หน้า: 1 ... 13 14 15 16 17 18 19 [20] 21 22 23 24 25 26
 
ผู้เขียน หัวข้อ: แผ่เมตตา  (อ่าน 84407 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
เวลาใครพูดถึงฑีปังกร ทำไมผมชอบนึกถึงอัมปังแมน ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

If the world is playground, Play together.
นั่นซุคยูร่มนะ  น้องดำ
ตูหมายถึงมุกนรกกินกบาล.. ถึงได้ ปล. แต่บังเอิญว่าขี้เกียจแอบอ้างเฟ้ย น้องดำ
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
... ช้างสารซ่านซับมัน    รันแรงร้ายเกินกำหนด
          ลือชาทั่วปรากฏ    มาลดกายให้กบกิน ...

                                               หนังสือสุภาษิตภาคใต้

   จากข้อความข้างต้น  หลาย ๆ ท่านอาจจะคิดสงสัยว่า  ช้างตัวใหญ่ยอมให้กบตัวเล็กนิดเดียวกินได้อย่างไร  คำถามนี้ยากเป็นความที่มีนัยแห่งข้อธรรมที่ลึกซึ้ง  ซึ่งผู้ประพันธ์สุภาษิตถอดความมาจากภาพปริศนาธรรม
          ภาพปริศนาธรรม เป็นการถ่ายทอด หรือ อธิบายข้อธรรมด้วยภาพมีองค์ประกอบเป็นภาพสัตว์ชนิดต่าง ๆ ทั้งประเภทจตุบาท ทวิบาท และสัตว์เลื้อยคลาน ได้แก่ ช้าง กบ นก งู  สาระในภาพสื่อให้เกิดความคิดในเชิงเปรียบเทียบ  เพื่อให้เห็นความเป็นไปตามสภาพธรรมของโลกโดยลำดับ 

          เนื้อหาของภาพเป็นเป็นตอน ๆ ต่อเนื่องกันเป็นชุด  ภาพปริศนาธรรมชุดนี้มี ๖ ตอน  ถ่ายทอดมาจากบทธรรมปฎิจจสมุปบาท



ภาพที่ ๑  เริ่มต้นด้วยภาพสระน้ำ ๓ สระ  มีคำอธิบายประกอบภาพว่า  น้ำ ๓ สระคือตัณหาทั้งสาม ได้แก่

          ๑.  กามตัณหา หมายถึง ความทะยานอยากในกาม ได้แก่  กามคุณซึ่งสนองความต้องการทางประสาททั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย

          ๒.  ภวตัณหา หมายถึง ความทะยานอยากในภพ ได้แก่  ความอยากในภาวะของตัวตนที่  จะได้  จะมี  จะเป็น

          ๓.  วิภวตัณหา หมายถึง ความทะยานอยากในวิภพ ได้แก่  ความอยากในความพรากพ้นไปแห่งตัวตน  จากความเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งอันไม่ปรารถนา



          ภาพที่ ๒  เป็นภาพช้างมีน้ำ ๓ สระอยู่ภายในท้อง  มีคำอธิบายประกอบภาพว่า ช้างสาร คือ ชาติ  กลืนน้ำ ๓ สระ คือ ตัณหาทั้งสาม



ภาพที่ ๓  เป็นภาพกบ ภายในท้องกบมีช้าง  ซึ่งมีน้ำ ๓ สระอยู่ภายในท้องช้างนั้น  มีคำอธิบายประกอบภาพว่า กบ คือ โลภะกลืนชาติ  ชาติกลืนตัณหาทั้งสาม



 ภาพที่ ๔  เป็นภาพงู ภายในท้องงูมีกบ ซึ่งมีช้างอยู่ในท้องกบ และมีน้ำสามสระอยู่ในท้องช้างนั้น  มีคำอธิบายประกอบภาพว่า งู คือ โทสะกลืนโลภะ  กลืนชาติ  กลืนตัณหาทั้งสาม



 ภาพที่ ๕  เป็นภาพนกไส้ ภายในท้องนกมีงู ซึ่งมีกบอยู่ในท้องงู มีช้างอยู่ในท้องกบ และมีน้ำสามสระอยู่ในท้องช้างนั้น  มีคำอธิบายประกอบภาพว่า  นกไส้คือโมหะกลืนทั้งนั้นบินไปจับต้นอ้อ



    ภาพที่ ๖  เป็นภาพต้นอ้อ ซึ่งนกไส้บินไปเกาะอยู่นั้น และมีหนู ๔ ตัวกำลังกัดกินโคนต้นอ้อนั้น  มีคำอธิบายภาพว่า  ต้นอ้อคือตัวอาตมา  หนู ๔ ตัว คือ  ชาติ  ชรา  พยาธิ  มรณะ

