หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9
 
ผู้เขียน หัวข้อ: รับน้อง (  (อ่าน 32754 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
พี่
บันทึกการเข้า

ตามหารักแท้ค่ะ โฮกกก
ขุด (แล้วก็ลบสึนามิออกไปด้วยหมดเลยครับ)


รับน้องมมส

คลิปและเรื่องนี้เจ๋งครับ
จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.)
ว่าด้วยเรื่องการลุกฮือขึ้นต่อต้านระบบรับน้องในมหาลัย


http://www.prachatai3.info/journal/2011/06/35345
อ่านเต็มๆ ได้จากนี่ครับ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ตูเห็นด้วยนะ ตอนตัวเองโดนรับน้องก็ต่อต้านเหมือนกัน ไม่ค่อยกลัวรุ่นพี่เท่าไหร่ ขวางโลกอยู่คนเดียว  กร๊าก

แต่อ่านคอมเม้นในเว็บนั้น เหมือนมันจะโยงไปเรื่องอื่นนะ
บันทึกการเข้า

กาก
แหงสิ นั่นเว็บอะไร กร๊าก

แต่ในยูทูบมีคนกด Dislike เพียบเลยนะ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ยุคสมัยมันเปลี่ยนครับ จากสมัยรุ่นผมทั้ง วิดพื้น วิ่งกลางแดด ลงน้ำ กลิ้งไปกะโคลน

แต่พอมาสมัยนี้แค่ให้นั่งในร่ม ทำท่าขัดฉากอยู่ยี่สิบนาที เป็นลมเป็นแล้งกันแล้ว คนที่ซวยคือรุ่นพี่นี่แหละค้าบบบบ  ฮือๆ~
(บางทีตอนว้ากมันไป กลัวมันลุกขึ้นมาต่อยสวนตูจะทำยังง้ายยยย   ฮือๆ~ )

(ตอนนี้มีกฏว่า ห้ามรุ่นพี่ถูกตัวรุ่นน้องโดยเด็ดขาด)

แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันก็คือละครฉากใหญ่ ที่เซ็ตขึ้นมา มีโจร มีพระเอก มีสปาย พอถึงที่สุดมันก็แฮปปี้เอนดิ้ง

ถามว่ามันทำให้รักกันมั้ย  ตอบเลยว่ามันทำให้รักกันแบบที่มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้ามันแม่งตบหัวเราสาระพัด มาลูบหลังเอาวันสุดท้าย

น่าแปลกเหมือนกัน

ไม่รู้สิ ในนี้เด็กศิลปากรเยอะ ทำไมวันที่ทำทีสีส จบ รุ่นพี่บางคนที่แก่คราวพ่อ ยังไปช่วยน้องต่อโมเดล

ผมไม่ห่วงกับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อ (อ้าว!!มันก็มีชื่อทุกสถาบันนั่นแหละ)

ผมกลัวด้านมืดมากว่า ที่พาน้องเอาหัวทิ่มทราย  หรือเล่นถึงจู๋ ตามที่เคยมีข่าวมา

อะไรที่มันมากเกินไปก็ไม่ดี


 
บันทึกการเข้า

กินรอบวง


เมื่อก่อนมันบริสุทธ์ใจกว่านี้อะ คือรู้แหละว่ามันเป็นพิธีกรรม เราจะเข้าหรือไม่ก็แล้วแต่เรา

จุดประสงค์แต่แรกมันดีนะ แต่มันเสื่อมลงๆ
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
คณะตูไม่มีอะไรเสื่อมๆ แฮะ
แต่ก็มีตะคอกนะ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ดูจากกระแสนิยมแล้ว

อนาคตน่าจะมีรับน้องผ่านโซเชียลเนตเวิร์ก หน้ามึน

ยิ่งเข้าสู่ยุคดิจิตอลทุกอณูขุมขนแบบนี้แล้ว

ก็นะ อี๋~

บันทึกการเข้า

ความไร้เหตุผลก็เป็นเหตุผล
คณะผมเข้าตามสมัครใจครับ
และเข้าไปนี่ก็ไม่ได้ส่งเสริมให้เคารพรุ่นพี่นะ แต่สร้างความเป็นเพื่อนในชั้นปีเดียวกันให้สนิทๆ กันไว้แค่นั้นแหละ
บันทึกการเข้า

