หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ครอบครัว / งาน / เพื่อน / ตัวเอง  (อ่าน 20510 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ของผม  ณ เวลานี้นะความสำคัญจะเป็น   เพื่อน-คนรู้ใจ / ตัวเอง /ครอบครัว / งาน

เพื่อนมาก่อน มีใครชวนไม่ลำบากมากกับอยากไป ไปไหนไปกัน ขอให้บอก
กินข้าวตอนกลางวันก็ อิงมติส่วนใหญ่ เพื่อนไปไหนเราไปนั่น มันกินได้เราก็กินได้
ติดเพื่อนซะมากกว่า ไม่ค่อยชอบอยู่คนเดียว แต่บางทีมีปัญหาเรื่องการกินข้าว
อ้าวไปกินกับเพื่อน ก็ไม่ได้ไปกินกับคนรู้ใจอีก สลับไปสลับมา มีงอนด้วย  ฮ่าๆ ฮือๆ

แบ่งเวลาให้ตัวเองบ้างหลังจากเหลือจากนัดสังสรรค์กับเพื่อนๆ เล่นเน็ต ดูหนัง ไปออกกำลังกาย

ครอบครัวถือเป็นรองสุดท้าย เพราะว่าตอนนี้พักอยู่ที่บ้าน เบื่อกับการนอนซังกะตายอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมที่เรียกว่าหอ ห้องพัก ห้องเช่า
อยู่บ้าน อย่างน้อยไปเที่ยวกับครอบครัว กินข้าวพร้อมหน้ากันทุกตอนเย็น มีหลานมาคอยป่วน มีลูกพี่ชายมาคอยสร้างความลำคาญใจแต่ก็เด็กอ่านะ

งานตอนนี้ พอเข้าการไฟฟ้าแล้ว หลายๆ อย่างเข้าสู่จุด ปลงปลง
เหมือนเข้าลูปราชการ ทำงานมากทำงานน้อย ปรับเงินเดือนก็ได้ประมาณค่ามาตรฐานอยู่ดี
เพราะว่าฐานเงินเดือนเราน้อย อีกอย่าง ทำดีเกินไปเจอคนเหม็นขี้หน้า เด่นเกินไปคนหมั่นไส้
ทำงานเสมอตัว ทำไปวันวัน เช้าทำงานเย็นกลับบ้าน ไม่เอางานกลับมาคิดให้ปวดหัว
เพราะทุกวันนี้ ปวดหัวกับเรื่องหัวใจก็พอแล้ว  เศร้า

คงเป็นแบบนี้มัง
บันทึกการเข้า

ถ้าเรียงตามความสำคัญในใจ
ยกครอบครัวให้เป็นที่หนึ่งเสมอนะ
คิดว่าประมาณนี้ ครอบครัว>ตัวเอง>เรียน>เพื่อน
ค่อนข้างเป็นคนสันโดษนะ คนรู้จักเยอะ แต่เพื่อนน้อย
ไม่รู้เราไม่ค่อยสุงสิงกับใครหรือเพื่อนไม่คบ กร๊าก
มีความสุขดีกับการอยู่กับตัวเอง ทำกิจกรรมก็แบบไปลุยเองเลย เพื่อนหาเอาข้างหน้า

แต่ถ้าเรียงตามเวลาที่ใช้ไปจะเป็นแบบนี้
เรียน>ตัวเอง>ครอบครัว>เพื่อน ฮือๆ~

ซึ่งก็คง อาจจะเป็นแบบนี้ไปจนกว่าจะเรียนจบ
หรือไม่แน่ก็อาจต้องเป็นแบบนี้ไปทั้งชีวิต
ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจแหละ แต่ก็แอบท้อบ้างเหมือนกัน
โดยเฉพาะช่วงที่เจอข่าวแย่ๆ เกี่ยวกับอาชีพตัวเอง
ที่กำลังจะกลายไปเป็นผู้ขายบริการทางสาธารณสุขในสายตาคนอื่นมากขึ้นทุกทีๆ

อีกอย่างคือช่วงนี้เปราะบางมาก ใจมั่นเริ่มไม่มั่นคง
รู้สึกว่าสิ่งที่เป็นหลักให้เรายึดหนี่ยวมันน้อยลง มันสั่นคลอน
ปกติแล้วโลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ไม่สนหรอก
เพราะสิ่งหนึ่งที่มั่นใจว่าจะไม่เปลี่ยนแน่คือ ครอบครัว
โลกมันเลวร้ายแค่ไหน กลับไปบ้านก็อุ่นใจ กลับไปบ้าน ก็ยังเป็นบ้าน
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว สมาชิกในบ้านจากสี่ เหลือแค่สามคน
เป็นการจากไปแบบที่ยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนเลย
ตอนนั้นนึกอยากให้โลกแม่งรีบๆ แตกไปซะ จะได้ตามไปอยู่ด้วยกันให้พร้อมหน้า
แต่จนทุกวันนี้ก็ยังต้องอยู่รอดปลอดภัยดี ใช้กรรมต่อไปสินะ

