หน้า: [1] 2
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ความดีคืออะไร?  (อ่าน 10404 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
 สวัสดีครับ ผมชื่อ นาย อัครวุฒิ ไกรขจรกิตติ ครับ เป็นนิสิตเอกกราฟฟิคดีไซน์ และ โฆษณา ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยบูรพาครับ
    
     ขณะนี้ผมได้เริ่มทำวิทยานิพนธ์ เรื่อง "โครงการออกแบบเรขศิลป์ สื่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีของคนในสังคม ให้กับเครือข่ายพลังบวก" ครับ จุดมุ่งหมายของโครงการ คือ  ใช้สื่อสิ่งแวดล้อมเป็นตัวเสริมสร้างความดีให้แก่คนในสังคมครับ แต่ตอนนี้ผมกำลังติดปัญหาเรื่องการตีความ "ความดี" ให้เป็นรูปธรรมเพื่อมาใช้เป็นข้อมูลในการออกแบบครับ
    
     ผมเลยอยากรบกวนเวลาพี่ๆสักนิดครับ ผมอยากถามความเห็นครับว่า ความดีในสังคมไทยประเภทไหนครับ ที่ต้องการการสร้างเสริมให้เติบโต เป็นประเด็นเร่งด่วนครับ


ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ธ.ค. 2011, 17:41 น. โดย Atom110 » บันทึกการเข้า
อื้อหือ.. คำถามกว้างมวาาาาาก ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
ทางผู้วิจัยเห็นว่าเป็นยังไงครับ เรามาถกกัน
เรื่องนี้น่าจะสนุก เจ๋ง

แนะนำว่าให้เปลี่ยนหัวข้อกระจู๋เป็น "ความดีคืออะไร"
จะดึงดูดคนที่อยากตอบเข้ามามากกว่าแบบปัจจุบัน(ที่คิดว่าสแปม)ครับ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ขอบคุณครับพี่แอน

     โดยส่วนตัวที่ผมนั่งงงๆอยู่นะครับ ผมคิดว่าความดีบางครั้งก็ใกล้เคียงกับสามัญสำนึกขึ้นอยู่กับบริบทต่างๆครับ เช่น การทิ้งขยะให้ลงถังจริงๆแล้วน่าจะเป็นสามัญสำนึก แต่ในเมืองไทยตอนนี้อาจกลายเป็นความดีไปแล้ว
     ผมพยายามจะคิดแบ่งความดีให้มีหลายระดับครับ เช่น ความดีพื้นฐาน ความดีขั้นกลาง(ยังหาคำไม่ได้ครับ) ความดีขั้นกว่า(แบบเสียทรัพท์เสียแรงลงไปลุยครับ)
    หลังจากที่ผมเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆจะพยายามจัดหมู่ให้ได้ครับ แล้วสรุปว่าควรไปจับเรื่องไหน แล้วลุยทำงานออกมาครับ

ขอบคุณที่สละเวลาครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ธ.ค. 2011, 17:52 น. โดย Atom110 » บันทึกการเข้า
โอ้ เป็นหัวข้อที่เจ๋งอ่ะ กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

เครือข่ายพลังบวกด้วย โอ้ น่าสนุก เจ๋ง

เคยไปดูงานนรกพลังบวกของ อ.ประชา สุวีรานนท์ไหมครับ
ที่จัดไม่กี่เดือนก่อน ผมว่านั่นคือการจำกัดความที่ผมรู้สึกต่อ
วิธีการจำกัดความความดี บนวิธีคิดของเครือข่ายพลังบวกได้ชัดมาก กร๊าก
(คืออ.ประชาแกทำเป็นการเสียดสีนั่นแหละ)