หนุ่มอักษรรักแน่ รักแท้ตลอดกาล~
คณะตูไม่มีอะไรเสื่อมๆ แฮะ
แต่ก็มีตะคอกนะ
เทียบยากครับ เรื่องนี้เคยคุยกะเก้อ.. ทำไมจิตกัม ถาปัดเด็ค (คณะอื่นไม่รู้)
เด็กมันถึงไม่หือไม่อือ ทั้งๆ ที่ส่วนใหญ่แม่งก็อีโก้สูงกันจะตายห่า
จริงๆ แล้วอธิบายได้ง่ายมาก ว่าเด็ก "ส่วนมาก" มันอิน อยากเข้าที่นี่เหี้ยๆ เพราะงั้น รุ่นพี่มันจะทำไรมันก็ว่าเท่หมดอะครับ

ปล. ตอนอยู่บางมดผมก็เป็นสต๊าฟนะ และก็เป็นด้วยเงื่อนไขของตัวเองว่าไม่มีว้ากก็ได้ ไร้สาระ โดยเฉพาะไอ้การทีต้องให้สต๊าฟแสดงเป็นคนอื่นไรงี้ (รุ่นพี่ด่าเปิง)
สรุปรุ่นผมจัดกิจกรรมแม่ม เดือนละสองสามอย่าง (จัดทั้งปี) มันก็เหมือนส่งปีหนึ่งไปเล่นเกมโชว์อะ เน้นฮา เอามัน (วันทำอาหารยังมี) ด้วยเหตุผลที่ว่า จะมาเที่ยวตะโกนให้มันรักกันได้ไงเวลาแค่สองสามเดือน พี่น้องมันแท้ๆ มันยังไม่ได้รักอย่างที่มึงตะโกนบอกเลยมั้ง หาเวลาให้มันอยู่ด้วยกันดีกว่า เดี๋ยวมันคิดได้เองแหละว่ามันจะรักใคร จะเกลียดใครอะ กร๊าก
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
โอยยยๆๆๆ อึดอัด  โวย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 มิ.ย. 2011, 19:28 น. โดย แฮ่กๆๆๆๆๆ » บันทึกการเข้า

กาก
จริงๆ แล้วอธิบายได้ง่ายมาก ว่าเด็ก "ส่วนมาก" มันอิน อยากเข้าที่นี่เหี้ยๆ เพราะงั้น รุ่นพี่มันจะทำไรมันก็ว่าเท่หมดอะครับ

จริงที่สุด อย่าง ม. ผม การรับน้องเป็นอะไรที่เบื่อพอๆ กัน ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง หน้ามึน
บันทึกการเข้า

ไม่รู้ว่าการรับน้องมันน่าเบื่อ เครียด ทรมานยังไง
เพราะเข้าไปได้ไม่กี่ครั้ง ก็คิดว่า ทำไมต้องมาทนนั่งนิ่งๆ ฟังรุ่นพี่ให้ยุงกัดด้วยวะ
ถ้าเป็นไข้เลือดออกรุ่นพี่แม่งรับผิดชอบชีวิตเราได้มั้ย

ว่าแล้วก็ผันตัวไปเป็นนักกีฬาเพื่อที่จะไม่ต้องเข้าห้องเชียร์  อืมมมมห์
เวลาเพื่อนมาด่าพี่ว้าก เครียดงู้นงี้ก็เออออห่อหมกพร้อมช่วยด่าตามน้ำไปด้วย
ก็ไม่เห็นมีใครรู้ว่าเราไม่เข้าห้องเชียร์ นอกจากพวกนักกีฬาด้วยกัน  อ๊าง~
ไม่รู้สึกแปลกแยกอะไรกับเพื่อนนะ  ลันล้า
โดนเจ้านายด่าก็ไม่ได้ทนไม่ไหวลงไปชักดิ้นชักงอน้ำลายฟูมปากแต่อย่างใด  อ๊าง~