ปีนี้เป็นปีที่เจอความสูญเสียพลัดพรากมากจริงๆ เป็นคนใกล้ตัวทั้งนั้น
วันนี้คนใกล้ตัวอีกคนก็เพิ่งมาด่วนจากไป เป็นอาจารย์ที่สอนเมื่อปีที่แล้ว
เป็นคนตลกมาก น่ารักมาก ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าอาจารย์ป่วยจนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง

บางทีก็มาหยุดคิด เออ นี่เราถึงวัยที่ต้องพบเจอกับเรื่องแบบนี้แล้วเหรอ
คนรุ่นพ่อแม่เรา ถึงเวลาที่ต้องจากไปกันแล้วเหรอ
พอคิดแบบนี้แล้ว ยิ่งอยากกลับไปให้เวลากับครอบครัวให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก

ถ้าอีกหน่อย ถึงวันต้องทำงานไปทำงานไกลๆ
ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะปรับสมดุลชีวิตตัวเองได้ยังไง
จะมีเวลานอกเหนือไปจากงานมากแค่ไหน
แต่พอถึงเวลานั้น ก็คงจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้วมั้ง
ตอนนี้ก็พยามทำสิ่งตรงหน้าให้ดีที่สุดไปก่อน
พยามเข้มแข็งมากขึ้นไปก่อน

บางทีก็นึกอยู่เหมือนกัน
ว่าเรากำลังหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่าว่าเราเข้มแข็งพอ
แต่จากที่ผ่านมา ก็คิดว่าค่อนข้างโอเคแล้วแหละ
ทุกอย่างมันก็คงค่อยๆ ดีขึ้นเอง

รู้สึกเหมือนเขียนระบายใจมากกว่าแฮะ
บันทึกการเข้า

ขอบคุณประสบการณ์ของทุกคนครับ
ของตู ตอนนี้เวลา 24 ชั่วโมงใน 1 วัน จะได้เจอเมียก็ตอนหลับเท่านั้นเอง กร๊าก
นอกนั้นเวลางานเกินวันละ 10 ชั่วโมงแน่ๆ อะ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ชอบกระทู้นี้แหะ เหมือนปลุกเราตื่นจากอะไรบางอย่าง

มากกว่า งาน เงิน ฯ

จะเล่าอะไรยาวๆหน่อยละนะ ปกติไม่ค่อยได้เล่ายาว
เรื่องลำดับความสำคัญ  ครอบครัว (แม่) > งาน > แฟน > ตัวเอง > เพื่อน

ให้ความสำคัญกับครอบครัวมากกว่างาน เลยย้ายมาอยู่พัทยาจุดประสงค์หลักคือดูแลครอบครัวนี่แหละ
ถึงแม้เหมือนจะไม่ได้มีประโยชน์เท่าไหร่ อย่างน้อยก็โทร. เรียกรถพยาบาลได้

รองมาเรื่องงาน ก็ทำงานเคเบิ้ลทีวีมานาน จนลาออก แล้วก็มาเปรี้ยวทำบริษัทกับเพื่อน
ถูกโกง เปลี่ยนไปทำเว็บ ขายของแฮนด์เมด ขายเหล้าบุหรี่ นายหน้า จนมาขายเสื้อ
ยกให้งานมากกว่าตัวเอง เพราะช่วงที่ทำแทบเป็นคนบ้าเลย ไม่กิน ไม่นอน

พอมีเวลา ปั่นๆงานได้หน่อย ก็ไปหาแฟน
ให้เวลาเค้ามาก เพราะเค้าทำงานประจำไม่สามารถไปไหนมาไหนตามใจได้เหมือนเรา

ให้ความสำคัญกับตัวเองตรงที่ไม่ทำงานที่ไม่อยากทำ แค่นั้น
อย่างอื่นยังไงก็ได้

อันดับสุดท้ายคือเพื่อน สอดส่องพฤติกรรมกันและกันทาง fb นานๆกว่าจะเจอสักที
แต่อกหักเมื่อไหร่ ไปหาเพื่อนก่อนเลยนะ  แป่ว


ข้างบนนี่คือ สิ่งที่เราคิดว่าเราเป็นนะ


แต่ตอนนี้เหมือนคนรอบข้างจะบอกว่า เราให้แฟนมากกว่าทุกอย่าง

ไปหาบ่อยๆ นานๆ และมีความคิดจะย้ายไปอยู่สมุทรสงครามด้วย
แต่ความคิดที่จะย้ายไป คือชวนให้ครอบครัวไปด้วยนะ ขายบ้านที่นี่แล้วย้ายไปอยู่โน้นดีกว่า
เมืองน่าอยู่ อากาศดี ปลอดภัย สงบ โรงพยาบาลดี อาหารอร่อย ค่าครองชีพต่ำกว่า และแฟนเราจะดูแลครอบครัวเราได้

