ยอมแพ้ไง ถ้ายอมก็หน้าแหก ก็เลยนั่งด่าอยู่นั่น เป็นชั่วโมงๆ

แอ้ยื่นตีนให้ครูดู บอกว่ามันคนละเบอร์กันค่ะ (รองเท้าตูใหม่เอี่ยมด้วย)
อีครูบอกว่า เธอมันเพื่อนโจรสินะ เพื่อนเธอคงฝากเธอมาคืนล่ะสิ บอกมานะเพื่อนเธอคนไหน

วันนั้นกว่าเรื่องจะจบลง ครูอีกคนที่รู้จักแม่แอ้ เดินเข้ามา แล้วบอกว่านี่ลูกอาจารย์นะ
เขาถึงได้ยอมเลิกรา จริงๆ อยากให้ต่อสายหาแม่ แล้วลาออกแม่งตรงนั้นเลย
หลังเหตุการณ์ร้ายๆ ผ่านไป ไอ้อาการกระวนกระวายก็หายหมด
เลยรู้ตัวตอนนั้นว่าเป็นคนมีลางสังหรณ์
ไว้จะมาเล่าเรื่องอื่นต่อ มีอีกสองสามเรื่องค่ะ
ก่อนที่เซนส์จะหายไปหมด  กร๊าก   

บันทึกการเข้า

กระโดดแฮ้ปครูคนนั้นไปเล้ย  หยี
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!