คำถามนี้มันกว้างแะลไกลมาก เราสามารถคุยกันได้หลายร้อยประเด็น
แต่ถ้าสำหรับการทำงานและมีอาจารย์คอยตรวจทีสีสแบบนี้
ก็ต้องมาดูว่าตัวองค์กรที่เราทำให้นั้น จำกัดความคำว่าความดีในลักษณะไหน จะได้แคบลง กร๊าก
เครือข่ายพลังบวกนี่ จำกัดความง่ายมาก คือความดีเฉพาะหน้า
ความดีที่ผูกกับระดับจริยธรรมพื้นฐานที่มองเห็นได้ด้วยตาทั่วๆไป
แล้วจริงๆ งานออกแบบก็มักจะนำเสนอได้แค่มิติตื้นเท่านี้แหละ

เช่น ตอนที่มีวิกฤติการเมือง ก็เสนอประเด็นว่าเราต่างทำร้ายกันและกัน
เพราะงั้นให้หันมาตั้งคำถามว่า เราทำร้ายกันไปทำไม ประเด็นคือ "ตั้งสติ หันมามองตนเอง หยุดความรุนแรงตรงหน้า"
และเปลี่ยนความรุนแรง ความเศร้า ความเกลียดชังทุกอย่างให้เป็น"พลังบวก-มองโลกในแง่ดี"
เพื่อเอาพลังมาทำสิ่งดีๆแก่สังคม

แอบอ้าง
มองนรกในแง่ดี

Bright Sided Hell: A Positive Thinking Guide

 

หลายปีที่ผ่านมา “มองโลกในแง่ดี” กลายเป็นแนวคิดที่นักพูดในทีวี นักเทศน์บนเฟซบุ๊ก และนักเขียนหนังสือ self-help พากันสดุดีราวกับเป็นธรรมะหรือทางไปสู่นิพพานของสังคมไทย มันสามารถเอาชนะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องการลดความอ้วน คบหาเพื่อนฝูง หาทางร่ำรวย การเผชิญหน้ากับโรคร้าย  ความแก่ชรา รวมทั้งวาระสุดท้ายของชีวิต

 

หลักการข้อแรกคือ ปัญหาต่างๆ แก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนทัศนคติ หรือเชื่อว่า “สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ” ยกตัวอย่างเช่น มะเร็งเป็นโรคที่รักษาได้ถ้าตั้งใจจะรักษา ข้อที่สอง การเปลี่ยนทัศนคติที่ว่านี้ เป็นเรื่องของทักษะที่ฝึกปรือกันได้เหมือนหัดตีปิงปอง ข้อที่สามคือ สิ่งที่เราอยากได้อยากมีจะมาถึงเอง ถ้าฟูมฟักความเชื่อนี้อย่างจริงจังและอดทน เช่นเขียนชื่อสิ่งที่ต้องการปะไว้บนเพดาน ตรรกะวิปริตของลัทธินี้คือ ถ้าอยากแก้ไขเปลี่ยนแปลง จงพอใจในสิ่งที่ตนมี เมื่อหยั่งรากลงไปในสังคมไทย แนวคิดนี้ก็กลายเป็นระบบศีลธรรมที่โยนบาปกลับไปให้ผู้เป็นเหยื่อ และถูกใช้เพื่อกำหราบการแข็งข้อ หยุดยั้งการเปลี่ยนแปลง และกระทั่งสกัดกั้นการตั้งคำถาม

 

แนวคิดนี้ช่วยกลบเกลื่อนและกดดันความขุ่นข้องหมองใจในสังคม ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวยากหมากแพง ความขัดแย้งการเมือง หรือสถาบันในสังคมล่มสลาย เกิดขึ้นและลุกลามไปเพราะเราไม่ปรับปรุงทัศนคติของตนเอง เพียงแค่คิดหรือไม่ยอมก้มหน้าก้มตารับกรรมต่อไป ก็ผิดแล้ว “มองโลกในแง่ดี” จึงหมายถึงสังคมของคนที่ไม่มีปากเสียง เด็กที่ยอมทนกับการปกครองที่กดขี่ ลูกจ้างที่ยอมรับค่าแรงถูกๆ และจำเลยที่ยอมรับคำพิพากษาของสังคมอย่างไม่มีเงื่อนไข