          การถ่ายทอดบทธรรมปฏิจจสมุปบาท เป็นภาพเปรียบเทียบให้เห็นกิเลสที่ปรุงแต่งเป็นปัจจัยต่อ ๆ กันไป  เป็นร่างกายที่มีจิตประกอบด้วยกิเลสเป็นความทุกข์  เนื่องจากกิเลสซ้อนกันอยู่เช่นนั้น

          ภาพปริศนาธรรมดังกล่าวนี้  ในสมัยโบราณนิยมเขียนภาพลงในสมุดไทย  นอกจากนั้นยังพบในงานลายรดน้ำบนตู้พระธรรม  และในงานจิตรกรรมฝาผนังตามโบสถ์ วิหาร ก็มีบ้าง  ซึ่งบรรพบุรุษไทยสร้างสรรค์ขึ้น

          ใช้เป็นอนุศาสน์สำหรับให้คนทั้งหลาย ได้รำลึกถึงความเป็นไปอันไม่แน่นอนของชีวิต  ดังเช่นต้นอ้อเป็นไม้ไม่มีแก่น  เป็นที่ตั้งที่อาศัยของจิตอันประกอบด้วยกิเลส ตัณหา อุปาทาน  ซ้อนกันอยู่มีความแก่  ความเจ็บ  ความตายเบียดเบียนกัดแทะเป็นนิจ 

          ฉะนั้น ควรที่คนทั้งหลายพึงพิจารณา และเตรียมพร้อมไว้ไม่ให้เกิดความประมาทในชีวิตนั่นเอง

เท่มั้ย
บันทึกการเข้า

กินรอบวง
ที่นี่คือสถานที่ที่มีความเป็นตัวตนสูง คนที่นี่มีความหลากหลายและอยู่ร่วมกันมายาวนาน
เข้ามาแล้วจะให้ทุกคนเข้าใจเรา คงเป็นไปได้ยาก
ผมอยู่ที่นี่เกือบสามปีแล้ว ยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นสาวกใหม่เพิ่งสมัครเข้ามาเมื่อวานวันซืนนี้เอง
แล้วคนอื่นที่เค้าอยู่มาก่อนล่ะ
แล้วคนที่เพิ่งเข้ามาชั่วครู่ชั่วยามล่ะ

ไม่เคยมีวันไหนเลยที่ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคม เราเป็นแค่เปลือกของที่นี่เท่านั้น
บันทึกการเข้า

ต๊กต๋าเปิ้นเป๋นดีไค่หัว ต๊กต๋าตัวเป๋นดีไค่ไห้
A : วันก่อนครับ
B : ยังไงครับ
A : ได้สนทนาธรรมกับหลวงพี่องค์หนึ่งในบอร์ดครับ
B : พระยุคไอที ธรรมเดลิเวอรี่ เข้าถึงฆราวาส
A : คุยกันไปคุยกันมาเห็นทางสว่างเลยครับ
B : ธรรมกล่อมเกลาจิตใจถึงแก่นแท้ของชีวิต
A : เถียงกันทั้งคืน จนฟ้าสาง แดดส่องแยงตาแทบบอด
B :......................................................

A : วันก่อนครับ
B : ยังไงครับ
A : ได้สนทนาธรรมกับหลวงพี่องค์เดิมในบอร์ดครับ
B : วินัยภิกษุ ไม่ย่อท้อต่อมารผจญ อดทนอดกลั้นต่อการโปรดสัตว์
A : คุยกันไปคุยกันมาหัวโล่งอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
B : ธรรมกล่อมเกลาจิตใจถึงแก่นแท้ของชีวิตอย่างแท้จริงไม่เหมือนคราวก่อน
A : นรกแดกกบาลเกลี้ยงแล้วครับ
B :......................................................


 กร๊าก กร๊าก กร๊าก

ชอบๆ เอาอีกๆ
บันทึกการเข้า
คิดว่าครบกำหนดแล้ว
โยมณตคงจะช่วยกรุณาลบให้ได้แล้วครับ
อย่างที่บอกนั้นแหละครับ จบก็คือจบ
ใครเต็มใจอยากตั้งกระทู้ใหม่ที่เห็นว่าดีกว่านี้ ก็ทำได้เลยครับ
ตรงนี้หลวงพี่คิดว่าได้เปิดใจให้แสดงความคิดเห็นต่อคำถามแล้ว
แต่โยมหันมาวิพากษ์วิจารณ์คำตอบและหลวงพี่ผู้ตอบ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดี
แต่ทว่าโยมไม่หาคำตอบที่ตนเองเห็นว่าดี หรือเสนอแนะอะไร มุ่งวิจารณ์ถ่ายเดียว
โดยไม่ฟังก่อนว่าหลวงพี่พูดจบยัง โยมไม่ถามก่อนว่าอะไรเป็นอะไร
แทนที่จะหาคำตอบร่วมกัน หรือเสนอความคิดเห็นที่ตนเห็นดีด้วย ให้คนอื่นฟังด้วย