ส่วนเราสิ่งที่ทำอยู่ ทำที่ไหนก็ได้ไม่เกี่ยง ขอแค่มีเนตกับไปรษณีย์
ขายของได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็เกาะแม่กินไปก่อน ชีวิตไม่มีความั่นคงใดๆเลย
แต่อยากให้ครอบครัวมั่นคงก่อน ทำงานเงินเดือนเยอะ แต่ต้องนั่งห่วงคนที่บ้านตลอด ไม่สนุกเลย
เรื่องงาน เงิน มันของนอกกายค่อยหาเอา

บันทึกการเข้า
ขอบคุณประสบการณ์ของทุกคนครับ
ของตู ตอนนี้เวลา 24 ชั่วโมงใน 1 วัน จะได้เจอเมียก็ตอนหลับเท่านั้นเอง กร๊าก
นอกนั้นเวลางานเกินวันละ 10 ชั่วโมงแน่ๆ อะ
สรุปว่าความรู้นี้ไม่ได้ใช้ :47
http://bow.iannnnn.com/sex-during-pregnancy
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
fuc yea
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
อัดอั้นสินะ อ๊าง~
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
อึ๊บก่อนทำงานกลางคืนซิ เหลือบ
บันทึกการเข้า

กาก
 fuc yea
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
งาน(ปนตัวเอง)>ครอบครัว(เน้นลูกเมีย)>เพื่อน

ทำงานเป็นหลัก พร้อมอู้งานมันตลอดเวลา งงมะ  กร๊าก
มันมีการปั่นงานแบบแข่งกับเวลาอยู่นะ แต่งานปกติมันเป็นงานคิดที่อู้ตลอดเวลาได้น่ะ
แถมช่วงนี้เอาความชอบส่วนตัวมาปนกับงาน  กร๊าก
( 5 มหานิยม SNSD, ฉากก็เอา ref มาจาก MV the boys, เปิด 10 pretty ก็เอา the boys เปิด
แถมกำลังดันรายการใหม่ที่จะต้องไปต่างประเทศให้มี project "SM K-pop superstar" ด้วย  กร๊าก
นี่เป็นวิธีที่ดูดีอย่างนึงนะ เอาตัวเองมาหลอมเข้ากับสิ่งที่ต้องทำ หรือ มีความสุขกับงาน
เว้นแต่เรื่องสุขภาพที่แม่ม แย่เอามากๆ  ฮือๆ~

ครอบครัวก็คงต้องลูกเมียแหละ พ่อแม่พี่น้องบ้านตูมันมีลักษณะดูกันอยู่ห่างๆ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ส่วนเพื่อน..ก็คงมีอยู่แถวนี้กับในเฟส  กร๊าก กร๊าก
สังสรรค์กันน้อยนะ เริ่มหมดแรงกันละ แถมไม่ค่อยมีอิสระภาพ  น้องดำ

ซึ่งที่จริงเป็นการจำกัดตัวเองมากกว่า


แต่สมดุลย์ที่ว่ามานี้ กำลังถูกปรับเปลี่ยนอยู่อย่างแรง...เอาไว้ถึงเวลาจะเล่าให้ฟังละกัน
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>
หูย มีตอนต่อไปด้วยยยย หมีโหด~ อยากอ่านแย้ว
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
เรื่องใหญ่ เอาไว้ซักพัก เรียบเรียงอยู่ว่าจะเล่ายังไง หมีโหด~
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>
ตูล้มเหลวในเรื่องนี้มาก
ไม่เคยทำให้ทุกอย่างสมดุลได้เลย  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า
พยายามที่จะ ....ครอบครัว/ตัวเอง/งาน/เพื่อน

ลูกกำลังโต เลยเน้นเรื่องครอบครัวมากหน่อย ไปไหนไปด้วยกัน ทำอะไำรด้วยกันตลอด
แม้กระทั้งไปไซท์งาน ก็พาไปเล่นกองดินกองทราย

ตัวเองกับงาน ยังสับสนๆ อยู่นิดๆ คือมันมีบางจังหวะที่เบื่อกับงานที่ทำมากๆ
เบื่อที่จะต้องไปคุยกะผู้รับเหมางี่เง่า คุยเรื่องฮั้วงาน จ่ายใต้โต๊ะ อะไรเงี้ย ไม่จรรโลงใจเลย
บางครั้งก็พร้อมที่จะหนีกลับไปทำงานที่ชอบอีกครั้ง
..แต่ คิดถึงลูกน้องที่อยู่กับบริษัทมา 10 กว่าปี เค้าจะทำอะไรต่อ ถ้าเราหนีไป
เลยต้องทำต่อ บังคับตัวเองให้รักงานที่ทำ

และสุดท้ายก็เพื่อน..เป็นอันสุดท้าย แต่ขาดไม่ได้นะ นานๆเจอกันทีก็เติมพลัง เติมแรงบัลดาลใจให้เราได้
บันทึกการเข้า
ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ตัวเองชัดๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!