 

รัฐประหาร 2549 ซึ่งตามมาด้วยวิกฤติการเมือง ทำให้ “มองโลกในแง่ดี” เบ่งบาน แม้แต่การเรียกร้องความเสมอภาคและความยุติธรรมในทางการเมืองก็กลายเป็นการมองโลกในแง่ร้าย มีฐานะเป็นภัยสังคมชนิดที่รัฐต้องกำจัด ยิ่งไปกว่านั้น หลังการปราบปรามผู้ชุมนุมในปี 2553 แนวคิดนี้ก้าวมาถึงจุดที่เป็นข้ออ้างในการทำสงครามและกำหราบปราบปรามฝ่ายตรงข้าม ด้วยการจับมือกันของรัฐบาล ทหารและกูรูแห่งลัทธิ “มองโลกในแง่ดี” จำนวนมาก สื่อ ศิลปะและโครงการรณรงค์ต่างๆภายใต้ชื่อใหม่ว่า “พลังบวก”บ้าง “ฝันถึงสันติภาพ”บ้าง “ไทยเข้มแข็ง” บ้าง ถูกผลิตขึ้นมาอย่างรีบด่วน ทุกชิ้นล้วนปกคลุมด้วยอุดมการณ์เก่าๆ เช่น ชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ และความสามัคคีของคนในชาติ ด้านหนึ่งปลอบใจชนชั้นกลางไม่ให้รู้สึกว่าตนมีส่วนร่วมในอาชญากรรมของรัฐ อีกด้านหนึ่งก็เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกกับวิกฤตินั้น

 

ในมุมมองของผู้เขียน “มองโลกในแง่ดี” จึงคล้ายกับคำสอนในไตรภูมิ ซึ่งว่ากันว่าเป็น “สิ่งที่ใช้ควบคุมทางสังคม เพราะสามารถเข้าถึงจิตใจทุกคนได้โดยมิต้องมีออกกฎบังคับกัน ภาพวาดชั้นเลิศจากสมุดภาพไตรภูมิ ในฐานะที่เป็นต้นแบบของนรกถูกอัญเชิญมาเพื่อถ่ายทอดความคิดของผู้ที่ต้องการพิสูจน์ว่า แม้ในขุมนรกการมองแต่แง่ดีย่อมช่วยแก้ปัญหาได้เสมอ

หรือสิ่งที่คนตั้งคำถามกับกรอบความดีลักษณะนี้ ก็อย่างเช่น
ปกนิตยสารเวย์ฉบับนี้



เริ่มงงใช่ไหมครับ ตกลงว่าที่กลุ่มพลังบวกชวนนคนมองโลกในแง่ดี ทำความดี
แล้วไหงมันกลายเป็นเรื่องที่มีคนแขวะได้ยังงี้ ยังงี้ไม่สามารถเอาไปช่วยเหลือต่อเติมแนวคิดในการทำทีสีสได้แน่นอน
แต่เอาเป็นว่าช่วยเสริมมุมมองในการตีความ เผื่อจะช่วยได้ กร๊าก







บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
ผมอ่านแล้วนึกสงสัยขึ้นมาว่า.. คนที่ "ทำดี" เรียกว่า "คนดี" ได้เลยมั้ย?
คนที่ "ไม่เคยทำดี" ยังจะพอเรียกว่า "คนดี" ได้หรือเปล่า?
คนที่ "ทำไม่ดี" คือ "คนไม่ดี" เสมองั้นเหรอ?

