นั่นล่ะ ถึงสงสัยว่าอะไรนับเป็นการตลาดมั่ง

อยากเห็นหัวข้อที่เค้าเคยทำๆ กันมาอะ

งั้นต้อง
- มีคนขาย
- มีคนซื้อ
- มีสินค้า
ประมาณนี้ป่ะครับ

ตอบตอนนี้ยังทันมั้ย?

การตลาดมันเป็นอะไรก็ได้ไม่จำเป็นต้องมีคนซื้อ คนขาย มีสินค้า
คือไอ้ที่มีคนซื้อ คนขาย มีสินค้าทั้งแบบจับต้องได้และจับต้องไม่ได้ มันเป็นนิยามการตีกรอบให้เป็นเป็นรูปธรรมน่ะ

ลองมาดูว่าการตลาดมันเกิดจากอะไร?

มันเกิดจากความต้องการ (need=จำเป็น. want=ต้องการ, desire=ปราถนา,อยาก)

แล้วในโลกใบเนี้ยคนดันกำหนดตัวเงินขึ้นมาใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน
มันเลยเกิดคำว่า demand (ความต้องการแบบมีกำลังในการซื้อ)

พอมีความต้องการปั๊บ คนเราก็จะหาทางสนองความต้องการก็ผลิตนั่นนู่นนี่ออกมาสนองความต้องการ ไอ้นั่นนู่นนี่ก็คือสินค้าหรือบริการ

จะอธิบายยาวไปไหนครับ ตบเข้าเรื่องเลยดีกว่า

ขอยาวต่ออีกหน่อยนึงดิ

ทีนี้ในโลกของการผลิตบางคนแม่มไม่สนหรอกว่าคนเขามีความต้องการจริงหรือป่าว ดูแค่ว่าตูทำไอ้นี่เป็นกูจะทำอ้ะ
เช่นว่า กูเป็นเจ้าของลัทธิ "ชิงหมาเกิด" ต้องการขยายอนาจักรให้คนมาอยู่ในลัทธิตูได้มากที่สุด หรือตูจะเอาลัทธิชิงหมาเกิดเข้าครองโลก

อันนี้เรามองเป็นว่ามีSupply แต่ยังไม่มีdemandมาสนอง ทีนี้ทำไงดี? เรียกกันง่ายๆว่าทำไงให้ขายได้? ขายไม่ออกตูเจ๊งนะ ขายขี้หน้าประชาชีฉิบหายเลย

คำตอบคือ การตลาดช่วยคุณด้าย(อ้ายๆๆๆๆ)

ช่วยยังไง

ก็ไปกระตุ้นต่อมให้คนมันอยากสิเดี๋ยวคนมันก็วิ่งหาเอง คนเราน่ะโรคจิตชอบไหลตามกระแสชอบอุปทานหมู่ บางทีไม่ได้อยากมีอยากเป็นหรอก พอเห็นคนอื่นเขามีเขาเป็นเลยอยากมั่ง บางคนมีneed มีwant แต่ไม่มีตังค์(ไม่มีdemandเพียงพอ) อีนักการตลาดชั่วร้ายก็จะมีข้อเสนอมายั่วมันอีก ดาวน์น้อยผ่อนสบายเจ็ดชั่วโคตร....โอ้ว ชาบูๆ มนุษย์โลกทั้งหลายจงตกเป็นทาสของการตลาด
หมายเหตุ..... ลองดูการตลาดของธรรมกายสิของเขาไม่ธรรมดาเลยนะ
ปล. ถ้าตูเป็นอาจารย์ นร.คนไหนที่ไปลอกมาจากแม็กกาซีนการตลาดทั้งหลาย แบรนด์อ่งแบนด์เอจ มาร์เก็ตเทียไรเทือกนั้นตูจับกดคะแนนก่อนเพื่อนเลย....แต่ถ้าเอาข้อมูลที่มีไปแตกต่อยอดอีกทีค่อยน่าสนใจ