เค้ายังหาเสาไม่เจอเลยแอ้
ว่างๆ แอ้มาช่วยหาทีว่าเสาต้นไหนน่ากอดเวลาเกิดเหตุ
เขาอุตส่าห์หวังดี เนี่ยชวนผัวเธอด้วย
แล้วให้เค้าสองคนอยู่ตรงระเบียงช่ายม้ายยย
สองผัวเมียเมืองทองเจ๋งว่ะ
ตอนเค้าทำความสะอาดพรม นึกว่าแ่ผ่นดินไหว
พอแผ่นดินไหวจริงๆ ดันคิดว่าไม่ใช่
ตูว่าถ้าไหวหนักๆ ทั้งตึกรอด เว้นสองผัวเมีย
เพราะมัวแต่สับสน
ไอ้นี่มั่วละ ไม่ใช่พรมเว้ย
ไอ้ปุกคงไม่รู้จักการขัดผิวพื้นปาร์เก้อีกตามเคย
ใครรู้ว่าเป็นไงช่วยอธิบายให้มันฟังหน่อย
ว่าความสั่นสะเทือนมันมากขนาดไหน
เอาเป็นว่าน่ากลัวกว่าไอ้ที่ไหวๆ ใน กทม เมื่อคืนนี้ละกัน
เพราะการสั่นสะเทือนมันเกิดบนตัวตึก ที่ห้องชั้นบนเหนือหัวไปไม่กี่เมตร
เมื่อคืนตึกมันแกว่ง เบาๆ ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
ไม่ใช่สั่นสะเทือนเหมือนทางเหนือ คนจะรู้สึกเหมือนมีอาการ seasick
ตูสองคนก็เลยคิดว่ามันน่าจะเกิด Resonance จากอะไรบางอย่าง
แต่ไม่รู้ต้นเหตุ ในเมืองทองก็เพิ่งจะจุดพลุจนตึกสั่นไปหมาดๆ
ฉะนั้นเผ่นก่อนดีกว่า เพราะตึกมันเก่าเอาการ
หนีเพราะไม่ไว้ใจมาตรฐานการก่อสร้าง เมื่อคืนหลังกลับคืนรัง นักวิชาการให้สัมภาษณ์ช่อง 3
ว่าทำไมเวลาเกิดแผ่นดินไหวไกลๆ แล้วใน กทม ถึงรับรู้ได้
ไกลกว่านี้ที่เกาะชวา กทม ก็เคยรับรู้ได้เหมือนกัน ถ้าความถี่ของวัตถุตรงกัน
เพราะไอ้ที่ไหวๆ ใน กทม มันเป็นการสั่นพ้อง/สั่นกำธร (Resonance)
ปุกลองดูอันนี้เป็นตัวอย่างคร่าวๆ อันนี้เกิดจากลม
A bridge across the Volga river in Volgograd, Russia