นึกถึงคำพูดในหนังคาวบอยแอนด์เอเลี่ยน
"บางครั้งคนเลวก็ทำดี บางครั้งคนดีก็ทำเลว"
เอ้างงให้มากกว่าเดิมอีก กร๊าก
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
ผมว่า คนดี เป้นชื่อเรียกคนที่ ทำดี บ่อยๆ  คนเลวก๋ ไว้เรียกคนที่ทำเลวบ่อยๆ   
บ่อยขนาดไหน อาจจะบ่อย จนเป็นนิสัย ละมั้ง ประมาณนั้น
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
ความดีคือการทำอะไรที่เห็นแก่คนอื่นบ้าง  อืมมมมห์
ในแต่ละวัน มันเข้ามาหาเราอยู่แล้ว
สิ่งที่ทำต้องไม่ผิดวิถีประชา ....
บันทึกการเข้า

กำลังโหลดข้อมูล .....
ไอ้คำว่าวิถีประชาเนี่ย หลังๆ บ้านเรามันบิดๆ เบี้ยวๆ นะพี่ กร๊าก
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
ในสังคมที่เป็นรัฐอิสลาม ใช้กฏหมายชารีอะห์
คนเป็นชู้กัน หรือเป็นเกย์ จะโดนหินขว้างโดยชาวบ้านจนตายได้
(stoning to death) หรือเร็วๆนี้ในอาเจะห์ เด็กผู้ชายชาวร็อค
โดนจับมาโกนหัว เพราะทำผิดวิถีของสังคม
การไม่รักหรือไม่แสดงความเคารพรักคิมอิลซุงบิดาประเทศ
ก็เป็นความผิดที่ยอมรับไม่ได้ของสังคมเกาหลีเหนือ

วิถีประชาเปลี่ยนแปลงไปตามความเชื่อและวิวัฒนาการของสังคม
แน่นอนว่าทุกสังคมมีสิ่งนี้กำกับอยู่ แต่ถ้ามันขัดขวางทิศทางในการพัฒนาของสังคม
การที่สมาชิกในสังคมจะแหก ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นความเลวอะไร
บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
คิดเหมือนกัน ..เอาแบบว่าเรื่องโดยรวมส่วนใหญ่ละกัน
ไม่เกี่ยวกับพรรคพวก หรือแนวคิดเฉพาะกลุ่มเกินไป

.................
แหกได้นะแต่ต้องมีเหตุผลและและต้องเกิดผลดีเป็นที่ยอมรับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ธ.ค. 2011, 19:24 น. โดย •หมูหมู•™ » บันทึกการเข้า

กำลังโหลดข้อมูล .....
ขอบคุณมากครับพี่ ทั้งความเห็นและคำแนะนำ พี่ทุกคนมีมุมมองที่ลุ่มลึกจริงๆครับ ผมขอนำความเห็นพี่ๆไปแตกประเด็นนะครับ ตอนนี้ผมพอจะแตกประเด็นเพิ่มเรื่่องความดีนั้นเชื่อมกับความเชื่อได้เพิ่มมาอีกประเด็นครับผม ส่วนที่พี่เก้อ แนะนำมาก็เป็นมุมมองที่ตรงประเด็นและเป็นรูปธรรมมากครับ ขอบคุณมากครับพี่ ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า
ผมคิดว่าบางทีเราก็เหมือนนักปรัชญา ที่มานั่งถกกันเรื่องที่ชาวบ้านเขาคิดเอาเวลาไปทำมาหากินเสียยังดีกว่า กร๊าก
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
ส่วนนึงที่สนใจในกลุ่มพลังบก คือ งาน ignite Thailand ครับ  ผมคิดว่าตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวครับ ผมคิดว่าคนที่ไปงานนี้อย่างน้อยน่าจะเก็บแรงบันดาลใจไปได้บ้าง และนำมาเป็นพลังขับดันความฝันของตัวเองต่อไปครับ ถ้าผมคิดผิดพลาดประการใดช่วยวิจารณ์หน่อยนะครับพี่ๆ

จะว่าไปกลุ่มนี้เบื้องหลังใครตั้งครับ ไปหาประวัติมาดูดีเชียวครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ธ.ค. 2011, 21:17 น. โดย Atom110 » บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!