จบมาทำงานดันได้เป็นอาจารย์ฝ่ายกิจการนักศึกษา
ปีที่แล้ว นักศึกษารับน้องกัน เด็กชัก เข้าโรงพยาบาล
เดือดร้อนอีก สองทุ่มกว่าแล้วต้องแต่งตัวออกจากบ้าน
เห็นพวกรุ่นพี่ยืนหน้าซีดกันอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
อาจารย์ก็ยืนฟังพ่อแม่เด็กด่าไปเหอะ  3cษ หูชาเลย แสรด
ว้ากกันเอง แล้วไม่มารับผิดชอบฟังคำด่าวะ  โวย

ไอ้พวกให้กลิ้งไปบนพื้นถนน พื้นที่มีโคลนอีก
มารับผิดชอบซักผ้าให้มั้ย  โวย
บันทึกการเข้า
(สมัยก่อน)
บางคณะมีความจำเป็นจริงๆนะ ที่ต้องฝึกหนัก พวกคณะเกษตร วนศาสตร์ ประมง
เพราะบางคนเลือกห้อยท้ายไว้กันเหนียว เผื่อผิดหวังจากคณะอื่นๆ อันนี้ต้องพูดกันตามตรง
บางคนเป็นลูกคุณหนูมา ก็ต้องให้โดนแดด โดนลมกันบ้าง
เรียนคณะพวกนี้แต่ ไม่กล้าลุยโคลน กลัวลำบาก ก็คงไม่เข้าที
และระบบรับน้องของสามคณะนี้เชื่อว่า เป็น กิจกรรมที่ยังคงบริสุทธิ์อยู่

 อย่างคณะวนศาสตร์ ถูกระบุจากคณะว่าต้องผ่านกิจกรรมรับน้อง 
ด่านท้ายสุดเป็นวิ่ง 15 กิโล โหดสุดๆ แล้วไม่ใช่หมดปีหนึ่งจะรอด  ปีสอง  ปีสาม  ต้องร่วมวิ่งกับน้องด้วย ฮือๆ~




แล้วระบบรับน้องของบอร์ดฟอนต์ล่ะ??? ในสมัยก่อนก็ไม่ต่างอะไรกะระบบโซตัส สาปแดดิ้นกันลูกเดียว (ถึงแม้ผมจะมาในยุคกลางๆก็เถอะ)
ผมว่ามันก็มีส่วนทำให้ บอส นานา สาม เร่ ห้าโอ เคน บุ๊ค และคนอื่นๆ  เติบโตมาเป็นเกรียนอย่างมีคุณภาพ (เอ้าจริงๆนะ)

ใครจะไปนึกว่าวันนึงไอ้เคน ที่เล่นมุขอาเบะ ฮาร์ดเกย์ และโปรดปราณเลดี้กาก้าเป็นชีวิต ฯลฯ  วันนึงมันจะโตขึ้นมาแล้วกลายเป็นหมอ  โวย

ทุกวันนี้ ผมสอนเด็กชั้นมัธยม ไม่รู้กี่ร้อยคนแล้ว ยังไม่เจอเด็กที่ EQ และภูมิคุ้มกันแกร่งกล้าเท่าน้องๆในบอร์ดฟอนต์เลยว่ะ
บันทึกการเข้า

กินรอบวง
อย่างคณะวนศาสตร์ ถูกระบุจากคณะว่าต้องผ่านกิจกรรมรับน้อง 
ด่านท้ายสุดเป็นวิ่ง 15 กิโล โหดสุดๆ แล้วไม่ใช่หมดปีหนึ่งจะรอด  ปีสอง  ปีสาม  ต้องร่วมวิ่งกับน้องด้วย ฮือๆ~

เคยไปวิ่งด้วยอยู่สองปี สนุกมาก  โวย
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!