เมื่อเป็นแบนี้ หลวงพี่จึงคิดว่า พอล่ะครับ
ไม่ใช่การใจแคบหรือตัวตนสูงอะไร เพราะได้ให้แสดงความคิดเห็นต่อคำถาม คือช่วยกันตอบคำถาม
ไม่ใช่มาวิพากษ์แนวความคิดกัน เพราะเรารับรู้มาต่างกันอยู่แล้ว
ดังนั้น จบได้แล้วครับ
ขอบคุณมาก.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 พ.ย. 2011, 13:26 น. โดย Alsmile » บันทึกการเข้า

sometimes you need to let things go.
ไม่แน่ใจว่าหลวงพี่ทราบเรื่องนี้หรือเปล่า แต่คิดว่าคงรับรู้แล้ว
คือสาวกส่วนใหญ่ของที่นี่ ความกวนส้นเท้ามีระดับสูงถึงสูงลิ่วถึงสูงลิบลิ่ว
และสาวกส่วนใหญ่ก็อยู่กันมานาน เจอกันทั้งในบอร์ดและตัวจริงๆ กัน

เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านตัวอักษรและเว็บบอร์ด
ดังนั้นโอกาสที่จะสื่อสารคลาดเคลื่อนไม่เข้าใจกัน มันมีสูงพอสมควร  
บางทีสาวกใหม่ๆ เข้ามาเจอแบบนี้ ก็เหวอไปตามๆ กันครับ




หลวงพี่ไม่ได้คิดแบบนั้น และรู้ว่าโยมรู้จักกันมานาน
ที่หลวงพี่รู้ก็คือว่า โยมส่วนมากเห็นว่าไม่ดี ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ หรืออะไรนั้น
แต่โยมกลับไม่ยอมรับความจริง คือไม่ยอมเลิก ไม่ยอมจบ คือจบไม่ลง
ทั้งนี้โยมเคยกล่าวว่าหลวงพี่ยึดมั่นถือมั่นไว้ แต่ตอนนี้พอหลวงพี่ปล่อย
โยมก็ยังจะไม่ยอมให้หลวงพี่ไป

ตามนี้ครับ เจริญพร.
บันทึกการเข้า

sometimes you need to let things go.
หลวงพี่ไม่ได้คิดแบบนั้น และรู้ว่าโยมรู้จักกันมานาน
ที่หลวงพี่รู้ก็คือว่า โยมส่วนมากเห็นว่าไม่ดี ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ หรืออะไรนั้น
แต่โยมกลับไม่ยอมรับความจริง คือไม่ยอมเลิก ไม่ยอมจบ คือจบไม่ลง
ทั้งนี้โยมเคยกล่าวว่าหลวงพี่ยึดมั่นถือมั่นไว้ แต่ตอนนี้พอหลวงพี่ปล่อย
โยมก็ยังจะไม่ยอมให้หลวงพี่ไป

ตามนี้ครับ เจริญพร.

หลวงพี่ครับงั้นหลวงพี่แจ้งจุดประสงค์ที่ต้องการให้ลบมาเป็นข้อๆจะได้หรือไม่ครับ?
แบบเป็นส่วนรวมนะครับ

จากที่อ่านผมเห็นเพียงข้อเดียวที่หลวงพี่พูดถึงคือ

  • จะทำให้ภิกษุสงฆ์เสียหาย-----เนื่องจากเกรงผู้ไม่ใส่ใจเพียงพอจะตีความบทสนทนาแบบเหมารวม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 พ.ย. 2011, 12:29 น. โดย Bozu » บันทึกการเข้า

If the world is playground, Play together.
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพยาปัชฌา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เถิดฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 พ.ย. 2011, 12:25 น. โดย Alsmile » บันทึกการเข้า

sometimes you need to let things go.
หลวงพี่เป็นพระจริงๆ ใช้มั้ยครับ หมีโหด~
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพยาปัชฌา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เถิดฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 พ.ย. 2011, 12:25 น. โดย Alsmile » บันทึกการเข้า

sometimes you need to let things go.
อาจจะไม่ชินกับ Two-way Communication
บันทึกการเข้า
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพยาปัชฌา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เถิดฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 พ.ย. 2011, 12:25 น. โดย Alsmile » บันทึกการเข้า

sometimes you need to let things go.
"ไม่กระจ่าง"
บันทึกการเข้า

If the world is playground, Play together.
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพยาปัชฌา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เถิดฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 พ.ย. 2011, 12:25 น. โดย Alsmile » บันทึกการเข้า

sometimes you need to let things go.
หน้า: 1 ... 13 14 15 16 17 18 19 [20] 21 22 23 24 25 26
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!