อย่าเลยโยม แม้ในสมัยไหน ๆ ก็เหมือนกัน บุคคลเขาก็ตำหนิวิจารณ์ อันนี้รู้ว่าเป็นเรื่งปกติ
แต่ในตรงนี้คือจุดที่หลวงพี่เกี่ยวข้องด้วย ถ้าเราแต่งอาหารมาต้อนรับแขกแล้วเขาไม่รับประทานเราก็ควรเก็บไว้จะดีกว่า
สมัยพุทธกาล
อุบาสก อตุละ ชักชวนบริวารทั้ง 500
ไปฟังเทศน์ที่สำนักพระศาสดา
ตอนเช้า ได้ไปหาพระเรวตเถระซึ่งเป็นพระอรหันต์
นิมนต์อาราธนาเทศน์ ท่านเงียบ
อุบาสกนินทาท่านว่า
องค์นี้ไม่พูดเลย อุบาสกจึงชักชวนบริวารทั้งหมดเดินทางต่อไป
พบพระสารีบุตร ซึ่งเป็นพระอัครสาวก
เป็นผู้เลิศทางปัญญา เป็นผู้แตกฉานในการแสดงธรรม
พระสาลีบุตรแสดงธรรมโดยพิสดาร
อธิบายหัวข้อธรรมอย่างละเอียด
อุบาสกอตุละ นินทาท่านว่า
พระองค์นี้ พูดมากไป อุบาสกจึงชักชวนพรรคพวกเดินต่อไปอีก
ตกบ่ายได้พบพระอานนท์
พระอานนท์แสดงธรรมโดยย่อให้เข้าใจง่ายๆ
เมื่อฟังเทศน์จบ อุบาสกอตุละ ก็ว่า
พระองค์นี้เป็นอะไร
พูดน้อย ตอนเย็นก็ไปถึงที่พักของพระพุทธองค์
อุบาสกอตุละได้เล่าให้พระพุทธองค์ฟังเรื่องตั้งแต่เช้า
พระพุทธองค์ จึงตรัสว่า
อตุละเอย คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก
แม้แต่พระพุทธเจ้าก็คงจะถูกอตุละนินทาว่า
เทศน์ไม่เก่งเนื้อความโดยพิสดาร
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=27&p=7ก็ในเมื่อ Assumption เบื้องต้นเรามีอยู่และหลวงพี่ก็จัดการไปทีละขั้นตอน
แต่โยมไม่ทำตามกับละเมิดทั้งที่เตือนไว้แล้วหลายครั้ง
ที่โยมจักรีเข้าใจนั้นถูกต้องแล้วในเรื่องการขัดเกลามนุษย์สัมพันธ์ร่วมกัน แต่โยมไม่ทำตามนั้นก็เป็นอันโมฆะ
เพราะฉะนั้น ไม่มีประโยชน์ที่โยมจะฟังก็ควรลบทิ้งเหอะครับ เงียบไว้ นิ่งไว้ ไม่ต้องแล้ว
หลวงพี่จะได้ทำกิจอื่นที่โยมเห็นว่าไม่ขัดผิดหรือแปลกอะไร เพราะมันทำให้โยมคิดอกุศลกรรมไปเท่านั้น อย่าเลย อย่าเลย...